29 ส.ค. 2022 เวลา 14:24 • กีฬา
แมนเชสเตอร์ซิตี้กลับมาจากความตายหลังจากที่โดนนำ 2-0 พลิกนรกกลับมาชนะคริสตัลพาเลซ 4-2 จากการแฮตทริกของ เออร์ลิงฮาแลนด์ พาเลซขึ้นนำ 2-0 ในครึ่งแรกพวกเค้าเปลี่ยนโอกาสสองครั้งให้เป็นประตูได้ จากการทำเข้าประตูตัวเองของ จอห์น สโตนส์ และโจอาคิม แอนเดอร์เซน ที่โหม่งทำประตู ทำให้กองเชียร์ที่ เอติฮัดสเตเดียมต้องอ้าปากค้าง เนื่องจาก พาเลซ เคยทำแสบใส่ แมน ซิตี้ 2 นัดหลังสุดที่เจอกัน เสมอ 0-0 กับแพ้ 2-0
ซิตี้กลับมาคำรามอีกครั้งในครึ่งหลัง แบร์นาร์โด ซิลวายิงตีตื้นจากที่ตามหลัง 0-2 เป็น 1-2 จากนั้นเออร์ลิง ฮาแลนด์ก็ยิงแฮตทริกแซงเป็น 4-2 แบบสุดมันส์ พิสูจน์ให้เห็นว่าเค้าสำคัญต่อทีมมากแค่ไหน ด้วยชัยชนะ ซิตี้ยังคงไม่แพ้ใคร และตอนนี้มี 10 แต้มจาก 12 แต้ม ในขณะที่พาเลซมี 4 แต้ม
สิ่งที่ผู้ชมทางบ้านอย่างผมเห็นจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ vs คริสตัล พาเลซ
ซิตี้ ยังมีข้อผิดพลาดในการป้องกันในแนวรับอยู่ พวกเค้าไม่ค่อยมีสมาธิในเกมส์รับ พลาดเสียประตู 3 ลูก ที่นิวคาสเซิลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและ 2 ลูกกับพาเลซในวันเสาร์เป็น ความผิดพลาดที่ไม่จำเป็นและจะต้องรีบแก้ไขให้เร็วที่สุด และเป๊ป กวาร์ดิโอล่าอาจจะโฟกัสไปที่ความผิดพลาดหลังเกม พาเลซได้บอลน้อยมากแต่ทำสามารถทำประตูจากโอกาส สองครั้ง ของพวกเค้า
นี่เป็นโอกาสที่จะน็อค ซิตี้ ได้หลังจาก พาเลซ นำห่างถึง 2-0 แต่การที่พาเลซขึ้นนำก่อน 2-0 นั้นหมายความว่า ซิตี้ จะโหมบุกหนักแน่นอน แต่ลูกทีมของ ปาทริค วิเอร่า กลับผ่อนเกมส์ เรียกว่าติดประมาทไปหน่อย ซิตี้ พยายามเพื่อสร้างโอกาสในครึ่งแรก เดอบรอยน์ , โฟเด้น และ แบร์นาโด้ ซิลวา ผลัดกันสร้างสรรค์เกมส์รุกอย่างสนุกสนาน ซิตี้ ครองบอลถึง 75% และ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ก็พร้อมที่จะปิดบัญชีโอกาสที่สร้างขึ้นสำหรับเขา
นักเตะที่โดดเด่นในเกมส์นี้
เออร์ลิง ฮาแลนด์ ยิงแฮตทริกที่ยอดเยี่ยม ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาสามารถทำประตูได้ทุกรูปแบบ และเป็นแฮตทริกแรกของเขาในสีเสื้อ "ซิตี้เซ้นต์"
นัดต่อไป ซิตี้ จะเป็นเจ้าบ้านพบ น็อตติงแฮมฟอเรสต์ ในวันพุธที่ 31 ส.ค น่าจะไม่ยากสำหรับซิตี้ ขณะที่ พาเลซ จะเป็นเจ้าบ้านเช่นกันพบเบรนท์ฟอร์ด ในวันอังคารที่ 30 ส.ค
4 เกมส์ในอาชีพค้าแข้งของ ฮาแลนด์ ทำไป 6 ประตูและ 1 แอสซิสต์ ขึ้นนำดาวซัลโวลีกแบบหล่อๆ โดยที่เควิน เดอ บรอยน์ ออกสตาร์ทอย่างร้อนแรงเช่นเดียวกัน ( 1 ประตูและอีก 3 แอสซิสต์)
หลังจากเก็บคลีนชีตติดต่อกัน 2 นัดตอนเริ่มฤดูกาล ค่อนข้างน่าเป็นห่วงที่เห็นแมนฯ ซิตี้ เสียสามประตู ในเกมส์นิวคาสเซิ่ล และ 2 ประตูเกมส์ล่าสุด แต่เกมส์รุกก็ทดแทนเกมส์รับได้อย่างดี นี่แหละครับ "คุณสมบัติ"ทีมที่จะเป็น"แชมป์" ในช่วงเวลาคับขันพวกเค้าก็เอาตัวรอดได้
3 แต้มในเกมส์นี้สำคัญสุดๆ ทำให้พวกเค้าตามหลัง อาร์เซน่อล แค่ 2 แต้ม ส่วนอาการบาดเจ็บของเซ็นเตอร์แบ็คเป็นเรื่องที่น่ากังวล โดยอายเมริค ลาปอร์ต คาดว่าจะพักอีกสองสามสัปดาห์ และนาธาน อาเก้กำลังต่อสู้กับอาการบาดเจ็บที่ขาหนีบในนาทีที่ 21 กับนิวคาสเซิล รูเบน ดิอาส และ จอห์น สโตนส์ คือกองหลังตัวกลางสองคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ในทีม
เป๊ปต้องติวเรื่องสมาธิกับอนวรับ เสียประตูง่ายไปหน่อย อาจเป็นเพราะเรื่องสมาธิและความไม่ละเอียดในเกมส์ หลังเกมส์แนวรับน่าจะโดน เป๊ป สวดยกใหญ่แน่ๆ ส่วนเกมส์รุกไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง เพราะโหดทุกตัว!!!
ส่วนพาเลซ ผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา (แพ้ 2 เสมอ 1 ชนะ 2)รวมทุกรายการ ทีมของปาทริค วิเอร่า เข้าขารู้ใจกันมากขึ้น หลังจากวันเสาร์นี้ พาเลซ จะเล่นในบ้านพบ เบรนท์ฟอร์ด ที่พึ่งเสมอ เอฟเวอร์ตัน และไปเยือน นิวคาสเซิ่ล ก่อนการยกพลไปเยือน แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด การเจอ เบรนท์ฟอร์ด
นัดหน้าผมว่าค่อนข้างสูสีกันแต่ พาเลซ ได้เปรียบที่เล่นในบ้าน เบรนท์ฟอร์ด พวกเค้าน่ากลัวยามเล่นในบ้าน เวลาเป็นทีมเยือนก็พร้อมจะแพ้ได้ทุกทีมเช่นกัน วิลฟรีด ซาฮา คือความหวังในแนวรุกและเป็นดาวซัลโวของทีม บอลออกได้สามหน้าแต่ พาเลซ น่าจะดูดีกว่า ปาทริค วิเอร่า พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเค้าไม่ธรรมดา...
โฆษณา