สวนเบญจกิติ พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ใจกลางกรุงที่เป็นมากกว่าสวนสาธารณะ
สวนเบญจกิติ (Benchakitti Park) เป็นสวนสาธารณะใจกลางเมือง สร้างเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ มีพื้นที่รวม 450 ไร่ ตั้งอยู่ในบริเวณที่ดินของการยาสูบแห่งประเทศไทย ติดกับศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
การพัฒนาพื้นที่ตรงนี้เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ เกิดขึ้นภายหลังจากที่ย้ายโรงงานยาสูบเดิมออก .. ในช่วงแรกถูกพัฒนาโดยกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และการยาสูบแห่งประเทศไทย
ต่อมาเมื่อปี 2557 ทางกรมธนารักษ์ได้ร่วมกับกองทัพบกได้ร่วมกันพัฒนาเฟสต่อมาเพื่อให้เป็นสวนป่าใจกลางเมือง ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับสวนเบญจกิติเดิมได้ โดยมีวัตถุประสงค์ให้โครงการนี้เป็น “ต้นแบบ” ของสวนสาธารณะเชิงนิเวศ เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
สวนเบญจกิติ เป็นสวนสาธารณขนาดใหญ่ที่สวยงามมาก ด้วยการวางผังออกแบบอย่างพิถีพิถันให้มีพื้นที่ใช้สอยครบครัน ทั้งส่วนที่เป็นสวนสุขภาพ สนามเด็กเล่น ลู่วิ่ง ทางจักรยาน และศาลา .. จึงเหมาะสมกับการมาผ่อนคลาย เดินเล่น วิ่งออกกำลัง ปั่นจักรยาน ถ่ายรูปเล่น มีวิวหนองน้ำขนาดใหญ่ วิวตึกสูง ต้นไม้ ดอกไม้สวยงาม
เส้นทางสำหรับส่งเสริมกายออกกำลังกาย แบ่งเป็นทางเดินลัดเลาะในธรรมชาติ 5.8 กิโลเมตร เส้นทางวิ่ง 2.8 กิโลเมตร และเส้นทางจักรยาน 3.4 กิโลเมตร
ท่างเดินรอบสระน้ำขนาด 200×800 เมตรของสวนเบญจกิติที่สร้างเสร็จมานานแล้วยังคงเป็นใช้งานตามปกติ .. ประกอบไปด้วยพื้นที่สำหรับเดินออกกำลังกาย ที่รายล้อมไปด้วยสวนดอกไม้สวยงาม
พื้นที่สีเขียวของอัฒจันทร์ และสนามหญ้าภายใต้ร่มเงาของไม้ยืนต้น ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคนที่เลือกจะมานั่งชมความเคลื่อนไหวของผู้คน หรือมาล้อมวงปิกนิกง่ายๆ แล้วเอนกายนอน
ด้านตรงข้าม .. วิวอาคารที่สวยงาม
มีพื้นที่ออกกำลังกาย
พื้นที่ลานโล่งมี ประติมากรรมที่สวยงาม
ทางเดินเข้าด้านใน .. มีประติมากรรมสีทองรูปดอกบัวขนาดใหญ่
เมื่อมีฉากหลังเป็นตึกสูงสถาปัตยกรรมแปลกตาน่ามอง จึงทำให้สัญลักษณ์หนึ่งของสวนเบญจกิติโดดเด่นงดงามมาก
ทางเดินเข้าสู่พื้นที่สวนป่าด้านใน
เมื่อผ่านเข้าไปด้านใน ทางด้านขวามือจะเป็นพื้นที่เฟสแรกของสวน
ด้านขวามือจากทางเกินเข้าด้านใน เป็นพื้นที่กว้างขวางของเฟส 2-3 อันเป็นที่ตั้งของ skywalk สวนป่าที่มีพื้นที่กว่า 259 ไร่ และลานใหญ่ๆ ให้นั่งปิคนิค มี bike lane ให้ปั่นจักรยานได้ด้วย
Sky walk .. ระยะทาง 1.6 กิโลเมตรสำหรับเดินชมสวนได้จากมุมสูง หรือใช้ออกกำลังกายโดยการเดินเร็วหรือวิ่งก็ได้ รวมถึงมีทางเดินเชื่อมต่อไปถึงสวนลุมพินี อีกหนึ่งสวนสาธารณะขนาดใหญ่ในบริเวณใกล้เคียงได้
... มีทางลาดที่ได้มาตรฐาน เส้นทางเรียบ ไม่ขรุขระ เพื่อให้สามารถนำผู้พิการและผู้สูงวัยขึ้นไปชมวิวตามแนวเส้นทางที่ลัดเลาะไปตามสวนในพื้นที่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ดั้งเดิม
พื้นที่โดยรอบร่มรื่นด้วยสีเขียวของสนามหญ้า และต้นไม้ใหญ่
ตลอดระยะทางเดิน ..
สัมผัสได้ถึงความมีชีวิตชีวาของบรรดาต้นไม้น้อยใหญ่ และเมื่อทอดสายตาออกไปไกล ๆ ก็จะเจอกับทัศนียภาพของตึกในเมืองที่คอยทำหน้าที่เป็นฉากหลัง
ว่ากันว่า ... การออกแบบพรรณไม้ในสวนจะเก็บต้นไม้เดิมไว้ทั้งหมด โดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่ที่มีอยู่ 1,733 ต้น
และยังเพิ่มต้นไม้ที่ลงใหม่ 7,155 ต้น โดยใช้พรรณไม้ที่เป็นพืชท้องถิ่นเดิมในบริเวณกรุงเทพมหานคร กว่า 300 ชนิด
พาพของผู้คนที่มาใช้สวนอห่งนี้เป็นที่พักผ่อนทำกิจกรรมต่างไ จึงเห็นได้เจนตาในทุกๆวัน
ความพิเศษของ สวนเบญจกิติ เฟสใหม่ที่นอกเหนือจากการมีภูมิทัศน์และสถาปัตยกรรมในแบบสวนสาธารณะทั่วไปแล้ว คือ การออกแบบให้มีพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ (Wetland)
สำหรับสร้างระบบนิเวศน์เลียนแบบธรรมชาติที่สมบูรณ์ ซึ่งป่าต้องอาศัยความชุ่มชื้นจากแหล่งน้ำธรรมชาติเพื่อหล่อเลี้ยงพืชพันธุ์ในสวน
ภูมิประเทศเดิมของกรุงเทพมหานครเอง เคยเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความหลากหลายทางชีวภาพที่ซับซ้อนของพันธุ์พืชและสิ่งมีชีวิตจำนวนมาก .. สิ่งเหล่านี้กำลังสูญหายไปจากการขยายตัวของเมืองอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว …
… สวนแห่งนี้จึงทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำที่รับเอาน้ำที่ระบายไม่ทันและกำลังท่วมขังมากักเก็บและช่วยบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีธรรมชาติ ..
กลายเป็นพื้นที่หน่วงน้ำในกรณีที่มีน้ำมากเกินความจำเป็น และเป็นสาเหตุของปัญหาน้ำท่วมขังในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะน้ำจากคลองไผ่สิงโตที่อยู่ทางทิศเหนือของสวน
ตั้งแต่ในสมัยยังเป็นโรงงานยาสูบ ด้วยคอนเซ็ปต์ของการออกแบบสวนสาธารณะแห่งนี้ คือต้องการให้สวนเป็นพื้นที่ที่เป็นระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำ คือสามารถใช้ได้ทั้งในการกักเก็บน้ำและบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยออกสู่ชุมชน
นอกจากนี้ “เกาะกลางน้ำ” ที่ออกแบบผสมผสานความเป็นเมืองกับบึงน้ำ อิงกับหลุมขนมครก ช่วยกระจายและกักเก็บน้ำในพื้นที่
ใช้ภูมิปัญญาในอดีตจากการทำไร่แบบร่องสวน ตามที่ลุ่มแม่น้ำ กลายเป็นที่มาของแต่ละหลุม ที่เกิดขึ้นจากการต้องการที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องดิน โดยคำนึงถึงการรองรับน้ำท่วม และน้ำยังสามารถซึมเข้าไปช่วยรดน้ำต้นไม้ ทำให้ไม่ต้องรดน้ำบ่อยเพราะรากของต้นไม้สามารถหาน้ำได้เอง
พื้นที่ชุมน้ำและสวนน้ำ .. เนื้อที่ประมาณ 130 ไร่ ที่ถูกออกแบบให้ออกมาเป็นสวนแบบวนเกษตรที่ประกอบด้วยพรรณไม้พื้นบ้านและพรรณไม้ชายน้ำ จึงเป็นพื้นที่ในการเรียนรู้เรื่องพรรณไม้ในระบบนิเวศที่แตกต่างกันไป ทั้งพรรณไม้ป่าชายเลน พรรณไม้บึงน้ำจืด พรรณไม้ป่าดิบลุ่มต่ำและพรรณไม้ป่าดิบแล้ง
นอกจากเป็นการอนุรักษ์พรรณไม้พื้นถิ่นที่กำลังมีจำนวนลดลงแล้ว .. ยังช่วยลดภาระจากการดูแลต้นไม้ด้วย เพราะต้นไม้เหล่านี้สามารถเติบโตได้เองในธรรมชาติของพื้นที่กรุงเทพมหานครอยู่แล้ว
การไหลของน้ำผ่านพรรณไม้น้ำและไม้ริมน้ำในบึง .. ได้ช่วยบำบัดและกรองสารแขวนลอย เพิ่มออกซิเจนในน้ำ
ภายใน .. มีเส้นทางเดินผ่านบึงเพื่อออกกำลังกายและศึกษาพรรณไม้น้ำจืดรวมถึงระบบนิเวศของสิ่งมีชีวิตในแหล่งน้ำอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะมีทั้งสัตว์น้ำและนกที่มาอยู่อาศัยในธรรมชาติแบบบึงน้ำจืดเป็นจำนวนมาก
สวนน้ำแห่งนี้ สามารถรองรับน้ำได้ถึง 128,000 ลบ.ม. และนำมาใช้ประโยชน์ในช่วงฤดูร้อนเพื่อประหยัดน้ำสำหรับใช้ดูแลสวน
ในบึงน้ำมีดอกบัวหลวงดอกสีชมพูและสีขาว ออกดอกสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องดูแลมากมายเหมือนบัวที่ปลูกเลี้ยงในอ่างบัว
พื้นที่ส่วนใกล้ๆ มีอาคารโกดังเก็บใบยาสูบและโรงงานผลิตยาสูบ .. ซึ่งมีโครงการที่จะปรับปรุงเปลี่ยนโฉม รีโนเวตให้เป็นอาคารกีฬาในร่มและอาคารพิพิธภัณฑ์ที่รองรับผู้ใช้งานได้ถึง 3,000 คน
มีแปลงเกษตรสาธิตและอัฒจันทร์รองรับการจัดกิจกรรมได้กว่า 15,000 คน โดยทั้งหมดเป็นการออกแบบซึ่งยังอนุรักษ์คุณค่าของตัวสถาปัตยกรรมเดิมไว้อย่างครบถ้วน
หากมาเดินในสวนเบญจกิติในช่วงเย็นถึงค่ำ skywalk จะประดับไฟมลังเมลืองสวยงาม เหมือนสะพานสู่ดวงดาว
สวนวนเกษตร .. เป็นการผสมผสานต้นไม้หลายขนาดทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่มและต้นไม้คลุมดิน โดยยังได้สีสันจากดอกไม้พื้นถิ่นหลายชนิดที่เบ่งบานสวยงามและบางชนิดสามารถใช้เป็นยาสมุนไพรได้
ความสวยงามของพื้นที่รอบสระน้ำในช่สงแสงทไวน์ไลท์และยามค่ำคืน ..
…มลังเมลืองด้วยแสงสะท้อนน้ำ
ภาพ Reflection ของอาคารต่างๆที่เปิดไฟอยู่โดยรอบ ระยิบระยับ คล้ายกับหมู่ดาวท่ามกลางเมืองคอนกรีต ดูสวยแปลกตา แต่ก็ดูผ่อนคลายไปในเวลาเดียวกัน
สวนเบญจกิติจึงเป็นมากกว่าสวนสาธารณะ .. เป็นห้องเรียนธรรมชาติ ที่จะพาเราไปพบกับต้นไม้พันธุ์หายาก ดอกไม้ที่สลับออกดอกสร้างสีสันตลอดทุกฤดูกาล
พื้นที่ชุ่มน้ำ 4 บึง ที่เป็นแหล่งดูดซับมลพิษ อีกทั้งยังมีแปลงนาสาธิต ศูนย์การเรียนรู้ พิพิธภัณฑ์ ลานกิจกรรม และอัฒจันทร์ ที่รองรับผู้คนได้เป็นจำนวนหมื่น ๆ คน
ที่นี่จึงเป็นมากกว่าสวนสาธารณะ แต่พร้อมเป็นทั้งศูนย์การเรียนรู้ แหล่งท่องเที่ยว และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับทุกคน
.. ใครจะมาออกกำลังกายก็ได้ มาถ่ายรูปก็ดี เป็นปอดปลุกความสดชื่นให้คนกรุงได้เป็นอย่างได้ดีเลยค่ะ
การเดินทาง : สวนเบญจกิติ ตั้งอยู่ระหว่างถนนรัชดาภิเษกและถนนดำรงค์พิทักษ์ (ทางด่วนด่านตรงเพลินจิต) ใกล้กับ BTS อโศก ลงจาก BTS ทางออกฝั่ง Terminal 21 ถ้า Terminal เลี้ยวซ้าย อันนี้เลี้ยวขวาค่ะ แล้วลงบันไดทางลงซ้าย เดินตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 400 เมตร สวนจะอยู่ทางขวามือ .. เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00-21.00 น.
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
