1 ก.ย. 2022 เวลา 11:03 • ประวัติศาสตร์
ฆาตกรส่วนใหญ่ที่เราได้เห็น ได้รับรู้กันนั้น ส่วนใหญ่เป็นเพศชายใช่ไหมครับ ที่เกาหลีก็มีฆาตกรต่อเนื่องเช่นกัน
แล้วฆาตกรต่อเนื่องที่เป็นผู้หญิงล่ะ มีไหม? ขอตอบเลยว่ามี และในบทความนี้ก็จะพาไปทำความรู้จักกับฆาตกรต่อเนื่องหญิงคนแรกของเกาหลี ที่สังหารโดยแทบไม่ได้แตะต้องตัวเหยื่อเลยด้วยซ้ำ ได้ยังไงกัน? และเธอคนนี้ถือว่าเป็นนักโทษหญิงรายสุดท้ายของเกาหลีที่ถูกตัดสินด้วยโทษประหารชีวิตด้วย เรื่องราวเป็นอย่างไรนั้น หาคำตอบไปพร้อมๆ กันครับ
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ปี 1986 นางฮวานได้ถูกเพื่อนของเธอ ชวนไปที่โรงอาบน้ำในเวลาราวๆ 4 ทุ่ม ซึ่งในสมัยก่อนนั้น ที่เกาหลี การไปอาบน้ำ เข้าห้องซาวน่าด้วยกันนั้น ถือเป็นกิจกรรมทั่วไปที่ช่วยสานสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนสาวได้ดี
เมื่ออบซาวน่า อาบน้ำล้างตัวเสร็จอะไรเรียบร้อย ทั้งสองสาวก็เข้าไปเตรียมตัวที่ห้องล็อคเกอร์ เช็ดตัว เก็บของ เพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน เพื่อนของฮวานก็ได้ยื่นเครื่องดื่มยาตัวนึงที่กำลังเป็นที่นิยมขขณะนั้นให้กับเธอ จะได้จิบหลังอาบน้ำร้อนๆ มา ซึ่งฮวานก็รับมาดื่มเพราะไม่คิดว่ามันมีอะไรผิดปกติ เครื่องดื่มยาก็จะมีรสขมนิดๆ ตามสไตล์
หลังจากฮวานจิบเครื่องดื่มไป เพื่อนของเธอก็เริ่มชมว่าผิวเธอสวยจัง ยิ่งหลังอาบน้ำ ได้เช็ดเหงื่อขัดไคลออกไปผิวยิ่งขาวเนียนสวย ยิ่งจิบยาตัวนี้ไปก็ยิ่งดูสุขภาพดี ในขณะเดียวกัน ฮวานก็เริ่มรู้สึกร้อนผ่าวและเริ่มปวดตรงท้องของเธอ อาการต่อมาคือเริ่มหายใจไม่ออก เธอพยายามสูดอาการเข้าปอดแต่ทำไม่ได้ ร่างกายของเธอเริ่มลงไปชักดิ้นบนพื้น ฟองน้ำลายฟูมปากของเธอ
หลังจากนั้นก็ได้มีการโทรแจ้งตำรวจและทางโรงพยาบาล แต่ก็ไมทันการ ฮวานวัย 49 ปี ถูกระบุว่าเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหลังไปถึงได้ไม่นานนัก ทางครอบครัวของเธอรู้สึกประหลาดใจมากเพราะว่านางฮวานนั้นเป็นคนที่สุขภาพดี แข็งแรง ไม่คิดว่าจู่ๆ เธอจะเป็นลมล้มชักลงไปได้ ทางตำรวจจึงได้ทำการสอบสวนเพิ่มเติมและพบว่าเครื่องประดับที่เธอใส่อยู่ประจำ หายไปจากในตู้ล็อคเกอร์โรงอาบน้ำของเธอ
แต่น่าเสียดายที่ทางตำรวจ ไม่สามารถหาหลักฐาน สาเหตุการเสียชีวิต และเบาะแสว่าเครื่องประดับหายไปไหน สุดท้ายคดีนี้ก็ถูกปิดลงไปอย่างง่ายดาย ทางครอบครัวของเธอเองก็ไม่อยากให้ชันสูตร เพราะมันมีความเชื่อที่ว่าไม่อยากให้คนในครอบครัวต้องโดนผ่าอีก เหมือนกับต้องตายแล้วตายอีก
ข้ามมาวันที่ 4 เมษายน ปี 1987 นางซูน วัย 50 ปี ได้ถูกเพื่อนของเธอ เรียกให้ไปเอาเงินที่เพื่อนคนนี้ยืมไว้จำนวน 7 ล้านวอน
ทั้งสองคนก็ได้นัดกันมาขึ้นรถบัส เพื่อที่จะไปยังเป้าหมาย ระหว่างทางก็นั่งคุยกัน ฉันได้เงินจากคนนี้มา เขาติดฉันไว้ เลยเอามาคืนเธอได้เนี่ย อะไรก็ว่ากันไป ซึ่งเพื่อนของนางซูนคนนี้เป็นคนที่ดูใจดี ดูสดใสมากจากที่เห็นภายนอก
ในระหว่างทางนั้นเอง เพื่อนของนางซูนก็เสนอให้ลองดื่มเครื่องดื่มยาตัวนึง เพื่อขอบคุณที่ให้เธอยืมเงิน นางซูนก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องปฏิเสธเพื่อน เลยรับไว้และดื่มมันลงไป แต่หลังจากนั้น เธอเริ่มหายใจไม่ออก ท้องไส้มันปั่นป่วนเหมือนกำลังขดบิดรวมกันอยู่ข้างใน อาการต่อมาคือชักและน้ำลายฟูมปาก จนร่างกายทิ้งตัวลงไปกับพื้น มีพยานเห็นเหตุการณ์บนรถให้ความเห็นว่า ได้ยินนางซูนพูดว่าเครื่องดื่มนี้รสชาติแปลกๆ ดี แล้วก็ตะโกนดังขึ้นมาบนรถว่ามีอะไรบางอย่างในเครื่องดื่ม จนเธอล้มลงไป
เมื่อนำตัวของนางซูนมาส่งโรงพยาบาลก็ตามคาด สายเกินไปเสียแล้ว แพทย์จะผ่าชันสูตรก็ไม่ได้เพราะทางครอบครัวไม่ยินยอม จึงไม่สามารถหาสาเหตุได้ว่าจริงๆ แล้วเธอเสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไรกันแน่ สุดท้ายคดีก็ถูกพับเก็บไป ไม่มีการสืบสวนต่อ
1
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 1988 เหตุการณ์ใกล้เคียงกันเกิดขึ้น นาง A ได้ถูกเพื่อนที่ยืมเงินเธอไปจำนวนหนึ่งบอกว่า จะคืนเงินนะ จะไปเอาเงินจากสถานที่ตรงนี้ พอได้เงินแล้วจะคืนให้ทันทีเลย ไม่มีเหตุผลอะไรที่นาง A จะปฏิเสธไม่ไปถ้าได้เงินคืน โดยสถานที่ที่จะไปนั้นคือตึกแห่งหนึ่งในย่านชินซาดง
เมื่อไปถึงหน้าตึก เพื่อนของนาง A ก็เริ่มบ่นว่า นัดคนที่จะเอาเงินไว้แล้วทำไมถึงยังไม่มานะ สุดท้ายทั้งสองก็ต้องกลับบ้านมือเปล่า แต่เพื่อนของนาง A สัญญาว่าถ้าได้เงินก็จะรีบนำมาคืนทันที และนั่งแท็กซี่เพื่อกลับบ้านด้วยกัน
ในระหว่างทางเพื่อนนาง A ก็ขอโทษขอโพยใหญ่ บอกว่าทำให้เหนื่อยแย่เลย ขอโทษจริงๆ และเสนอให้ดื่มเครื่องดื่มยาตัวนึงเป็นการขอโทษอย่างสุดซึ้ง และตามคาด เธอก็ดื่มมันลงไป รู้ตัวอีกทีคือนาง A เริ่มปวดท้องจี๊ดๆ ขึ้นมา แต่เพื่อนของเธอก็ยิ่งบอกว่า รู้สึกปวดท้องไม่สบายเหรอ? ดื่มอีกสิ มันจะช่วยทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นนะ
ด้วยท่าทางที่ดูแปลกไป ทำให้นางเอไม่หลงกลเพื่อนของตัวเองและขอให้แท็กซี่จอด และเธอก็ลงหาทางกลับบ้าน ปล่อยให้เพื่อที่เอาเครื่องดื่มให้นั่งกลับไปคนเดียว หลังจากนั้นหลายวันต่อมา เพื่อนของนาง A ก็กลับมาหาเธอที่บ้านพร้อมกับคืนเงินที่ยืมมา 1.2 ล้านวอน ทำให้นาง A ที่โชคดีมาก หายจากอาการปวเท้อง ไม่ได้ติดใจเอาความหรืออะไรกับเพื่อนคนนี้อีกต่อไป เงินก็ได้แล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
1
ข้ามมาวันที่ 27 เดือนมีนาคม ปี 1988 คุณปู่วัย 73 ปี ได้ขึ้นรถบัสพร้อมกับลูกสาวเพื่อไปยังเมืองหนึ่งที่ค่อนข้างไกล ระหว่างทางลูกสาวก็เอายาน้ำตัวหนึ่งให้พ่อกิน เพื่อจะให้พ่อรู้สึกสดชื่นแข็งแรง และก็ตามคาด กว่าจะรู้ตัวก็ฟองออกปากไปแล้ว ล้มตึงลงไปบนพื้นรถบัสพร้อมกับอ้วกออกมา พอไปถึงโรงพยาบาลก็ไม่ทันการ เสียชีวิตไปแล้ว แต่ลูกสาวคุณปู่ก็จัดงานศพพร้อมฌาปนกิจในทันควัน ผลการวินิจฉัยของโรงพยาบาลบอกว่าคุณปู่รายนี้ "น่าจะ" หัวใจวายเพราะความชรา ไม่มีคดีความอะไรให้สืบสวนต่อ
1
ในตอนนั้นเอง ตำรวจเริ่มเอะใจแล้วว่า เหตุการณ์ประมาณนี้มันเกิดขึ้นไล่เลี่ยกันบ่อยเกินไป ในระยะเวลาห่างกันไม่กี่เดือนก็มีคนลงไปชักบนพื้น น้ำลายฟูมปาก เสียชีวิตในเวลาต่อมา แต่ตำรวจยังไม่สามารถเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆ ไปยังคนร้ายได้ เพราะมันไม่มีหลักฐานจริงๆ
29 เดือนเมษายน 1988 นาง C เธอมีพี่สาวคนโตอยู่คนหนึ่ง ได้นัดกันมาคุยเรื่องเงินหลังจากที่คุณพ่อเสีย พี่สาวก็ได้ทำการขอยืมเงินน้องราวๆ 10 ล้านวอน และคุณ C ก็ให้ ทั้งสองก็ได้ขึ้นรถบัสเพื่อหมายจะขึ้นไปยังที่หนึ่งด้วยกัน ระหว่างทางก็คุยกันเรื่องเงินที่พี่สาวติดเธอไว้ก้อนใหญ่
และพี่สาวของนาง C ก็บอกว่า พี่เป็นห่วงเธอนะ แล้วเสนอเครื่องดื่มยาตัวนึงให้ดื่ม ซึ่ง C ก็ดื่มมันเข้าไป ไม่นานหลังจากนั้นทุกคนคงเดาเหตุการณ์กันได้ C เริ่มอ้วกออกมา น้ำลายฟูมปาก ดิ้นทุรนทุราย ล้มลงไปบนพื้นรถบัส ทุกคนบนรถตื่นตกใจมากว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มีคนสังเกตเห็นว่าคนที่นั่งข้างๆ เธอนั้น อยู่ในอาการสงบเกินปกติ
ไม่นานหลังจากนั้น C ก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและเหมือนเดิม ไม่ทันการ ผลการวินิจฉัยคร่าวๆ คือหัวใจวาย
1
8 เดือนสิงหาคม 1988 นางซน ถูกพี่สะใภ้โทรเรียกให้ไปหา เพราะว่าพี่สะใภ้เซ้าซี้บอกว่าอยากได้บ้านหลังหนึ่งมาก ไปดูด้วยกัน แต่ขาดเงิน 484 ล้านวอน ที่จะซื้อเลยอยากจะขอยืมเงินสักหน่อย ทั้งสองคนได้นัดกันไปคุยที่คาเฟ่แห่งหนึ่ง นางซนก็ยื่นเช็คจำนวน 484 ล้านวอน ให้กับพี่สะใภ้ของเธอ
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทั้งๆ ที่อยู่ในคาเฟ่ ดื่มกาแฟกัน พี่สะใภ้ของเธอคนนี้จู่ๆ ก็เสนอให้เธอดื่มเครื่องดื่มยาตัวนึงซะงั้น เพื่อเป็นการขอบคุณที่ให้ยืมเงิน ทีแรกคุณซนก็ไม่ยอมดื่ม แต่ด้วยความคะยั้นคะยอของพี่สะใภ้ สุดท้ายก็ดื่มไปจนได้
ระหว่างทางตอนแยกย้ายกลับบ้าน นางซนเริ่มปวดท้อง หน้ามืด หายใจไม่ออก น้ำลายฟูมปาก ล้มลงบนพื้นและชัก เสียชีวิตในเวลาต่อมา สามีของเธอเสียใจอย่างมากที่ภรรยาวัย 40 ของตัวเองต้องเสียชีวิต ทั้งๆ ที่เธอเองก็ไม่ได้มีโรครุมเร้าอะไร แต่ครั้งนี้ ทางตำรวจที่สืบสวนเรื่องนี้อยู่อย่างใกล้ชิด ขอร้องให้คุณสามี ยินยอมให้มีการชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต
คราวนี้ทางตำรวจได้ผลชันสูตรเสียที และพบว่ามีสารพิษบางอย่างตกค้างในลำใส้ของนางซน เธอถูกวางยาพิษ เมื่อสืบไปก็พบอีกว่าไม่นานก่อนหน้า นางซนให้พี่สะใภ้ยืมเงินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง และชื่อของพี่สะใภ้คนนั้นคือนาง คิมซุนจา คนที่อยู่เบื้องหลังจากเสียชีวิตในหลายๆ คดีก่อนหน้า
คิมซุนจา อายุราวๆ 40 ปี เป็นแม่บ้านธรรมดาๆ แต่งงานอยู่กินกับสามี มีลูก 3 คน เพื่อนบ้านต่างก็รู้จักเธอดีว่าเธอเป็นคุณป้าที่ใจดีมาก ไม่มีอะไรที่จะบ่งบอกได้เลยว่าเธอนั้นจะทำการวางยาพิษสังหารคนได้
คิมซุนจาเป็นแม่บ้านเต็มตัว ไม่ได้ทำงาน ทำให้เธอไม่มีรายได้ รายจ่ายของครอบครัวก็ค่อนข้างมากจากการมีลูกถึง 3 คน แถมสามีของเธอยังเป็นจิตกร รายได้ก็ไม่ได้มากมายอะไรเลย
เมื่อทำการสืบสวนต่อไป คนที่สนิทและใกล้ตัวกับเธอบอกว่า จริงๆ แล้วคิมซุนจา เป็นคนที่ชอบแต่งตัว แต่งหน้า แต่งผม ทาเล็บ พยายามให้ดูดี ดูเนี้ยบ แถมยังชอบออกไปเที่ยวกลางคืนพวกคาบาเรต์คลับ ผสมกับการพนันที่ทำให้เธอติดพัน
1
ตำรวจสืบสาวหาเรื่องราวต่างๆ ก็พบว่านางคิมซุนจา คือผู้อยู่เบื้องหลังสาเหตุการเสียชีวิตของหลายคดีก่อนหน้า ตั้งแต่ในโรงอาบน้ำ บนรถบัสอีกหลายแห่ง ใครที่ได้พบหรือนัดเจอกับเธอต้องมีอันเป็นไปทุกราย และสิ่งที่เหยื่อทุกคนต่างประสบคล้ายๆ กันก็คือ ถูกยืมเงินโดยนางคิม เกือบทุกรายล้วนเป็นเจ้าหนี้ของเธอ
จำนวนเงินที่คิมซุนจาขอยืมจากเหยื่อนั้น เป็นทริคทางจิตวิทยา ไม่ได้ขอยืมเยอะๆ ตัวเลขมั่วๆ ยกตัวอย่างการยืนกว่า 484 ล้านวอน ทำไมต้อง 484? มันทำให้คนที่ยืมดูเหมือนว่าเดือดร้อนและต้องการเงินจำนวนนี้จริงๆ เพื่อที่จะได้ใช้จ่าย คนให้ยืมก็รู้สึกได้จริงๆ ว่าได้ช่วยเหลือคนยืม
อีกหนึ่งจิตวิทยาที่นางคิมซุนจาใช้คือเหตุการณ์ของเพื่อน A ที่เธอลงมือผิดพลาดและตัดสินใจคืนเงินเพราะกลัวว่าจะถูกสงสัย เลยทำการคืนเงินให้จบ เลิกแล้วต่อกัน และคลายความสงสัยของเพื่อน A ที่มีต่อนางคิมอีกด้วย
อีกสิ่งหนึ่งที่เหยื่อทุกคนเจอเหมือนกันคือเครื่องดื่มยาที่ทำการผสมพิษเอาไว้ สิ่งที่ทำให้เหยื่อตายใจก็คือเครื่องดื่มนี้มันธรรมดา พบเห็นได้ทั่วไปตามร้านสะดวกซื้อ ตอนที่นางคิมหยิบมาให้ดื่มก็ทำการเปิดขวดให้เหยื่อดูว่านี่ของใหม่นะ ใครจะไปคิดล่ะว่ามันถูกเปิดและใส่พิษข้างในเอาไว้ก่อนเรียบร้อยแล้ว
ตำรวจต้องการหลักฐานที่มัดตัวนางคิม จึงได้ทำการสอบสวนอย่างหนัก ระหว่างสอบปากคำ นางคิมหมดสภาพของความเป็นคุณป้าใจดีอย่างสิ้นเชิง ทั้งตะโกน กรีดร้อน ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และท้าตำรวจว่าแน่จริงก็หาหลักฐานให้ได้สิ ตำรวจก็ได้ไปดูข้อมูลจากเหยื่อคนก่อนๆ พบความตรงกันอย่างหนึ่งคือตรงท้องมีอาการผิดปกติ แต่ไม่ได้ชันสูตรเลยไม่อาจทราบได้ว่ามีสารอะไรตกค้างข้างใน ตำรวจต้องการหลักฐานที่มัดตัวเพื่อที่จะได้จับฆาตกรต่อเนื่องคนนี้ให้ได้
ทางตำรวจเลยพานางคิมไปที่บ้านของเธอและเริ่มค้นหา ตรวจสอบภายในบ้าน ระหว่างนั้นนางคิมซุนจาก็ตะโกน กรีดร้อง ด่าตำรวจอยู่ตลอด และฟ้ามีตา ตำรวจพบหลักฐานชิ้นสำคัญ มันคือเหล่าเครื่องประดับ ทำจากเพชร พลอย ทองต่างๆ ที่เป็นของเหยื่อ อยู่ภายในบ้านของนางคิม พร้อมกับพบเช็คเงินสดของน้องสะใภ้ที่เสียชีวิตของเธอด้วย แต่ก็ไม่เจอเครื่องมือสังหารอย่างยาพิษ ตำรวจเลยจำเป็นที่จะต้องถอนกำลังเพื่อไปสืบสวนต่อที่โรงพัก
ก่อนตำรวจจะกลับ ตำรวจหญิงนางหนึ่งเกิดอยากเข้าห้องน้ำกระทันหัน เลยไปเข้าในบ้านองนางคิมที่อยู่บริเวณนอกตัวบ้าน ตอนที่กำลังปลดทุกข์ ตำรวจคนนี้ก็สังเกตเห็นเหมือนเป็นรอยแตกๆ บนผนังห้องน้ำ เลยทำการแงะเปิดออกมาดู จึงได้เจอกับห่อๆ หนึ่งที่มีผงสีขาวๆ ที่เธอแอบใส่ในตอนที่เปิดเครื่องดื่มนี้ให้เหยื่อดื่มต่อหน้า มันคือพิษประเภทไซยาไนด์
สาเหตุที่นางคิมเลือกที่จะใช้เครื่องดื่มยี่ห้อนี้คือรสชาติที่เข้มข้นของมันมีสามารถกลบรสชาติของพิษได้
เปลิอกนอกของคุณป้าข้างบ้านแสนใจดี แท้จริงแล้วคือฆาตกรวางยาพิษที่สังหารคนอย่างต่อเนื่องรวมถึงพ่อและน้องสาวของตัวเอง เพื่อที่จะฉกฉวยเงินไปเป็นของตัวเอง
คิมซุนจาต้องใช้ชีวิตในคุกหลังจากนั้น ในปี 1997 นางคิมอายุได้ 58 ปี ก็ได้ถูกศาลลงความเห็นว่าการกระทำของเธอมันโหดร้ายผิดมนุษย์ ไม่มีความเห็นอกเห็นใคร ไม่รู้สึกผิดชอบชั่วดี ลงมือได้แม้กระทั่งครอบครัวของตัวเอง ทำให้ต้องโทษประหารชีวิต ในขณะนั้นก็มีการแก้กฏหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำให้นางคิมและอาชญากรอีก 22 คน เป็นคนกลุ่มสุดท้ายที่ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยศาลของเกาหลีใต้
สิ่งที่น่ากลัวของเรื่องนี้คือแรงจูงใจ ที่ทำเพื่อเงินล้วนๆ คนร้ายกับเหยื่อไม่ได้มีการทะเลาะรุนแรงถึงขนาดที่จะต้องฆ่าแกงกัน เพียงแค่ไม่อยากคืนเงิน ถึงกับต้องวางยาน้องสาวตัวเอง
ลักษณะของคิมซุนจานั้นมีความเป็นไซโคพาส ที่ภายนอกดูธรรมดา ดูเป็นมิตร แต่ในใจและความคิดนั้นมีความบิดเบี้ยวที่ประกอบกันด้วยอะไรหลายๆ อย่าง ทั้งความมั่นใจที่สังหารเหยื่อแล้วไม่มีใครจับได้ เลยทำต่อเรื่อยๆ ความหลงตัวเองที่ต้องทำให้ตัวเองดูดีแม้จะเป็นเงินคนอื่น และขาดความเห็นอกเห็นใจอย่างเห็นได้ชัด
คิดเห็นยังไง คอมเมนต์พูดคุยกันด้านล่างได้นะครับ
.
ถ้าชอบเรื่องราวแบบนี้ อย่าลืมกดติดตาม กด Like
.
สนับสนุนค่าข้าว ค่ากาแฟ เพื่อที่ผมจะได้หาเรื่องราวแปลกๆ เขียนไว้ให้อ่านกันได้ที่
พร้อมเพย์ - True Money
0972217753
เลขบัญชี 328-2-96012-3
ธนาคารทหารไทย TMB
อนิรุทธ์ เสริมสุข Anirut Sermsuk
ขอขอบคุณทุกการสนับสนุน ถ้าหากข้อมูลผิดพลาดตรงไหน เรียบเรียงไม่ดียังไง มีคำผิดตรงไหน คอมเมนต์ติชมได้ และจะน้อมรับไปปรับปรุงนะครับ
โฆษณา