คนที่ครอบครัวไม่ได้มีฐานะร่ำรวย ไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทองจะสามารถประสบความสำเร็จในการลงทุน รวยระดับร้อยล้านพันล้านได้หรือไม่ ?
ปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้ว่าจำนวนเงินลงทุน มีส่วนสำคัญอย่างมากในการที่ยกระดับฐานะทางการเงิน ยิ่งเรามีเงินลงทุนมาก โอกาสมั่งคั่งก็จะสูงตาม เช่น ถ้ามีเงิน 100,000บาท ลงทุนในหุ้นได้ผลตอบแทน 10% จะได้กำไร 10,000 บาท แต่อีกคนมีเงิน 10,000,000 บาท ลงทุนหุ้นตัวเดียวกัน แต่ได้รับดอกเบี้ย 1,000,000 บาท !!
แน่นอนว่าเราไม่สามารถเลือกเกิดได้ ครั้งหนึ่ง บิล เกตต์ เคยกล่าวเอาไว้ว่า "ถ้าคุณเกิดมาจน มันไม่ใช่ความผิดของคุณ แต่ถ้าคุณตายโดยที่ยังจนอยู่ นั่นแหละคุณผิดแน่”
อย่างไรก็ตามการลงทุนที่ดีนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ เงินลงทุนเพียงอย่างเดียว แต่ยังประกอบด้วยปัจจัยด้าน ‘เวลา’ และ ‘ฝีมือ’ ในการลงทุนของแต่ละคน ไม่มีใครสามารถปั้นพอร์ทการลงทุนให้เติบโตขึ้นมาได้ด้วยการเทรดสั้น ซื้อๆ ขายๆ กลับไปดูนักลงทุนที่มีชื่อเสียงของไทย ดร.นิเวศน์ เซียนฮง พี่หลิน เสี่ยยักษ์ บุคคลเหล่านี้ไม่ได้ร่ำรวยมาจากการเทรดสั้นๆ ! และทุกคนที่ประสบความสำเร็จล้วนมีฝีมือในการลงทุน ผ่านการศึกษา ทุ่มเท ทำให้สร้างผลตอบแทนต่อปีได้สูงและสม่ำเสมอ
แล้ว ‘เวลา’ ช่วยให้เรามั่งคั่งได้อย่างไร?
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ ความมั่งคั่งกว่า 90%ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เกิดขึ้นหลังจากที่เขามีอายุ 65 ปี ความมั่งคั่งสุทธิของเขานั้น (100.2 billion USD) ไม่ได้เกิดขึ้นได้ในระยะเวลาอันสั้น แต่เกิดจากการลงทุนสะสมของเขากว่า 3 ใน 4 ศตวรรษ (กว่า 75 ปี)
เครื่องมือลับที่ช่วยสร้างความมั่งคั่งให้กับ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้มากถึงเพียงนี้ ก็คือ ‘เวลา’ เมื่อเรามีระยะเวลาในการลงทุน ที่ยาวนานและมีการลงทุนต่ออย่างต่อเนื่อง (Reinvest) ผลของดอกเบี้ยของเงินต้น และดอกเบี้ยของดอกเบี้ยจะโตขึ้นเรื่อยๆ ความมหัศจรรย์นี้เรียกว่า ‘พลังของดอกเบี้ยทบต้น’ นั่นเอง
และอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือ ‘ฝีมือ’ หรือความสามารถในการสร้างผลตอบแทน ความเก่งกาจของนักลงทุน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดพอร์ท ว่าจะมีกี่หลัก จะเป็นร้อยล้าน หรือพันล้าน สิ่งที่สามารถวัดได้ว่านักลงทุนเก่งจริง คือความสามารถในการ Generate ผลตอบแทนต่อปี ว่าทำได้มากน้อยแค่ไหน และมีความต่อเนื่องหรือไม่
การลงทุนเป็นเรื่องของการตัดสินใจ ตัดสินใจถูกต้องเพียงหนึ่งครั้ง ก็สามารถพลิกพอร์ทการลงทุนให้รวยเปลี่ยนชีวิตได้เลย แต่ต้องอาศัย กฎ3 ข้อ คือ
1. ถูกเวลา : การลงทุนต้องอาศัยจังหวะเวลาที่เหมาะสม ซึ่งต้องประสบการณ์ และปัจจัยแวดล้อมต่างๆ มากมายเข้ามามีส่วนในการพิจารณา
2. ถูกตัว : ซื้อหุ้นที่มีคนจะซื้อ ตามหลักการง่ายๆการที่หุ้นมันจะขึ้นได้ เกิดจากการที่มีคนซื้อ การที่เราเข้าใจในตัวธุรกิจเป็นอย่างดี เข้าใจ Business Cycle และติดตามภาพรวมเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด ก็จะสามารถทำให้เรามองออกว่าหุ้นแบบนี้คือ ‘หุ้นที่จะมีคนซื้อ’
3. ถูกน้ำหนัก : ยิ่งศึกษาเยอะ มั่นใจมาก ก็จะ weight มากกว่า ศึกษามาดี ปัจจัยต่างๆ น้ำหนักในการลงทุนเกิดจากความมั่นใจของเรา ต้องกล้าที่จะซื้อหุ้นในปริมาณที่มากพอ เพื่อที่จะเปลี่ยนชีวิตของเราได้
คนเราไม่ได้รวยได้เพราะฟ้าประธาน แต่รวยได้จากการที่เราพยายามพัฒนาตัวเอง ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้มาในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่เราก็สามารถสร้างตัวเองให้ร่ำรวย โดยใช้ฝืมือ และระยะเวลาเป็นเครื่องมือ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
