2 คำถามกับ 2 ความเชื่อ ที่มือใหม่หัดขายชอบเข้าใจผิด
คำถามที่ 1: ขายอะไรดี?
ก่อนที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจ หลายคนมักตั้งต้นด้วยคำถามที่ผิดว่า
“จะขายอะไรดี” “จุดเด่น จุดขาย ของสินค้าเรามีอะไรบ้าง”
ปัญหาที่แท้จริงนั้นไม่ได้อยู่ที่ตัวสินค้า
หากแต่เป็นเจ้าของธุรกิจที่ตั้งโจทย์แบบผิดๆ ตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มต่างหาก
ถ้าให้อธิบายให้เห็นภาพชัดขึ้นอีกหน่อย ให้เราลองนึกดูว่า
ของกินหรือขนมที่เราชอบสุดๆ เมื่อปีที่แล้ว จนถึงตอนนี้ มีสักกี่ร้านที่ยังครองใจ หรือจูงใจให้เราอยากกลับไปอีกสักครั้ง
เพื่อนๆ ก็คงจะพอนึกออกแล้วว่า การตั้งโจทย์ที่ถูกต้องนั้น คือ การให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ไม่ใช่ที่ตัวเราหรือสินค้าของเรา
ลองปรับเปลี่ยนมุมมองใหม่ เปลี่ยนจากการตั้งคำถามที่เริ่มจากตัวเอง ไปมองจากฝั่งลูกค้าให้มากขึ้น เช่น “ตอนนี้ลูกค้ามองหาสินค้าประเภทไหนอยู่?” “จุดขายของสินค้าเรา ตรงกับความต้องการนั้นไหม?” หรือ “ลูกค้าอยากให้เราปรับปรุงบริการของเราอย่างไร?”
การค้นหาคำตอบของคำถามเหล่านี้ จะช่วยให้เราเห็นแนวทางของธุรกิจเราชัดเจนยิ่งขึ้น และไม่หลงไปกับการพยายามทำตัวตามเทรนด์อย่างเดียว
คำถามที่ 2 : ลดราคาเท่าไหร่ดี?
การลดราคาเป็นหนึ่งกลยุทธ์ที่หลายคนเลือกใช้ เพราะมันสามารถช่วยกระตุ้นยอดขายได้แบบไม่ต้องลุ้น แต่ความจริงแล้ว การลดราคานั้น ส่งผลร้ายต่อธุรกิจมากกว่าผลดี
เมื่อเราลด คู่แข่งเห็นเราขายได้ก็ลดตาม เกิดเป็นสงครามราคา ต่อสู้กันไม่จบสิ้น สุดท้ายก็บาดเจ็บทั้งคู่ ยิ่งไปกว่านั้น พอลดราคาจนลูกค้า “เคยชิน” จะกลับมาใช้ราคาปกติ ลูกค้าก็เมินเอาซะอย่างนั้น ดังนั้นก่อนคิดจะลดราคา ต้องขอให้ตั้งสติ และคิดให้ดีก่อนว่า ยอดขายที่ได้เพิ่มขึ้นมา มันคุ้มต่อภาพรวมของธุรกิจที่จะเสียในระยะยาวหรือเปล่า
ความเชื่อ 1: ความประทับใจแรกเท่านั้น ที่ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำได้
ใครที่เคยดูหนังหรือซีรีย์ที่มีหลายตอน ช่วงต้นทำไว้สนุก ลุ้นจนตัวเกร็ง
แต่พอตอนท้ายๆ ตัวร้ายที่ว่าเก่ง ดันมาตายง่ายเอาดื้อๆ หรือการจบแบบหักมุมที่ชวนให้งง ว่าเอ๊ะ นี่จบแบบนี้ก็ได้หรอ พาลให้เราเซ็งแล้วสรุปเหมาไปว่าเรื่องนี้ไม่สนุกซะแล้ว
นี่เป็นตัวอย่างง่ายๆ ที่ เห็นภาพชัดเจนที่สุด เพราะประสบการณ์สุดท้าย คือ สิ่งที่ลูกค้าจะบอกต่อ และส่งผลสำคัญต่อการตัดสินใจซื้อครั้งต่อๆ ไป ดังนั้นแล้วการตลาดที่ดีต้องทำให้ลูกค้าประทับใจตั้งแต่นาทีแรกที่พบ จนถึงวินาทีสุดท้ายที่จากกัน
ความเชื่อที่ 2 : การตลาดคือเวทมนตร์ เสกสินค้าก็อปเกรดเอ ให้กลายเป็นพรีเมียมได้ในข้ามคืน
คงไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มเกี่ยวกับความมาไว- ไปไว ของโซเชียลมิเดียในสมัยนี้
ดังข้ามคืน-ดับข้ามปี ก็มีให้เห็นอยู่ทุกวัน
ถ้าจะใช้พูดถึงความเชื่อผิดๆ นี้ได้ตรงประเด็นมากที่สุด ต้องขอยกคำพูดสรุปของอาจารย์ ดร. วิเลิศ ภูริวัชร ที่กล่าวไว้ว่า
การตลาดที่แท้ต้อง “ดึงภาพ ไม่ใช่สร้างภาพ” ซึ่งก็คือ
ให้ดึงสิ่งที่ดีและมีอยู่จริงออกมาสื่อสาร ไม่ใช่การสร้างภาพบิดเบือนความจริง
อาจจะดูเป็น 2 คำถาม 2 ความเชื่อที่แสนจะธรรมดา แต่เชื่อเถอะว่าหลายคนก็ยังตั้งคำถามหรือมีความเชื่อผิดๆ แบบนี้อยู่
หากใครที่ยังติดกับหลุมพรางทางความคิดเหล่านี้ ต้องรีบก้าวออกมาให้ไว
ขอบคุณข้อมูลจาก: หนังสือ อัจฉริยะการตลาด
- 2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
