Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ความเรียงในวันที่นึกได้
•
ติดตาม
24 ก.ย. 2022 เวลา 07:52
เงินทองเป็นของมีค่า
ปกติคนเรามักจะใช้เงินสดซื้อขายสินค้าหรือบริการต่างๆเป็นหลัก การโอนเงินเป็นเพียงทางเลือกเพราะเป็นธุรกรรมที่ต้องไปตามสาขาธนาคาร ทั้งยังต้องเป็นเวลาด้วยเพราะธนาคารมีเวลาเปิดปิด
cr. google
ถัดมาไม่นานการขยายตัวสาขาก็เข้าไปตามศูนย์การค้า เวลาทำการเพิ่มแถมด้วยวันหยุดก็เปิดทำการด้วย
เรียกว่าสะดวกกับผู้ใช้บริการกันถ้วนหน้า
cr. google
ต่อมากับบัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิตและเดบิต แลกแต้มเอย รูดเงินสดมาใช้ล่วงหน้า ไม่ต้องพกเงินสดไปคราวละมากๆก็ได้ เป็นการเพิ่มความสะดวกสบายในการจับจ่ายใช้สอย
cr. google
แล้วปัจจุบันล่าสุดกับแอพต่างๆในมือถือ ก็เพื่อความสะดวกสบายฉับไวในการใช้จ่ายนั่นล่ะ
cr. google
แถมมันทำอะไรต่อมิอะไรได้มากจนถึงแทบทุกอย่างเกี่ยวกับการเงินกับชีวิตประจำวันของเราๆท่านๆ จนเงินสดแม้จะยังเป็นหลักในชีวิตแต่ก็ลดการใช้ลงไปบ้าง
นั่งมองการเปลี่ยนแปลงมาเรื่อยๆ
เริ่มจากที่ไม่ค่อยอยากใช้บัตรเครดิตจนตอนนี้ใช้เป็นปกติ
แอพต่างๆก็จำเป็นเอามาใช้งานเพื่อความสะดวกสบาย
แต่...
ยังคงมองการเปลี่ยนแปลงนี้แบบไม่วางใจ
อ้าว ไหงงั้นล่ะ มันคือความก้าวหน้านะ ใช้งานก็ง่าย สะดวกไปทุกอย่าง แกเองก็ใช้มัน
เข้าใจ
แต่ว่าเหรียญยังมี2ด้าน ดาบยังมี2คม นับประสาอะไรกับเรื่องพวกนี้
เคยคุยกับเพื่อนที่เคยทำงานในแวดวงนี้ เขาบอกว่าถ้าทุกอย่างเป็นไปตามระบบขั้นตอน มันจะไม่มีช่องโหว่เด็ดขาด
ระบบมันทำมาแข็งแรงมาก เพื่อนบอก
เคยคุยกับร้านค้าที่รู้จัก หลายรายเลิกรับบัตรต่างๆสารพัดเพราะเจอว่ามีคนขอคืนสินค้าที่ซื้อ
แรกๆยังพอทำเนา แต่บ่อยเข้าก็ชักจะทนไม่ไหว กลายเป็นว่าขอคืนทุกรายการที่รูดซื้อไป ของที่ขายไปบางทีก็เกิดความเสียหายไม่น้อย เกิดปัญหาบ่อยเข้าเลยเลิกรับดีกว่า
เหตุผลขอคืนมันข้างๆคูๆ จุดหลักน่าจะประมาณว่าไม่อยากได้แล้วเลยขอคืนเอาเงินกลับมากกว่า นี่ยังไม่นับว่ามีลูกค้าเป็นคนต่างประเทศรูดซื้อแล้วแคนเซิลทั้งที่ออกของไปที่เมืองนอกแล้ว ร้านค้าว่า
แถมบางคนก็ขโมยบัตรมารูด ร้านค้ากลายเป็นพยานมั่ง จำเลยมั่ง เบื่อมาก
ผมมานั่งคิด เออ ก็จริงแฮะ บางทีตอนเราเดินจับจ่ายอยู่นั้น มือก็พาหยิบโน่นนี่แบบไม่คิดมาก
รวมยอดออกมา จ่ายเป็นบัตร ยอดเท่าไหร่ไม่รู้ ไม่ได้จับเงินสด ดูไม่ออก
cr. google
พอกลับมาดูบิล ตายละวา ทำไมยอดมันเยอะวะ
ถ้าจ่ายเงินสดคงต้องหยิบออกไปหลายชิ้นแล้วจ่าย พอเป็นบัตรมันมองไม่เห็นก็ช่างมันจ่ายไป
ส่วนแอพต่างๆที่ใช้กันโครมๆตอนนี้ก็เหมือนกัน
สะดวก ควักง่าย จ่ายง่าย โอนไว
มองเห็นตัวเลขแต่ไม่เห็นตัวเงินสด
มาเห็นชัดเจนอีกทีก็ตอนที่จะใช้จ่ายค่าเทอมลูก ค่าใช้จ่ายหลักในบ้าน เงินเดือนลูกน้อง อื่นๆจิปาถะ
เฮ้ย เงินในบัญชีไหงหายไปเยอะนักวะ
ก็รูดปื้ดกับโอนไวไงล่ะครับ
อย่างที่บอกกล่าว เหรียญมี2ด้าน ดาบมี2คม
ด้านหนึ่งคือเพื่อความสะดวกในการติดต่องานธุรกิจต่างๆ หรือจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายหลักๆของครอบครัว ที่หลายครั้งต้องการใช้เดี๋ยวนี้ไม่งั้นอาจโดนตัดน้ำตัดไฟอะไรประมาณนั้น
แอพกับบัตรมันทำหน้าที่ได้ดีจริงๆ
แต่อีกด้านก็เพราะความง่ายสะดวกสบายนี่ล่ะ กลายเป็นว่าเราจ่ายเงินออกไปโดยไม่จำเป็น
มันเป็นไปตามอารมณ์
พอนึกขึ้นมาได้บางทีก็ไม่ทันแล้ว
มือมันลั่น
นี่ยังไม่นับรวมด้วยนะว่าถ้ามือถือหายหรือโดนขโมยโดนแฮ็คจะเกิดอะไรตามมาบ้าง
อ้อ แล้วที่นึกได้หมาดๆคือเงินในแอพหรือบัตรต่างๆนั้น เวลาฝนตก,ไฟดับ,ไม่มีเน็ท,แอพล่ม มันจะเกิดอะไรขึ้นล่ะครับถ้าจำเป็นต้องใช้เงินขึ้นมา
สยองเห็นภาพเลย
cr. efinance Thai
เจ๊มักจะบอกว่าไอ้เรื่องบัตรเรื่องแอพนี่มันดีกับคนที่มีเงินและมีวินัยทางการเงินต่างหาก
ใครไม่มีวินัย หนี้ที่เกิดขึ้นมาทันจะลุกลามไปในทันใด
เจ๊ยังเห็นเหมือนเดิมว่าเวลาเราจับจ่ายใช้สอยอะไรก็ตาม การใช้เงินสดทำให้เราจัดเรียงความสำคัญในการจ่ายขึ้นมาในทันที
อย่างน้อยก็มีลิสต์รายการซื้อของออกมาให้เห็นล่ะวะ
อีกอย่าง พอเห็นเงินสดถูกจ่ายออกไป กลไกความงกมันจะทำหน้าที่ของมันโดยอัตโนมัติ
เสียดายเงินว่ะ เอาไว้ก่อน เอาที่จำเป็นก่อน
ตัดโน่นนี่นี่นั่นออกไป ค่อยยังชั่ว เงินยังอยู่ให้อุ่นใจ
เออ จริงของเจ๊
cr. google
ผมถูกสั่งสอนมาแบบโบราณ
มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท
มีภูเขาเงินภูเขาทองก็กินหมดได้
เงินทองเป็นของมีค่า
กระต่ายยังมี3รัง คนเราจึงต้องมีคลังสำรองด้วย
ฯลฯ
นอกจากที่ต้องประหยัดแล้ว เรายังต้องรู้จักหาเพิ่มและรู้จักใช้จ่ายด้วย
ไม่งั้นจะกลายเป็นว่า ไอ้ที่ประหยัดกันแทบตายกลับใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยแถมยังไม่รู้ว่าจะไปหามาจากไหนเพิ่มด้วย
cr. google
เคยดูซีรี่ย์จีนเรื่องหนึ่ง นานแล้วครับ จำชื่อเรื่องไม่ได้
ตามท้องเรื่อง ฮ่องเต้องค์ปัจจุยันยังเล็กมาก เลยมีไทเฮา ขันทีกับมหาอำมาตย์ที่ซื่อสัตย์คอยดูแลด้านต่างๆให้
ตัวมหาอำมาตย์แกมีนโยบายต้องประหยัดเพราะแกรู้ว่าท้องพระคลังไม่ค่อยมีเงิน
แกเลยออกกฎโน่นนี่ออกมาแล้วอบรมฮ่องเต้ให้ประหยัด โดยทำเป็นตัวอย่าง และไทเฮาก็สนับสนุนด้วย
เงินเก็บก็เพิ่ม แกเลยหันมาสอนให้หาซึ่งฮ่องเต้ก็ฟังเพราะยังอายุน้อย
คราวนี้พอฮ่องเต้เป็นวัยรุ่นก็อยากได้โน่นนี่นี่นั่นบ้าง มหาอำมาตย์ขวางไว้ฮ่องเต้ก็ไม่ค่อยพอใจ
เงินในท้องพระคลังก็เพิ่มเยอะแล้วนะ จะอะไรนักหนา ฮ่องเต้บ่นให้ไทเฮากับขันทีฟัง
ขันทีเลยไปคุยกับมหาอำมาตย์...
ขันทีบอกว่าท่านมหาอำมาตย์ทำถูกต้อง ไทเฮาก็ชื่นชม
แต่ขันทีคนนี้ขอบอกว่าท่านยังไม่ได้สอนฮ่องเต้อีกเรื่องหนึ่ง นั่นคือวิธีการใช้เงิน
ท่านต้องสอนนะ หาไม่ สิ่งที่เราทำมาชั่วชีวิตอาจพังลงมาได้ในพริบตา
มหาอำมาตย์นิ่งไปแล้วพยักหน้ารับว่าเห็นด้วย
เห็นอะไรได้เยอะจริงๆ
ที่เขียนมานี่ไม่ได้มุ่งหมายอะไรครับ แค่บ่นไปตามประสา
เห็นคนสมัยนี้ใช้เงินเป็นว่าเล่น หาเงินได้ง่ายจัง
ผิดกับเมื่อสมัยผมยังละอ่อน
กว่าจะได้มาสักก้อนต้องทำงานแลก มีผลงานเข้าตา เขาเจียดให้ใช้เท่าไหร่แล้วเกิดกิเลสอยากได้ของอะไรก็ต้องเก็บเล็กผสมน้อยเอาเอง
ป๊าม้าไม่ซื้อให้ครับ เขาว่ามันเปลือง
บริหารเงินให้รอดไปแต่ละวันแต่ละอาทิตย์ พอโตหน่อยก็บริหารกันเป็นเดือนไป
เอาตัวให้รอดล่ะ
cr. google
ดังนั้นเวลาจ่ายเงินสดออกไปให้เห็น ความงกเลยทำงานไวมาก
เดี๋ยวนี้ยังเบาลงเพราะจ่ายเป็นบัตรกับแอพ มองไม่เห็น ยกเว้นตอนเห็นบิลเรียกเก็บเงิน
เธอ เราประหยัดกันอีกสักหน่อยเถอะ เห็นบิลแล้วก่งก๊งพิกล
แหม นี่ก็ของจำเป็นทั้งนั้น
นั่นล่ะ ไงก็ช่วยๆกันหน่อยเหอะ
ได้จิ งั้นตัดรายการที่คุณจะซื้อก่อนเลยแล้วกัน พวกหุ่นTransformersน่ะ อ้อLEGO อ้อ.....
โอย จะเป็นลม...
ปล. อ่านข่าวว่าตอนนี้มีการใช้ธนบัตรหรือเงินสดเพิ่มขึ้นแทนที่จะลดลง เหตุผลคือ บางทีเน็ทล่มบ้าง แอพล่มบ้าง ไม่มีสัญญาณเพราะฝนตกน้ำท่วมภัยธรรมชาติหรือมีสงคราม
เงินสดเท่านั้นครับที่เราต้องการ
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
เห็น-คิด-เขียน
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย