สรุป #ฝึกงานแบไต๋
เมื่อผู้บริหารไม่โอเคกับนักศึกษาฝึกงานแล้วมาร่ายยาวบน Facebook
ชาวเน็ตถาม ทำไมมีอะไรไม่คุยกันตรงๆ แบบนี้เรียกว่าเอาเด็กมาแขวนรึเปล่า ?
เรื่องราวจะเป็นยังไงไปอ่านกันครับ
หลายๆคนคงรู้จัก Beartai กันแล้วใช่ไหมครับ
แต่ถ้าใครที่ยังไม่รู้จักก็ขออธิบายสั้นๆว่า Beartai ก็เป็นสื่อออนไลน์เกี่ยวกับวงการไอทีและเทคโนโลยีต่างๆ ที่บริหารโดย คุณ หนุ่ย พงศ์สุข หิรัฐพฤกษ์
ที่มีทั้งยูทูปและเว็บไซต์เป็นของตัวเอง ผู้ติดตามในยูทูปก็มีมากถึง 1.1 ล้านบัญชีเลยทีเดียว คร่าวๆประมาณนี้ครับ
เริ่มเรื่อง
1. เหตุการณ์มันเริ่มมาจากช่วงวันที่ 31 สิงหาคม 2022 ที่ผ่านมา จู่ๆ Facebook ของคุณหนุ่ย แบไต๋ ก็ได้โพสบทความยาวมาก ซึ่งเนื้อหาในบทความเกี่ยวข้องกับแนวทางการทำงานของบริษัทและนักศึกษาฝึกงาน โดยเปิดหัวข้อมาก็ใช้คำว่า "คนทั้งบริษัทกำลังเจอนักศึกษาฝึกงานที่บั่นทอนใจ"
2. แน่นอนว่าหลายๆคนที่ผ่านมาเห็นก็ต่างตกใจเป็นอย่างมากว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆคุณหนุ่ยถึงโพสแบบนี้ จากนั้นโพสดังกล่าวก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมากจนมันกลายเป็นไวรัลทันที
เนื้อความของโพส : เนื่องจากโพสค่อนข้างยาวผมจะขอถอดเนื้อความแบบกระชับที่สุดนะครับ
3. ในโพสบอกว่าตอนนี้คนทั้งบริษัทกำลังเจอนักศึกษาฝึกงานที่บั่นทอนจิตใจจำนวนสองคน ตอนนี้บริษัทได้ตัดสินใจหยุดรับนักศึกษาฝึกงานชั่วคราวเพื่อทบทวนตัวเอง
4. สาเหตุที่คนทั้งบริษัทถึงกับต้องบั่นทอนจิตใจเป็นเพราะ "นักศึกษาฝึกงานทั้งสองไม่ทักใครเลยในออฟฟิศ" คุณหนุ่ยบอกว่าเด็กทั้งสองไม่ทักทายใครเลยไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน แม่บ้าน หัวหน้า หรือแม้แต่ผู้บริหาร
5. แต่ถ้าพูดถึงการทำงานเด็กทั้งสองคนทำงานดีมาก แต่ข้อเสียคือเด็กทั้งสองไม่มีปฎิสัมพันธ์กับใครสักคนเลยในบริษัท ที่ผ่านมาคนในออฟฟิศพยายามกระตุ้นให้เด็กทั้งสองมีส่วนร่วมในวงสนทนาเสมอแต่พวกเขาก็ไม่สนใจ คุณว่าพวกเขาแปลกไหม (อันนี้คุณหนุ่ยถาม)
6. คุณหนุ่ยบอกว่า ตนย้ำเสมอว่าไม่ต้องไหว้ก็ได้แค่อยากให้ทักทายกันแบบเพลงทักครับ .. และจุดที่รู้สึกว่าขาดผึงก็มาถึง เมื่ออาจารย์ที่ปรึกษาของเด็กทั้งสองโทรมาหา COO (Chief Operation Officer) ทางด้านของ COO ก็เลยเล่าปัญหาที่บริษัทเจอให้อาจารย์ที่ปรึกษาฟัง
7. สิ่งที่อาจารย์ตอบกลับมาคือ นักศึกษาฝึกงานที่ส่งไปเป็นคนสองบุคลิก ตอนอยู่สถาบันก็เป็นแบบนี้เลย อยู่ในห้องเรียนยกมือถามตอบตลอด คะแนนก็ออกมาดี แต่พอออกนอกห้องเรียนก็ดันมาโพส Facebook ด่าอาจารย์อย่างสนุปาก
8. ทาง COO ก็ตอบกลับอาจารย์ที่ปรึกษาไปว่า ที่ผ่านมาบริษัทไม่ได้ตัดสินใจยุติการฝึกงานกับเด็กทั้งสองเป็นเพราะเห็นว่าทำงานออกมาดี แม้พูดตรงๆว่ามารยาททางสังคมสอบตก ซึ่งทางบริษัทก็พยายามช่วยมามากพอแล้ว
9. ตัดภาพกลับไปที่มื้อกลางวันที่ผ่านมา คุณหนุ่ยบอกว่า ตนได้ไปกินข้าวที่ศูนย์อาหารและเลือกที่จะนั่งหันหน้าออกมาด้านที่ผู้คนเดินผ่านไปมา แล้วสักพักเด็กฝึกงานทั้งสองก็เดินผ่านมาพอดี คุณหนุ่ยบอกว่า เขาได้ทำการมองทักทายด้วยสายตาไปยังเด็กทั้งสอง
10. เด็กผู้ชายคนแรกใช้เวลาตัดสินใจราว 5 วินาทีในการทักทายกลับ ส่วนเด็กผู้หญิงไม่สนใจไม่มองและจะเดินผ่านไปเฉยๆ คุณหนุ่ยจึงกวักมือเรียกให้ทั้งสองมาที่โต๊ะ คุณหนุ่ยก็ทักทายทำนองว่า "อยากทักก็ทักเลย ไม่ต้องลังเล"
11. เด็กผู้ชายได้ตอบกลับคุณหนุ่ยว่า ไม่มั่นใจว่าเป็นคุณหนุ่ยเลยต้องมองดีๆก่อน เพราะมองเห็นไม่ชัด คุณหนุ่ยบอกว่าตอนนั้นความใจฟูทั้งหมดที่มีได้ฟีบลงและบอกกับเด็กทั้งสองไปว่า งั้นไปเถอะครับ ไม่เป็นไร
12. คุณหนุ่ยได้แสดงความคิดเห็นว่า การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของเด็กทั้งสองนั้นแย่มาก นอกจากนั้นยังบอกอีกว่า ตอนนี้คนแบบนี้ในสังคมมีเยอะขึ้น ตนคิดว่าควรจะช่วยกันแก้ไขปัญหานี้ก่อนที่พวกเขาจะออกสู่สังคมใหญ่ และทิ้งท้ายว่า หวังว่าจะไม่ต้องอ่านโพสด้านมืดจากน้องในทวิตเตอร์นะ เพราะตนไม่ได้เอ่ยนามใคร ..
ดราม่าจากชาวเน็ต
13. หลังจากที่โพสนี้กลายเป็นไวรัล ก็มีชาวเน็ตมากมายเข้ามาแสดงความคิดเห็นในทำนองว่า ไม่เห็นด้วยที่คุณหนุ่ยทำแบบนี้ สาเหตุหลักๆที่ไม่เห็นด้วยคือ
- ■เอาเด็กมาแขวน : ถึงแม้ว่าท้ายโพสจะบอกว่าไม่เอ่ยถึงใคร แต่ในเนื้อหาก็ค่อนข้างเล่าแบบละเอียดยิบอยู่แล้ว ถ้ามีคนที่อยากจะตามสืบว่าเป็นใครก็คงไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร แบบนี้คนที่ได้รับกกระทบมากสุดก็คือเด็กฝึกงาน
- ■ทำไมไม่เรียกคุยตรงๆ : ชาวเน็ตก็มองว่า จากที่อ่านโพสมามันก็ดูไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายขนาดถึงขั้นที่จะเอามาร่ายยาวเป็นบทความลง Facebook เลย แค่เอาสิ่งที่อยู่บน Facebook นี้ไปคุยกับเด็กตรงๆแบบต่อหน้าเลยน่าจะเป็นผลดีกว่านะ
- ■อาจารย์ที่ปรึกษา : ด้านนี้ชาวเน็ตก็มองว่า อาจารย์ที่ปรึกษาก็เผานักศึกษาของตัวเองซะไหม้เลย แบบนี้ฝ่ายที่เสียที่สุดก็หนีไม่พ้นนักศึกษากับสถาบันที่ส่งมา //แต่ในเรื่องนี้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่งออกมาอ้างว่าเป็นเพื่อนของเด็กทั้งสอง เขาได้แก้ต่างแทนว่า เพื่อนของเขาทั้งสองเป็นคนตั้งใจเรียนมากจริงอยู่ที่จะมีการโพสโซเชียลถึงอาจารย์ แต่ไม่ใช่การด่าทอเสียๆหายๆ จะเป็นการตั้งคำถามถึงเรื่องที่เรียนไปซะมากกว่า
14. ในเรื่องนี้ชาวเน็ตก็ค่อนข้างเสียงแตกเป็นสองฝั่งคือ ฝั่งหนึ่งบอกว่า ถ้าเด็กทำงานดีรับผิดชอบงานได้ ไม่สร้างความวุ่นวายให้กับใคร ถึงแม้จะไม่ทักทายใครเลยก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง เพราะบนโลกนี้คงไม่ใช่ทุกคนที่จะอัธยาศัยดีเหมือนกันหมดหรอก พวกที่อัธยาศัยดียิ้มแย้มแจ่มใส แต่ลับหลังนินทาก็มีถมไป
15. อีกฝั่งก็มองว่า ถึงแม้จะอัธยาศัยไม่ดียังไง แต่ขอแค่ยิ้มทักทายคนเดินผ่านสักหน่อยก็น่าจะดีนะ เพราะอย่างน้อยมันก็คือ soft skill ที่จะช่วยผูกมิตรกับคนอื่นๆได้
เรื่องราวก็ประมาณนี้ครับ
ส่วนใครคิดเห็นยังไงก็มาแชร์กันในคอมเมนท์นะครับ
ปล. ตอนนี้โพสต้นทางของคุณหนุ่ยก็หายไปแล้วนะครับ ไม่แน่ใจว่าลบหรือซ่อนโพส
UPDATE : คุณหนุ่ย ได้ออกมาโพสขอโทษถึงเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว โดยยอมรับว่าตนผิดเองที่เอาเด็กฝึกงานมาแขวนและเอาเรื่องนี้มาเล่าในพื้นที่สาธารณะ และบริษัทได้ติดต่อเด็กฝึกงานทั้งสองและทำการขอโทษต่อหน้าแล้ว
และสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกในอนาคต
อ้างอิง
Twitter #ฝึกงานแบไต๋
- 24
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
