29 ส.ค. 2022 เวลา 00:03 • ความคิดเห็น
1001 วันของวงจรชีวิตไก่งวง
Nassim Taleb ผู้เขียนหนังสือ black swan อันโด่งดังเคยเล่าเรื่องวงจรชีวิตของไก่งวงที่ถูกเลี้ยงไว้สำหรับฉลอง thanksgiving day ที่สหรัฐไว้อย่างน่าสนใจ
3
ลองนึกถึงในมุมชีวิตที่มีความสุขของไก่งวง วันหนึ่งๆก็จะมีชาวนามาให้อาหารทุกวันเพื่อขุนให้อ้วนพี ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งทำให้ไก่งวงมั่นใจขึ้นเรื่อยๆถึงธรรมชาติแห่งชีวิตแสนสุขว่าทุกวันนั้นจะมีอาหารมาป้อนให้กินทุกวันด้วยมนุษย์ผู้แสนจะเป็นมิตรที่คอยดูแลสารทุกข์สุขดิบให้ เวลาผ่านไปพันวัน จู่ๆบ่ายวันหนึ่งก่อนเทศกาลขอบคุณพระเจ้าสองวัน มนุษย์ผู้ที่ไก่งวงคุ้นเคยนั้นก็มาอุ้มตัวเจ้าไก่งวงนั้นไปเชือด.. ลองคิดถึงโลกที่กลับตาลปัตรอย่างไม่ทันตั้งตัวของเจ้าไก่งวงดู
1
ทาเลปอธิบายปรากฏการณ์นี้ง่ายๆด้วยกราฟที่เรียกว่า “ 1000 and 1 days in the life of a thanks giving turkey “ ซึ่งผมเห็นกราฟนี้ครั้งแรกจากการบรรยายในคลาสเอบีซีของคุณแมน สรวิศ แห่ง band protocol เมื่อวันก่อน กราฟนี้โชว์ความสุขสบายของไก่งวงที่ค่อยๆเพิ่มแบบไม่มีสะดุดมาเป็นเวลาพันวันก่อนที่จะปักหัวดิ่งในวันสุดท้าย คุณทาเลปสรุปข้อสังเกตไว้อย่างน่าสนใจว่า
5
ถ้าพิจารณาดีๆแล้ว ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยของเจ้าไก่งวงนี่ขึ้นสูงสุดในจังหวะที่ความเสี่ยงของชีวิตนั้นพีคพอดี …เป็นเรื่องย้อนแย้งที่น่าคิดเป็นอย่างยิ่ง
Nassim Taleb
1
เหตุการณ์แบบวงจรชีวิตไก่งวงนี้ ถูกอธิบายในโลกของการเงินซ้ำแล้วซ้ำอีก ประเทศไทยก็เคยเป็นไก่งวงสมัยปี 1997 ที่ทุกอย่างดูสวยงาม ฟองสบู่โป่งพองขึ้นเรื่อยๆ ซื้อที่ที่ก็ขึ้น ซื้อหุ้นหุ้นก็ขึ้น บริษัทกู้หนี้ยืมสินมาอย่างเต็มที่เพราะแค่กู้มาฝากก็กำไรง่ายๆ โลกดูใจดีกับประเทศไทยเป็นพิเศษ จนถึงวันที่ประกาศลดค่าเงินบาท ทุกอย่างก็พังทลายลงในเช้าวันนั้น
4
หรือเหตุการณ์เมื่อไม่นานมานี้ในโลกของคริปโต เหรียญ LUNA ที่ค่อยๆขึ้นสูงไปเรื่อยๆจนคนแห่เข้ามาด้วยความมั่นใจ คนที่ถือก็เชื่อมั่นมากขึ้นทุกวันจากราคาที่สูงขึ้น เรื่องราวของ stable coin ที่อ่านทีไรก็ดู make sense ไม่น่าจะมีอะไรให้กังวลชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า stable จนวันหนึ่ง เหรียญที่เคยมีมูลค่าสามพันบาทก็เหลือเพียงหนึ่งสตางค์.. ความเสี่ยง ช่องโหว่ต่างๆถึงค่อยๆถูกวิเคราะห์ วิจารณ์และชำแหละในตาสว่างกันเมื่อสายในที่สุด บางคนเพิ่งรู้ว่า luna ทำอะไรหลังจากถือมานานในวันที่เหลือหนึ่งสตางค์เอาด้วยซ้ำ…
6
เหตุการณ์แบบนี้ไม่ใช่เกิดเฉพาะในโลกแห่งการเงินเท่านั้น โลกของธุรกิจที่เคยทำกำไรจากวิธีการเดิมๆมาหลายทศวรรษ ไม่เห็นว่าจะมีอะไรที่มาทำให้สะดุดล้มตายไปได้ อยู่มาวันหนึ่งฟ้าก็ผ่าลงของการมาถึงของคู่แข่งรายใหม่ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย ถูกกว่า ไวกว่า เร็วกว่า
1
หรือแม้แต่ผู้บริหารระดับสูงที่คิดว่าตัวเองสำคัญ บริหารงานมาหลายสิบปี มั่นใจในตัวเองขั้นสูงสุดจนเมื่อถึงวันที่ถูกเรียกไปบอกว่ามีคนใหม่มาแทนอย่างที่ตัวเองไม่เคยเตรียมตัว ไม่เห็นสัญญานอะไรมาก่อน ต้องมาตกม้าตายเอาวันที่อายุเยอะจนไม่รู้จะไปหางานใหม่ที่ไหนได้ง่ายๆอีก เรื่องราวของสามีที่แต่งงานมาหลายสิบปี ภรรยาอยู่ในโอวาทจนวันหนึ่งก็เดินมาขอหย่าแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ฯลฯ
1
ผมเองก็เคยเจอเหตุการณ์ไก่งวงแบบนี้ แล้วก็อาจจะเป็นตลกร้ายอยู่เหมือนกันเพราะป้อนตัวเองที่เหมือนไก่งวงด้วยอาหารการกินชั้นดีทุกวัน ไม่กินผัก ไม่กินสายสุขภาพใดๆทั้งสิ้น แถมไม่ออกกำลังอยู่สิบปีตั้งแต่หนุ่มๆจนอายุสามสิบเจ็ด น้ำหนักก็ค่อยๆเพิ่มพูนขึ้นจนจะแตะร้อย
1
แต่ก็ไม่เคยป่วยอะไรมากมาย ใจก็เริ่มคิดว่ายังมีเวลาอีกหลายปี เดี๋ยวค่อยลดก็ได้ หนุ่มๆอยู่ก็ไม่น่าเป็นอะไรและก็ไม่เห็นเป็นอะไรด้วย จนบ่ายวันหนึ่งหลังจากหลายพันวัน กราฟสุขภาพผมก็ตกวูบ คืนนั้นเป็นคืนแรกในชีวิตที่ร่างกายทนไม่ไหว หัวใจเต้นผิดปกติอย่างมากจนต้องไปนอน CCU โลกที่เคยคิดว่าตัวเองแข็งแรงก็กลับหัวกลับหางภายในพริบตา กว่าจะฟื้นฟูร่างกายเปลี่ยนนิสัยได้ก็หลายเดือนต่อมา
2
  • บทเรียนแรกของวงจรไก่งวง
บทเรียนแรกของวงจรไก่งวงนั้นก็คือ เหตุการณ์ที่ดูเหมือนไม่คาดคิดทั้งหลาย หลายๆครั้งมีสัญญานเตือนอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่ความสะดวกสบาย ความร่ำรวย และความที่ไม่เคยเกิดขึ้นมานั้น ทำให้คนส่วนใหญ่ประมาท (complacent) ไม่สังเกตเหตุการณ์ที่เป็นเหมือนคำเตือน เป็นป้ายเตือนเป็นระยะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพที่ดัชนี BMI ทะลุมานาน เรื่องตำแหน่งใหญ่โต อำนาจที่ถือมานานก็ทำให้คิดว่าตัวเองนั้นยิ่งใหญ่ ด่าใครดุใครสั่งใครก็ได้ สั่งสมความไม่พอใจให้กับคนรอบข้าง
เรื่องงานที่บริษัทเริ่มเจอคู่แข่งแบบใหม่ วิธีการเดิมใช้ไม่ได้ ต้องเปลี่ยนทิศทางซึ่งต้องการคนทักษะใหม่ๆเข้ามาแก้สถานการณ์ เรื่อง business model ที่คิดว่าตัวเองมีฐานลูกค้าแข็งแรง โลกไม่ได้เปลี่ยนขนาดนั้นหรอก เรามีเวลาปรับตัวเสมอ (ชื่อ blockbuster nokia kodak ก็จะลอยมาทันที)
3
หรือเรื่องการลงทุนที่อาจจะมีคำเตือน มีสัญญานที่ถ้าตั้งใจฟังดีๆ ไม่หูดับด้วยความโลภก็จะเห็น เช่นตอนที่เฟดปั๊มเงินเข้าระบบ (QE) หุ้นก็ขึ้นอย่างบ้าคลั่ง พอถึงเวลาเฟดจะดึงเงินออก (QT) โดยตรรกะเดียวกัน หุ้นก็ควรจะลง เป็นต้น
2
อำนาจ ความสบายและมั่นคงจนเคยชินนั้นทำให้ตาพร่า คิดเข้าข้างตัวเอง จนในที่สุดก็ไม่ได้เตรียมอะไรเผื่อวันร้ายๆ ตกสวรรค์จนถึงพื้นภายในชั่วพริบตา
  • บทเรียนที่สองของวงจรไก่งวง
บทเรียนที่สองของวงจรไก่งวง ก็คือ การที่ใช้ความรู้ ข้อมูลในอดีตเพียงอย่างเดียวมาคาดการณ์อนาคตนั้น ทำให้มีโอกาสที่จะเกิด doomsday แบบไก่งวงได้ โดยเฉพาะโลกแห่ง VUCA ในยุคนี้สมัยนี้ บริษัทที่ทำการวางแผนสามปีห้าปี ตั้งงบประมาณต่างๆจากข้อมูลยอดขาย กำไรในอดีต แล้วผ่านไปหลายปีก็ยังพอใช้ได้ ซึ่งจะนำมาถึงความเชื่อผิดๆที่คิดว่าตัวเองทำนายอนาคตได้แม่น มั่นใจในแผนที่ไม่ต้องปรับอะไรตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป จนเมื่อมีเหตุการณ์รุนแรงมาถึงก็สายเกินไปที่จะปรับตัว
3
ยิ่งเจอโควิดที่ทำให้หลายธุรกิจเจอวิกฤตตกเหวในวันเดียวแบบไก่งวง ธุรกิจสมัยนี้จึงไม่มีใครทำแผนสามปีห้าปีกันอีก ไม่ต้องพูดถึงแผนยุทธศาสตร์ยี่สิบปีที่ใช้วิธีคิดนี้ ซึ่งพอแค่ผ่านไปปีเดียวเจอวิกฤตโควิดและการเปลี่ยนแปลงต่างๆ แผนนั้นก็ใช้ไม่ได้อีกต่อไป..
6
  • บทเรียนที่สามของวงจรไก่งวง
บทเรียนที่สามของวงจรไก่งวง เป็นบทเรียนคุณทาเลปสรุปไว้ด้วยประโยคสั้นๆแต่ได้คิดมากๆว่า “ Just because you never died before, doesn’t make you immortal” สิ่งที่เรายังไม่เคยเจอ ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มีหรือไม่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่เวลาวางแผน ไม่ว่าวางแผนชีวิต วางแผนการงาน วางแผนธุรกิจ หรือแม้แต่สุขภาพ ก็ต้องคำนึงไว้ในแผนเสมอ และแน่นอนว่ามีหลายอย่างที่เราจะไม่สามารถจินตนาการถึงได้
2
เป็นความรู้ที่อยู่ในประเภทที่เรียกว่า “ไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้” แต่อย่างน้อยก็ทำให้เราดำรงตนอยู่ได้ด้วยความไม่ประมาท ไม่ all in ใส่สินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง ไม่ทำตัวน่าหมั่นไส้ พยายามเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ทำดีต่อผู้คน ดูแลสุขภาพอยู่เสมอ เพราะไม่รู้ว่าวันหนึ่งอะไรจะเกิดขึ้น
7
กราฟที่คุณทาเลปเขียนขึ้นจึงเป็นกราฟเตือนใจที่ดีสำหรับทุกคนที่เมื่อไหร่ชีวิตรู้สึกดี ไม่เห็นมีอะไรเป็นอุปสรรค ทุกอย่างราบรื่นไปหมด ขอให้ลองคิดเหลี่ยมมุมที่ว่า นี่คือเป็นจุดที่มีความเสี่ยงสุดๆเหมือนไก่งวงหรือไม่ เพราะอาจจะทำให้เราสังเกตสัญญานเตือนบางอย่างได้ดีขึ้น ถ้าไม่ใช่ก็ดีไป ถ้ารู้สึกตะหงิดๆ เห็นอะไรที่ไม่ชอบมาพากลก็จะได้ปรับตัวกันได้ทัน ไม่ต้องรอให้ถึงวันที่หนึ่งพันหนึ่งเหมือนกับเรื่องราวของไก่งวงในวันขอบคุณพระเจ้ากันนะครับ…
3
โฆษณา