29 ส.ค. 2022 เวลา 01:06 • ปรัชญา
เรื่องราวของคำว่า กรรม จะรู้จักจักได้ชัดเจน เมื่อรู้จักคำว่าจิต จิตที่ไหวไปไหวมา เคลื่อนไปเคลื่อนมา ร้อนหนาว เจ็บปวดทุกข์ทรมาน อึดอัด บีบเค้น ไปยึดสิ่งนั้น บางครั้งเค้าเค้าเปรียบจิตเป็นสภาพเหมือนน้ำ สีดำ ที่อยู่ในภาชนะ มีภาชนะที่มีรูปเป็นมนุษย์ เป็นสัตว์ อะไรต่างมากมายก่ายกองทั่วทั้งโลกา จิตนั้นมีกรรมจิตเป็นสีดำ สีม่วง สีน้ำตาย ปะปนกัน จึงเป็นการยากที่จิตนั้น จะเอาหรือทำให้น้ำนั้นเป็นน้ำบริสุทธิ์ผุดผ่องได้เลย
เมื่อจิตที่มีกรรมไปอยู่ในรูปใดก็ต้องรับทุกข์ รับเวทนา สุขทุกข์ตามรูปนั้น อาศัยอยู่ในรูปนั้น ไปจนหมดเวลา ที่รูปนั้นต้องดับสลาย
เมื่อรูปนั้นดับสลายก็ต้องไปหารูปใหม่ กรรมของจิตนั้นเอง กรรมนั้นมีน้ำหนัก เป็นของหนัก ก็กด..กดจึต ดูดจิตเข้าไปหาช่องสายของกรรม กรรมที่สะสมมากับจิต เหมือนแม่เหล็ก ที่จะดูดดึงจิตที่จะไปเกิดตามรูปกรรมต่างๆ ที่ผุดขึ้นมารองรับจิต ผุ้มีกรรมมีรูปพ่อแม่เป็นสัตว์เป็นมนุษย์ ไปนรกก็ไปผุดอยู่ในรูปสัตว๋นรกได้เลย ไม่ต้อรอคอยให้มีพ่อแม่
นั่นแหละ เค้าจึงสอนมนุษย์ให้รู้จักคำว่า กตัญญูรู้คุณพ่อแม่ที่ให้จิตนี้มาอาศัย เมื่อจิตนี้มาอาศัยเรือนกายพ่อแม่อยู่ ไม่รู้จักเรื่องราวที่จะเกิดคำว่ากตัญญูรู้คุณพ่อแม่ ขาดทั้งการกระทำดีๆ จะไปรู้กรรมได้อย่างไร
ก็มันมีกรรม มันสร้างกรรมกับพ่อแม่ก็ผู้ให้สังขาร แล้วจะรู้คำว่ากรรมของจิตได้อย่างไรปัญญาที่จะรู้จักคำว่าพระคุณพ่อแม่ก็ไม่มี กรรมเค้าก็มีปรุงแต่งส่งเสริมด้วยโลภโกรธหลง หลงว่าตนเองดีแล้ว สร้างแต่เรื่องราวกรรมด้วยกายวาจาใจที่ตนอาศัยกายพ่อแม่ สร้างอะไรให้แก่จิต สร้างแต่กรรมให้อยู่กับกรรมไปนานๆ เพราะเกิดมาไม่รู้จักกรรม
เมื่อไม่รู้จักกรรม จะไปหลบหลีก คำว่ากรรมได้อย่างไร มันก็จมอยู่กรรม มีอารมณ์ที่เป็นกรรมนานาชนิดเเกิดขึ้น เป็นไปตามยถากรรมของตนเองเกิดขึ้น อุปโลกน์อารมณ์นึกคิดนานาชนิดให้เกิดหลงใหล หลงในสิ่งที่เบื้องหลังคือ ปรุงแต่งกายบ้าง วาจาบ้าง ใจบ้าง แล้วก็หลงเห็นตนเองดีแล้ว เป็นอัตตาเกิดขึ้นกับสิ่งอารมณ์ในตัวตนของตน แล้วใครจะไปช่วยได้ ในเรื่องตัวตนที่เป็นอัตตาอยู่อย่างนั้น แล้วก็ไม่เคย ทำจิตทำใจ ตรวจสอบเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในกายตน แล้วใครจะไปแก้ไขได้
เพราะเป็นเรื่องกรรมของจิต ที่จิตแต่ละดวงต้องแก้ไขกันเองเท่านั้น จึงเกิดคำว่ากรรมของสัตว์โลก สัตว์เกิดมามีกรรม จิตดวงไหนรู้จักกรรม ก็แก้ไขทำให้จิตนั่นดีขึ้น
เป็นมนุษย์แค่แปดสิบปีร้อยปี ก็ไปอยู่ที่ทุกข์เสียนาน ไปอยู่กับรูปกรรมที่ตนเองสร้างกรรมเอง หลงเองเพราะไม่รู้จักคำว่า สิ่งไหนเป็นมีพระคุณต่อจิตของตน ที่จิตนี้จะนำไปเป็นเหมือนเสบียง ที่จิตจะต้องเดินทางออกจากสังขาร มีเพียงสังขารมนุษย์เท่านั้นที่จะกระทำได้ ไปอยู่ในสังขารอื่นกระทำเรื่องดีๆให้แก่จิตไม่ได้เลย
นั้นแหละ เค้าเรียกว่าเกิดมามีกายเป็นมนุษย์ แล้วสร้างบุญกุศลบารมี เพื่อช่วยเหลือจิตของตน เพราะจิตของตนต้องออกจากสังขารมนุษย์ เป็นจิตของกรรม กรรมที่จะจำแนกจิต ไปสู่สถานที่สุขหรือทุกข์ จิตที่มีกายเป็นมนุษย์เป็นผู้กระทำเอง ทั้งกายวาจใจที่ตนเองเป็นใช้ ใช้กายวาจาใจอย่างไร ก็ต้องไปตามนั้นแหละ ดีหรือชั่ว ในการใช้กายวาจาใจของตนเอง เมื่อมีโอกาสได้กายมนุษย์มีสติปัญญา ย่อมมีเหตุผลในการใช้ ใช้กายวาจาใจดีหรือชั่ว ให้เป็นที่ประจักษ์
โฆษณา