4 ก.ย. 2022 เวลา 00:03 • ความคิดเห็น
Stay Hungry Stay foolish
1
ประโยค “Stay Hungry Stay Foolish” เป็นประโยคสุดท้ายที่ Steve Jobs ฝากทิ้งท้ายให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัย Stanford ที่กำลังจะจบการศึกษา
ทำไมคนระดับ Steve Jobs ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงและผ่านร้อนผ่านหนาวมามากถึงเลือกประโยคนี้มาฝังไว้ในหัวของนักศึกษาทุกคนเป็นประโยคทิ้งท้าย
นักศึกษาในวันนั้นรวมถึงผมเองในวันที่ได้ฟัง speech เมื่อสิบกว่าปีก่อนก็งงๆ ว่าทำไมการที่ต้องรู้สึก “กระหาย” และรู้สึกว่าตัวเอง “ไม่รู้” นั้นถึงสำคัญมากๆขนาดนั้น
1
Steve Jobs ได้ประโยคนี้มาจากนิตยสาร Whole earth catalog เป็นปกหลังของฉบับสุดท้ายก่อนนิตยสารจะเลิกราไป สตีฟเล่าถึงภาพนั้นว่าเป็นถนนในชนบทยามเช้าที่มีบรรยากาศที่ชวนโบกรถออกไปผจญภัยมากๆ บนปกหลังก็มีคำร่ำลาทิ้งท้ายไว้ซึ่งเป็นคำที่ทำให้สตีฟปรารถนาที่จะมีความรู้สึกนี้ติดตัวตลอดเวลาและก็ถือโอกาสส่งต่อประโยคแห่งชีวิตนี้ให้กับนักศึกษาต่อไป
2
สิบกว่าปีผ่านไป ตอนนี้ผมเข้าใจชัดเจนมากขึ้นว่า การที่เราสามารถมีสภาวะที่กระหายใคร่รู้ตลอดเวลา อยากปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น รู้ว่าตัวเองไม่รู้อะไรนั้นเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดที่มนุษย์พึงจะมี โดยเฉพาะในยุคแห่ง VUCA ที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในวันนี้ ความกระหายใคร่รู้หรืออาจจะเรียกว่า passion นั้นเป็นตัวผลักดันให้เราพยายามปรับปรุงตัวเอง ส่วนความรู้สึกว่าตัวเองยังไม่รู้พอนั้นทำให้เรา humble ไม่มี ego ที่จะเปิดรับสิ่งใหม่
1
คุณบุญคลี ปลั่งศิริ อดีตซีอีโอผู้โด่งดังและปัจจุบันยังเป็นที่ปรึกษาให้กับองค์กรขนาดใหญ่หลายแห่งเคยตอบคำถามผมที่ถามว่า คนเก่งสมัยนี้ในนิยามของคุณบุญคลีคืออะไร คุณบุญคลีตอบว่าไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารระดับไหนก็ตามต้องเป็นคนที่มี “ability to learn” ซึ่งการที่จะมี ability to learn ซึ่งยากขึ้นเรื่อยๆตามตำแหน่งที่สูงขึ้น ความสำเร็จที่มากขึ้น ก็ต้องมีความสามารถในการดำรงสภาวะ stay hungry stay foolish ให้ได้
แล้วสภาวะ stay hungry stay foolish นั้นเป็นอย่างไร ตัวอย่างที่ผมเพิ่งอ่านเจอและเป็นตัวอย่างที่เล่าเรื่องสภาวะนี้ได้ดีก็คือเรื่องราวของ Sam Walton (เสียชีวิตเมื่อปี 1992) แห่ง Walmart คุณแซมสร้าง Walmart จากร้าน discount store เล็กๆในเมืองชนบทของสหรัฐ ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ค่อยๆเติบโตจนปัจจุบันมีหมื่นกว่าแห่งทั่วโลก คุณแซมเคยเป็นคนที่รวยที่สุดในโลกอยู่ช่วงหนึ่งด้วยซ้ำ แต่ก็ใช้ชีวิตสมถะ สนุกกับการทำงาน ปรับปรุงร้าน ชอบคิดไอเดียใหม่ๆอยู่เสมอ
1
มีครั้งหนึ่งนักธุรกิจบราซิลกลุ่มหนึ่งสนใจโมเดลธุรกิจของสหรัฐ พยายามติดต่อนักธุรกิจชื่อดังหลายคน ก็มีแต่คุณแซมที่ตอบรับที่จะมาเจอแล้วชวนนักธุรกิจบราซิลไปพบและทานข้าวที่รัฐอาร์คันซอส์ซึ่งเป็นบ้านเกิดของคุณแซม นักธุรกิจบราซิลกลุ่มนั้นเล่าว่าแทนที่จะได้ซักถามเทคนิคค้าปลีกสมัยใหม่ของคุณแซม คุณแซมกลับพยายามถามไอเดียต่างๆของการค้าปลีกในบราซิล อยากเรียนรู้เทคนิคใหม่ๆจากพวกเขามากกว่า
1
หลังจากนั้นทางกลุ่มก็ชวนคุณแซมไปที่บราซิลซึ่งคุณแซมก็ตกลงง
ปรากฏว่าพอไปถึงไม่นาน นักธุรกิจกลุ่มนี้ก็ได้รับโทรศัพท์จากตำรวจ บอกว่ามีเพื่อนชาวอเมริกันถูกจับ!
พอไปถึงก็พบกับคุณแซมติดคุกอยู่ต้องไปประกันตัวออกมา สาเหตุที่ทำให้คุณแซมติดคุกก็เพราะแกไปคุกเข่าวัดระยะห่างของทางเดินในซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งด้วยความสงสัยใคร่รู้ว่าซุปเปอร์บราซิลมีเคล็ดลับอะไรที่แกยังไม่รู้บ้าง
1
จนเจ้าหน้าที่ร้านตกใจเลยเรียกตำรวจมาจับมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกไปในที่สุด
1
ความกระหายใคร่รู้ สงสัยว่าคนอื่นรู้อะไรที่แกยังไม่รู้ถึงขนาดไปคุกเข่าวัดห้างจนถูกจับ ผมว่าเป็นแบบฉบับของ Stay Hungry Stay Foolish อย่างแท้จริง
1
อ่านเรื่องนี้ถึงเริ่มจะเข้าใจว่าทำไมคนอย่าง Steve Jobs ถึงปรารถนาที่จะให้ตัวเองยังคงสภาวะความรู้สึกนี้ได้ไม่ว่าจะร่ำรวยหรือประสบความสำเร็จแค่ไหน และทำไมเขาถึงอยากส่งมอบประโยคสำคัญนี้ด้วยความปรารถนาดีให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดในวันนั้นครับ…..
1
โฆษณา