31 ส.ค. 2022 เวลา 09:55 • ธุรกิจ
WEB 3.0 คืออะไร? จะเปลี่ยนแปลงในอนาคตอย่างไร?
WEB 3.0 คืออะไร?
WEB 3.0 คืออะไร? แล้วมันแตกต่างอย่างไรกับเว็บไซต์ที่เรากันใช้กันปัจจุบัน ทำไมต้องใช้ Web 3.0? เราจะมาพาทุกคนทำความเข้าใจตั้งแต่เริ่ม WEB 1.0 จนมาถึงปัจจุบัน
WEB 3.0 คืออะไร?
WEB 1.0 (Read-only) นั้นถูกสร้างขึ้นช่วงปี 2533-2548 เป็นหน้าโฮมเพจปกติ ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปใช้งานได้ โดยการอ่านข้อมูล กระทู้ต่างๆ ที่สร้างขึ้น แต่ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นหรือทำอะไรได้ โดยใช้เทคโนโลยี HTML เรียกได้ง่ายๆ ว่าเป็นการสื่อสารทางเดียว คือไม่มีการตอบโต้กัน
ตัวอย่างเช่น Google และ Yahoo
WEB 2.0 (Read&Write) ในช่วงปี 2548-2563 เริ่มมีการพัฒนาให้สามารถสื่อสารได้ทั้งสองทาง คือสามารถอ่านและแสดงความคิดเห็นต่างๆ ได้ ผู้ใช้งานเริ่มมีส่วนกับการใช้งานมากขึ้น นอกจากการอ่านเฉยๆ แบบเดิมแล้ว ยังสามารถเขียน และผลิตเนื้อหาคอนเทนต์ได้เองด้วย ด้วยความที่เป็นการสื่อสารสองทางทำให้เกิดสังคมออนไลน์ขนาดใหญ่ขึ้นเปิด โอกาสให้หลายธุรกิจสามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้มากขึ้น
ตัวอย่างเช่น Facebook, Instagram และ Twitter
WEB 3.0 (Read, Write and Execute) เกิดในช่วงปี 2563-ปัจจุบัน เว็บ 3.0 มีการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนมาเข้าช่วยในการพัฒนา ทุกคนสามารถอ่านเขียนตอบโต้ได้เหมือนเดิม แต่เพิ่มคือทุกคนสามารถมีส่วนร่วมเป็นผู้ถือหุ้น และร่วมดูแลโปรโตคอลของเว็บไซต์เหล่านั้นได้ ไม่ได้เป็นแค่เพียงผู้ใช้งานทั่วไปเหมือนอย่างที่เคยเป็น
ส่วนใหญ่ WEB 3.0 จะมีเหรียญโทเคนดิจิทัลมาเข้าร่วม ซึ่งผู้ใช้งานจำเป็นต้องถือเหรียญดิจิทัลเหล่านั้นเพื่อที่สามารถลงคะแนนเสียงหรือโหวตข้อเสนอต่างๆ ได้
ตัวอย่างเช่น Fliecoin, Brave และ OpenSea เป็นต้น
เราจะเห็นได้ว่าบางบริษัทใหญ่ๆ ก็เริ่มหันมาใช้ WEB 3.0 กันมากขึ้น ส่วนหนึ่งคือเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ได้ อีกทั้งยังสามารถสร้างความแปลกใหม่ให้กับธุรกิจได้ เช่น Mashmellow DJ ชื่อดังจัด Live Concert ในเกม Fortnite มีผู้ชมทั้งหมด 10 ล้านคน และ แบรนด์แฟชั่นชั้นนำอย่าง Louis Vuitton ก็เริ่มที่จะกระโดดเข้าร่วมวงการ NFT เช่นกันเตรียมตัวรุกตลาด Metaverse ในอนาคต
ทาง Astra Studio เองก็มีให้บริการทางด้าน WEB 3.0 เช่นกัน เพื่อช่วยเหลือคุณให้สามารถสร้างธุรกิจให้ทันยุคสมัยที่กำลังเปลี่ยนไป พร้อมทีมพัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชน รับรองได้ว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
🌟อย่าลืมกดติดตามเพจของเราเพื่อรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ เพิ่มเติมกันนะ
ช่องทางอื่นๆ
โฆษณา