ชักรู้สึกจะเป็นห่วงเลสเตอร์ ซิตี้ แล้วล่ะซิครับ โดยเฉพาะเมื่อนั่งดูเกมล่าสุดที่พวกเขาลงใต้ไปพ่าย ไบร์ทตัน 2-5 แบบสู้ไม่ไหวจริงๆ
เข้าใจได้ว่าต้นฤดูกาล พวกเขาเจอโปรแกรมที่ไม่เบามากนัก ทั้งอาร์เซน่อล เชลซี และแมน ยูไนเต็ด ที่ถือว่ามีดีกรีกันอยู่ เกมล่าสุดคือดวลกับไบรท์ตันที่กำลังมั่นใจ และระบบทีมขึ้นหม้อแล้ว ความพ่ายแพ้ 2-5 แบบสุ้ไหวในครึ่งแรก ก่อนจะค่อยๆ ยวบในครึ่งหลัง ทำให้เลสเตอร์แพ้ติดๆ กันในโค้งแรก หล่นไปอยู่อันดับสุดท้ายของตาราง
อย่างไรก็ตาม เลสเตอร์ยังไม่สามารถฉวยโอกาสจากการเจอทีมในระดับที่ชนะได้อย่างเซาธ์แฮมตัน (แพ้ 1-2) และเบรนท์ฟอร์ด (เสมอ 2-2) ทำให้ตอนนี้พวกเขาไม่ชนะใครเลย มีแค่คะแนนเดียวที่กอดไว้แน่นตั้งแต่นัดแรกเรื่อยมา
สาเหตุส่วนหนึ่งคือทีมที่ไม่มีตัวเสริมใหม่ที่ยกระดับทีมได้ในทันที แม้จะเสียตัวผู้เล่นคีย์แมนไม่มาก คือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล กับ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า แต่ตัวที่ซื้อเข้ามามีแค่ 2 ตัว และที่พอจะเอามาปั้นได้คือ วู้ต ฟาเอส กองหลังที่คาดว่ามาเติมการหายไปของโฟฟาน่า แต่เชื่อว่ายังปิดแผลไม่สนิทแน่นอน ส่วนอีกตัวคือ นายประตูแบ็คอัพอย่าง อเล็กซ์ สมิทตี้ ที่มาเติมการขายประตูออกไปถึง 2 คน ในตลาดที่ผ่านมา
เลสเตอร์มีกำไรจากตลาดรอบหน้าร้อนถึง 64.4 ล้านยูโร (หลักใหญ่ใจความมาจากการขายโฟฟาน่าให้เชลซีได้ถึง 80.4 ล้านยูโร) แต่การไม่ใช่กำไรตรงนั้นแบ่งมาเสริมทัพอีกซักหน่อย ทำให้เห็นภาพว่า เลสเตอร์เองก็มีสถานะการเงินที่ไม่ดีนัก ทำให้นโยบายการซื้อผู้เล่นไม่มีให้เห็นอย่างชัดเจน
มันก็ส่งมาถึงผลงานของทีมที่แทบจะใช้ชุดเดิมจากฤดูกาลก่อน แต่ขาดตัวที่ขายไปถึง 2 ตัว ทางบอลที่ถูกจับได้ง่าย กองหลังที่เสียประตูเกิน 2 ลูกเกือบทุกนัด (นัดที่เสียแค่ลูกเดียวในลีก คือการแพ้แมน ยูไนเต็ด 0-1) บอกเลยว่าแดนนี่ วอร์ด ยังมือไม่นิ่งพอในการขึ้นมาแทนชไมเคิ่ล
ในแดนรุก เกมวันนี้เพิ่งจะเป็นการปลดล็อกของบรรดากองหน้าในฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ แม้เคเลซี่ อิเฮียนาโช่ จะยิงได้ตั้งแต่ 52 วินาทีแรก (เพิ่มสถิติมีส่วนในการทำประตูให้เลสเตอร์ 15 ประตู 5 แอสซิสต์ จาก 25 เกมหลังสุด) และแพตสัน ดาก้า มาปลดล็อกได้เช่นกัน แต่ครึ่งหลัง เกมโรมรันจองไบรท์ตันก็ทำเอาเลสเตอร์ต้องรับมากกว่ารุก ทำให้เกมบุกต่อไม่ติด (วันนี้ไบรท์ตันเล่นโคตรดี โคตรมีอนาคต ราศี แกรม พอร์เตอร์ โดดเด่นเป็นสง่าขึ้นมาอีกสิบเท่า)
ประกอบกับเกมรับที่ไม่เข้าที่เข้าทางด้วยแล้ว จากจังหวะที่ไบรท์ตันยิง 16 เข้ากรอบ 11 กลายเป็น 5 ประตูไปทันที
หลายฝ่ายมองว่าต้นฤดูกาลนี้ เลสเตอร์ เจอศึกหนักติดๆ กัน ทำให้ยังตั้งหลักไม่ค่อยได้ จริงอยู่ นี่ไม่ใช่ยุคสมัยที่เราจะเห็นเลสเตอร์ลุ้นคว้าแชมป์ลีกแบบเมื่อฤดูกาล 2015/16 อีกแล้ว รวมทั้งยังค่อยๆ ลดระดับลงมาเป็ฯทีมระดับกลางที่ได้ลุ้นทำอันดับไปลุยบอลยุโรป และสร้างความประทับใจในเกมระดับทวีปได้บ้าง อย่างที่เมื่อฤดูกาลก่อนเกือบเข้าชิงชนะเลิศยูฟ่า คอนเฟอร์เรนซ์ ลีกมาแล้ว
แต่ในฤดูกาลนี้ มันต่างออกไป การเริ่มต้นที่ยากลำบากนี้ นำมาสู่เครื่องหมายคำถามของการทำทีมในระยะต่อไปของฤดูกาล แบรนดอน ร็อดเจอร์ส เริ่มรู้สึกว่ามีความร้อนผุดขึ้นที่ช่วงลางของเขาขึ้นทุกที เมื่อพิจารณาจาก 5 นัดถัดไปในลีก มันเป็นทั้งโอกาสและหายนะ อาจต้องเริ่มจากการพลิกสถานการณ์ในเกมต่อไปที่จะเจอกับแอสตัน วิลล่าก่อน ตามด้วยการยันทัพไก่เดือยทองของอันโตนิโอ คอนเต้ให้ดี
เกมกับสเปอร์สไม่เท่าไหร่ แต่เชื่อว่า 3 นัดทองคำจากนั้น คือการชี้ทิศทางของเลสเตอร์ในฤดูกาลนี้เลยว่า ภารกิจหลักของทีมจะอยู่ที่ตรงไหนของตาราง นั่นคือการเจอกับฟอเรสต์ ที่ป้อแป้ไม่เป็นระบบ เจอบอร์นมัธที่ยังเมาหมัด และคริสตัล พาเลซ ที่ระบบทีมดี ทว่าเสียทรงได้ง่ายเหมือนกัน
จากนี้เป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจว่าเลสเตอร์จะทำผลงานได้ดีแค่ไหน ในช่วง 5 นัดวัดใจรอดเจอร์ส และลูกทีมนับจากนี้
โดยหวังว่า ร้อดเจอร์ส จะไม่โดนปลดในคืนนี้ไปเสียก่อน!
ปล. ล่าสุดบ่อนถูกกฎหมายในอังกฤษประกาศปิดแทงร็อดเจอร์ส จากโผผู้จัดการทีมที่จะโดนปลดแล้ว อุ่ย!
ปล. 2 ร้อดเจอร์สให้สัมภาษณ์หลังเกม ยอมรับว่าสถานการณ์ของทีมตอนนี้ไม่ดีจริงๆ ผู้เล่นเหมือนขาดความร่วมแรงร่วมใจไปในช่วงเวลานี้ ทำให้ผลงานออกมาแย่
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
