5 ก.ย. 2022 เวลา 05:35 • สุขภาพ
อาการปวดศีรษะและโรคไมเกรน
ส่วนมากสาเหตุของอาการปวดศีรษะจะมาจากความเหนื่อยล้าของกล้ามเนื้อจากความเครียด
คิดมาก การใช้สายตาในที่ที่มีแสงน้อย หรือการไม่ทานอาหารตามเวลา ซึ่งอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดและโพแทสเซียมต่ำได้
สำหรับสตรี อาการปวดศีรษะอาจเป็นผลมาจากอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS) หรือเกิดจากอาการซึมเศร้า ซึ่งการออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ในที่กว้างๆ หรือการออกกำลังกายเป็นเวลานานๆ จะสามารถช่วยลดอาการปวดศีรษะได้ระดับหนึ่ง
ทั้งนี้ ผู้มีอาการปวดศีรษะจำเป็นต้องเพิ่มปริมาณโพแทสเซียมในร่างกายด้วยการทานผลไม้จำพวกกล้วย ส้ม สับปะรด องุ่น หรือพืชผักอื่นๆ เช่น ถั่วเปลือกเขียว ข้าวโพด กะหล่ำปลี ผักกาดหอม แครอท หน่อไม้ฝรั่ง เป็นต้น
ซึ่งแม้ร่างกายจะไม่ได้ขาดโพแทสเซียม แต่การเพิ่มโพแทสเซียมด้วยการทานอาหารจากธรรมชาติเหล่านี้ จะช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงอาหารสำเร็จรูปที่มักจะใส่สารกันบูด สารปรุงแต่งรสอาหาร เช่น ผงชูรส ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าไม่ดีต่อร่างกาย รวมทั้งก่อให้เกิดอาการปวดศีรษะได้
นอกเหนือจากการปรึกษาแพทย์แล้ว ผู้มีอาการปวดศีรษะควรพยายามหลีกเลี่ยงความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ อาจนวดเพื่อผ่อนคลาย หรือบริหารส่วนศีรษะและต้นคอในตอนเช้า ใช้น้ำราดรดผ่านเส้นผม หรือใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำพันไว้เพื่อลดอุณหภูมิบนศีรษะ
นอกจากนี้ การเข้าร่วมกิจกรรมกลางแจ้งจะช่วยให้ผู้มีอาการปวดศีรษะได้รับอากาศบริสุทธิ์ และช่วยให้ร่างกายสดชื่น และการออกกำลังกายก็ช่วยบรรเทาความเครียดและลดอาการปวดศีรษะได้ด้วย
การบริหารส่วนศีรษะและต้นคอเพื่อบรรเทาอาการปวดศีรษะและโรคไมเกรน
  • 1.
    ยืนหลังตรงหรือนั่งบนเก้าอี้ ให้หลังแนบสนิทกับพนักพิง
  • 2.
    ก้มศีรษะลงให้คางชิดหน้าอก
  • 3.
    หมุนศีรษะทวนเข็มนาฬิกาช้าๆ หมุนไปทางขวาสุด จนกระทั่งมองเห็นเพดานข้ามไหล่ขวา หมุนกลับไปทางซ้ายสุด จนกระทั่งมองเห็นเพดานข้ามไหล่ซ้าย แล้วหมุนกลับมาที่ตำแหน่งเดิม คางพักอยู่ที่อก
  • 4.
    ทำเหมือนข้อ 3. แต่หมุนตามเข็มนาฬิกา หมุนไปซ้ายสุดจนเห็นเพดานข้ามไหล่ซ้าย หมุนกลับไปขวาสุดจนเห็นเพดานข้ามไหล่ขวา แล้วกลับมาตำแหน่งเดิม นับเป็น 1 เซ็ท
  • 5.
    ทำตามข้อ 3. และ 4. ทั้งหมด 5 เซ็ท
ถ้าคุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดกดถูกใจ กดดาว หรือแสดงความคิดเห็นเพื่อเป็นกำลังใจให้กับเรา
ขอบคุณค่ะ
โฆษณา