Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Timeless History (ประวัติศาสตร์ไร้กาลเวลา)
•
ติดตาม
3 ก.ย. 2022 เวลา 05:58 • ประวัติศาสตร์
ภารกิจในการปกป้อง “ต้นฉบับทิมบักตู (Timbuktu Manuscripts)” (เนื้อหาเต็ม)
ก่อนจะไปหาคำตอบที่ค้างไว้ในบทเกริ่นนำ ผมว่าเรามาดูเรื่องราวของทิมบักตูกันก่อนดีกว่า
ในอดีต ทิมบักตูคือเมืองที่รุ่งเรืองด้วยการค้าและภูมิปัญญา โดยในบริเวณที่สร้างเมืองนั้น ได้ถูกเข้ายึดครองตั้งแต่เมื่อราว 500 ปีก่อนคริสตกาล
1
เมื่อเวลาผ่านไป ทิมบักตูกลายเป็นศูนย์กลางการค้า เนื่องมาจากชัยภูมิที่ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำไนเจอร์ โดยทิมบักตูรุ่งเรืองอย่างมากในสมัยศตวรรษที่ 14 สร้างความมั่งคั่งจากสินค้าอย่างเกลือ งาช้า และการค้าทองคำ
1
“Ibn Battuta” นักผจญภัยชาวโมรอคโค ได้เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับทิมบักตูครั้งแรกในปีค.ศ.1353 (พ.ศ.1896) โดยผู้ที่สร้างความรุ่งเรืองอย่างมากให้แก่ทิมบักตู ก็คือ “Mansa Musa” ผู้ปกครองจักรวรรดิมาลี
1
Mansa Musa
ในปีค.ศ.1324 (พ.ศ.1867) Mansa Musa ได้เข้ายึดครองทิมบักตู และผนวกทิมบักตูเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิมาลี โดยหลายคนเชื่อว่า Mansa Musa คือบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประวัติศาสตร์ ถึงแม้จะคิดค่าเงินปัจจุบันก็ตาม
1
แต่ถึงแม้ความมั่งคั่งของ Mansa Musa จะยังไม่แน่ชัด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพระองค์ทรงเป็นผู้สนับสนุนการสร้างภูมิปัญญาและวัฒนธรรม โดยพระองค์ทรงมีรับสั่งให้สร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆ มากมาย รวมทั้งสถานศึกษาซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญในช่วงยุคกลาง นั่นคือมหาวิทยาลัยทิมบักตู (University of Timbuktu)
หนังสือที่เก็บรักษาไว้ในมหาวิทยาลัยทิมบักตู ล้วนแต่ทรงคุณค่า โดยเป็นตำราโบราณหลายแขนง ทั้งศิลปะ เภสัชศาสตร์ ศาสนา กฎหมาย ปรัชญา และคณิตศาสตร์ รวมทั้งตำราที่พูดถึงเรื่องต้องห้ามอย่างเรื่องราวทางเพศ ซึ่งสำหรับอิสลาม นี่เป็นเรื่องที่แทบไม่มีการพูดถึง
1
ในต้นฉบับทิมบักตู (Timbuktu Manuscripts) มีหนังสือเกี่ยวกับการดูดวง ดาราศาสตร์ เวทมนตร์คาถา สุขภาพ สมุนไพร และกฎหมาย โดยในช่วงที่รุ่งเรือง คาดว่าต้นฉบับทิมบักตูอาจจะมีมากถึง 700,000 ฉบับเลยทีเดียว
1
ต้นฉบับทิมบักตูนั้นแตกต่างจากหนังสืออื่นๆ ที่มักจะจัดเก็บในห้องสมุด หากแต่ต้นฉบับทิมบักตูนั้นมีอยู่ตามบ้านของผู้คน คนธรรมดาก็มีหนังสือเหล่านี้และส่งต่อให้ลูกหลาน
1
แต่เมื่อคืนวันที่รุ่งเรืองของทิมบักตูได้ผ่านพ้นไป ผู้คนก็ยังพยายามจะรักษาภูมิปัญญาและความรู้ต่างๆ ในคืนวันที่รุ่งเรืองไว้ หากแต่การอพยพ สงคราม และความอดอยาก ก็ทำให้ต้นฉบับทิมบักตูสูญหาย กระจัดกระจายไปที่ต่างๆ และการตามหาก็ทำได้ยาก
หากแต่ Abdel Kader Haidara คือชายที่ไม่ยอมแพ้ และตั้งใจจะตามหาและรวบรวมต้นฉบับเหล่านี้ให้ได้
1
Abdel Kader Haidara
Haidara เกิดในครอบครัวบัณฑิต และเชี่ยวชาญในงานของนักคิดชาวยุโรป โดยในช่วงศตวรรษที่ 19 นักประวัติศาสตร์ยุโรปแทบจะไม่รู้เรื่องราวของประวัติศาสตร์แอฟริกานอกเหนือจากอียิปต์
1
มีการพูดกันว่าแอฟริกาไม่มีการบันทึกประวัติศาสตร์ ทำให้ Haidara ให้ค่าต้นฉบับทิมบักตูมาก และต้องการจะแสดงให้โลกเห็นว่าชาวแอฟริกันหลายรุ่น ต่างต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องบันทึกความรุ่งเรืองเหล่านี้ไม่ให้สลาย
Haidara ได้ออกเดินทางไปทั่วมาลีเพื่อค้นหาและรวบรวมต้นฉบับโบราณเหล่านี้ และเก็บรักษาไว้ในห้องสมุด
Haidara พบหนังสือล้ำค่าเหล่านี้ตามบ้านผู้คนมากมาย และได้เจรจา ขอให้มอบและบริจาคงานเขียนทรงคุณค่าเหล่านี้ให้แก่ห้องสมุด
ความพยายามของ Haidara ทำให้ค้นพบและรวมรวมต้นฉบับทิมบักตูในยุคทองได้ถึง 400,000 ฉบับ และนำไปเก็บรักษาไว้ยังศูนย์วิจัย Ahmad Baba
แต่ในวันที่ 13 มิถุนายน ค.ศ.2012 (พ.ศ.2555) กลุ่มอัลกออิดะฮ์ได้เข้าโจมตีทิมบักตู และเข้ายึดครองเมืองในวันที่ 29 มิถุนายน ค.ศ.2012 (พ.ศ.2555)
1
กลุ่มผู้ก่อการร้ายได้ประหารและทรมานผู้คน และนอกเหนือจากนั้น มรดกทางวัฒนธรรมก็คือสิ่งที่กลุ่มอัลกออิดะฮ์หมายตา
มีการทำลายสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และสำคัญมากมาย และกลุ่มอัลกออิดะฮ์ก็เห็นว่าต้นฉบับทิมบักตู เป็นหนังสือที่ชั่วร้าย ดูหมิ่นเหยียดหยามศาสนา มีการพูดถึงเรื่องที่ไม่เหมาะสม และทางกลุ่มจะไม่มีทางยอมรับ
1
กลุ่มผู้ก่อการร้ายได้เพ่งเล็งไปยังห้องสมุดของเมือง ซึ่งเท่ากับว่างานที่ Haidara ทุ่มเทชีวิตและจิตวิญญาณทำมากว่าครึ่งชีวิต จะต้องสูญสลายไปในพริบตา
หากแต่ Haidara ก็ไม่ยอมแพ้ เขาและเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ จะขอสู้ให้ถึงที่สุด และยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องหนังสือเหล่านี้
1
ภายหลังจากที่กลุ่มอัลกออิดะฮ์เข้ายึดเมือง Haidara และครอบครัวที่ครอบครองเอกสารและหนังสือเหล่านี้ ก็ได้นัดมาพูดคุย ปรึกษาหารือว่าจะรักษาสิ่งล้ำค่าเหล่านี้ไว้ได้อย่างไร
อันดับแรก ก็จะหาอาสาสมัครที่จะเป็นผู้ซื้อหีบขนาดใหญ่ เพื่อใช้ในการบรรจุต้นฉบับต่างๆ โดยในเวลากลางคืน Haidara และคนอื่นๆ จะนำเอกสารและหนังสือมาใส่ไว้ในหีบ เนื่องจากในเวลากลางวันนั้นมีเวรยามแน่นหนา
อันดับแรกก็จะต้องนำหนังสือและเอกสารมาใส่ไว้ในหีบโดยไม่เป็นที่ต้องสงสัย จากนั้นก็ต้องขนส่งไปยังเมืองบามาโก ซึ่งนี่ถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก
การขนส่งไปอย่างปลอดภัยจำเป็นต้องใช้เงินมาก และหากก้าวพลาดแม้แต่นิดเดียว ปฏิบัติการทั้งหมดจะล้มเหลว โดยระยะทางจากทิมบักตูไปถึงบามาโก ก็คือกว่า 975 กิโลเมตร อีกทั้งระยะทางนั้นยังมีจุดอันตรายและด่านตรวจต่างๆ
ผู้ที่เข้ามาช่วยสนับสนุนด้านเงินทุน ก็คือสถานทูตเยอรมนีและมูลนิธิ Prince Claus แห่งเนเธอร์แลนด์
Haidara และคนอื่นๆ ได้ส่งเอกสารและหนังสือผ่านทางรถบรรทุก เรือ และเกวียน โดยมีการนำผักและผลไม้มาปิดไว้ด้านบนเพื่อหลอกว่าเป็นรถขนผลไม้และผัก
ปฏิบัติการนี้สำเร็จได้ด้วยดี ภายในเวลาเก้าเดือน 95% ของเอกสารและหนังสือจากทิมบักตูก็ได้ถูกขนย้ายไปเก็บรักษาไว้ในห้องสมุดของเมืองบามาโก
1
กว่าฝ่ายผู้ก่อการร้ายจะค้นพบห้องสมุดในทิมบักตู เอกสารและหนังสือต่างๆ ก็ถูกขนย้ายไปเกือบหมดแล้ว
ด้วยความโมโห กลุ่มผู้ก่อการร้ายจึงได้ทำการเผาต้นฉบับที่ยังเหลืออยู่จำนวน 4,000 ฉบับ
กลุ่มผู้ก่อการร้ายต้องการที่จะทำลายทุกอย่าง แต่ด้วยความกล้าหาญของ Haidara และคนอื่นๆ เด็กรุ่นหลังจึงสามารถชื่นชมมรดกทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาผ่านต้นฉบับทิมบักตู
Haidara ต้องการจะแสดงให้โลกเห็นว่าแอฟริกาก็มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ซึ่งความพยายามของเขาก็ส่งผลสำเร็จ
References:
https://medium.com/teatime-history/the-daredevil-librarians-who-smuggled-ancient-manuscripts-from-under-the-noses-of-al-qaeda-d2ea08725764
https://www.bbc.com/news/world-africa-60689699
https://www.theguardian.com/world/2013/jan/28/timbuktu-library-centuries-african-history
https://www.atlasobscura.com/places/timbuktu-manuscripts-mali
ประวัติศาสตร์
9 บันทึก
24
3
9
24
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย