ผลที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาถดถอยอยู่ช่วงปี 1982-1983 ส่วน Dow Jones index มีการปรับตัวขึ้นในช่วงแรก แต่ก็มีการพักตัวลงตามมา ตามเศรษฐกิจที่ถอถอยลงไป แต่สุดท้ายก็กลับขึ้นไปได้อีกในปี 1983-1984 ตามภาพ
เพื่อให้เราสามารถเข้าใจสถานการณ์ของตลาดหุ้นในเวลานั้นมากขึ้น ต้องย้อนเวลากลับไปว่า เวลานั้น Dow Jones index มีหน้าตาเป็นอย่างไร
จะเห็นว่า บริษัทใน Dow Jones index ตอนนั้น ที่ใหญ่ที่สุดคือ IBM ตามมาด้วย AT&T ถัดมาส่วนใหญ่เป็นบริษัทน้ำมันหลายบริษัท แสดงถึงตลาดทุนช่วงนั้นมี character ของอุตสาหกรรมการผลิตชัดเจน บริษัทเทคโนโลยีมี IBM และ AT&T โดยเฉพาะ IBM ที่ยังอยู่ในช่วงของการเติบโต
ในปี 1981 บริษัทที่พาตลาดขึ้นมา คือ ทั้ง AT&T และ IBM ที่น่าจะเป็นช่วงของการเริ่มต้นของหุ้นเทคโนโลยี มีการเติบโตของการใช้ทั้งคอมพิวเตอร์และการสื่อสารเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจแทนที่เทคโนโลยีเดิม
ปี 1982 ตลาดหุ้นเริ่มชะลอตัวตามเศรษฐกิจที่ถดถอย นำโดย AT&A และบริษัทในกลุ่มโรงกลั่นอย่าง Shell กับ Standard oil of California แต่ก็มีหุ้นกลุ่มค้าปลีกอย่าง Sears ขึ้นมาแทนในช่วงปลายปี 1982
ในปี 1984 จะเห็นว่าบริษัทที่เป็นตัวนำตลาดขึ้นมาเลยตอนนั้นคือ IBM (น่าจะคล้ายๆกับ Apple ในช่วงนี้) ส่วนตัวเข้าใจว่าเป็นช่วงของการเติบโตจากการ disrupt technology ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องในช่วงการเปลี่ยนถ่ายจากเทคโนโลยี สังเกตุจากบริษัทที่เน้นการผลิตมีสัดส่วนลดลง ในขณะที่ด้านบริการมีเพิ่มมากขึ้น
จนมาถึงปัจจุบัน บริษัทที่อยู่ใน Dow Jones Index เปลี่ยนไปมาก top companies กลายเป็นบริษัทเทคโนโลยี รวมไปถึงกลุ่มการเงิน