5 ก.ย. 2022 เวลา 17:22 • กีฬา
“สับแหลก แหกหลังเกม ผี เปิดซิง ไอ้ปืนใหญ่ ล่อลวงมาแตกใน (บ้าน) 3-1 "
(AFTER MATCH MUN 3-1 ARS)
“การชนะ 5 นัดรวดติดต่อกันตั้งแต่เปิดฤดูกาล” เป็นใคร ก็ต้องดีใจ ไม่เว้นแม้แต่สาวก ไอ้ปืนโต อาร์เซน่อล ที่ดูจะ “กระดี๊กระด๊า” กับชัยชนะต่อเนื่องครั้งนี้เป็นพิเศษ
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมั่นใจเกินเบอร์ กับตำแหน่งจ่าฝูงที่พวกเขาอยู่ ราวกับเป็น “ไอ้เด็กเมื่อวานซืน” ที่เพิ่งจะได้เคยออกเดทกับผู้หญิงเป็นครั้งแรก อย่างไงอย่างงั้น
และยังไม่วาย “ไอ้เด็กปืน” พวกนี้ยังจะดูเหิมเกริม มั่นอกมั่นใจและท้าทายกับอริตลอดกาลอย่าง ปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ด ก่อนการโคจรมาฟาดแข้งกัน ณ โอล์ด แทร็ฟฟอร์ด ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานับไม่ถ้วน
สุดท้าย และท้ายที่สุด เป็นผู้ใหญ่อย่างปีศาจแดง ที่เป็นฝ่าย “ล่อลวง” ไอ้เด็กปืน มา “เปิดซิง” ถึงในบ้าน 3 ประตูต่อ 1 อย่างขืนใจ
และนี่ คือ 4 กลยุทธ์ที่เหล่าพลพรรค เร้ด เดวิลล์ ล่อลวง ไอ้ปืนโต มา “ยัดเยียดความปราชัย” ครั้งแรกในฤดูกาล
“ ผี เปิดซิง ไอ้ปืนใหญ่ ล่อลวงมาแตกใน (บ้าน) 3-1 "
กลยุทธ์ล่อลวงที่ 1 | “บอลทะลุช่อง” พิฆาตปืน |
บอลทะลุช่องจากแดนหลังมาแดนกลาง และแดนกลางไปแดนหน้าของแมนฯยูไนเต็ด ในยุคของเอริก เทนฮาก เริ่มจะเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่เพียงแต่เป็นบอลจ่ายให้พ้นๆตัวไป แต่เป็นบอลทะลุช่องที่ “มีคุณภาพ” และสามารถเปลี่ยนเกมได้เลย
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดในฤดูกาลนี้ ที่ความพยายามจ่ายบอลทะลุช่องของปีศาจแดง เปลี่ยนเกมมาแล้วนักต่อนัก
ครั้งแรกมาจาก เกมแดงเดือดกับลิเวอร์พูล จังหวะที่ ลิซานโดร มาร์ติเนซ เก็บบอลจังหวะ 2 จากการบุกของแมนยูฯ ได้แต่โดนเพรสซิ่งเร็ว จาก โมซาล่าห์ แต่แทนที่ มาร์ติเนซ จะคืนบอลกลับหลังเพื่อความชัวร์
กลับจ่ายบอลจังหวะเดียวทะลุแนวผ่านผู้เล่นหงส์แดง 2 คน ไปที่อีแลงก้า เป็นการเปลี่ยนจังหวะจากที่กำลังจะต้องตั้งเกมใหม่ กลับกลายเป็นได้บุกขึ้นมาอีกครั้ง จนนำไปสู่ประตูขึ้นนำ 1-0 ของซานโช่ โดยมีจุดเริ่มต้นจากจังหวะนี้
ครั้งที่สอง มาจาก ดิโอโก ดาโลต์ ในเกมกับเลสเตอร์ เป็นจังหวะที่ ดาโลต์ เอาบอลลงพื้นจากการเปิดบอลยาวของผู้รักษาประตูเลสเตอร์ และโดนเข้าเพรสซิ่ง 2 คน อย่างรวดเร็ว แต่แทนที่ ดาโลต์ จะคืนบอลกลับหลังเพื่อความชัวร์
กลับจ่ายบอลทะลุช่องขึ้นหน้าจากแดนตัวเองไปถึงพื้นที่ริมเส้นของฝ่ายตรงข้าม ผ่านผู้เล่นเลสเตอร์ไปถึง 3 คน เป็นการเปลี่ยนจากเกมรับเป็นการโต้กลับอย่างรวดเร็ว นำมาสู่ประตูชัยที่เฉือนชนะเลสเตอร์ได้
ครั้งล่าสุด เกิดขึ้นในเกมกับ ไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล นี้เลยอย่างสดๆร้อนๆ ทุกประตูที่ได้ในเกมนี้ล้วนแล้วแต่เป็นบอลทะลุจากกลางสนามทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะเป็นลูกแรกที่ อิริกเซ่น แทงทะลุจากแดนตัวเองให้บรูโน่ ทะลุแนวกองกลางอาร์เซน่อลถึง 3 คน เป็นจุดเริ่มต้นของประตูแรก ลูกที่สองและสามเป็นการแทงทะลุช่องแบบ Killer pass ชนิดที่บอลทะลุแนวกองหลังไอ้ปืนใหญ่ ทั้งแผง
การจ่ายบอลทะลุช่องเป็น 1 ในทีเด็ดของ เอริก เทนฮาก ในติดตั้งให้กับลูกทีมในการฝึกซ้อม ตามคำสัมภาษณ์กับสื่อ ว่าจะมีการให้ผู้เล่นจ่ายบอลแบบ Progressive มากขึ้น
และทีเด็ดที่ว่ามานี้ คือส่วนสำคัญ ที่ทำให้ยูไนเต็ด “พิฆาต” ไอ้ปืนโต ในเกมนัดนี้ได้
การใช้บอลทะลุทะลวงของบรูโน่ เป็นอีกหนึ่งทีเด็ดที่ พิฆาต ไอ้ปืนใหญ่ได้
กลยุทธ์ล่อลวงที่ 2 | “โดนแล้วไม่ลน” ยังเป็นผู้เป็นคนอยู่ |
โดนแล้วลน แฟนผีคงเห็นเป็นอาจิน ไม่ว่าจะฤดูกาลที่แล้ว หรือฤดูกาลก่อนหน้า ที่เมื่อโดนขึ้นนำไปก่อน หรือโดนตีเสมอ สมาธิของนักเตะยูไนเต็ดแทบจะหนีกระเจิดกระเจิง แทบจะไม่มีหวังเลยที่จะกลับมาสู่เกมได้
แต่หลังจากที่นายใหญ่ชาวดัตช์ ได้มีการเสริมผู้เล่นที่มี “จิตใจที่มั่นคง” อย่าง ลิซานโดร มาร์ติเนซ และไทเรล มาลาเซีย มาสู่ทีม นั่นทำให้ยกระดับความนิ่งของจิตใจทั้งแผงกองหลังได้จากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว
พลังจิตพลังใจที่มั่นคงนี้ ได้ถูกซึมซับและส่งต่อไปสู่ผู้เล่นในแดนหลังและผู้เล่นคนอื่นๆ ทำให้เมื่อโดนอาร์เซน่อลยิงตีเสมอในนัดนี้ ผู้เล่นทั้ง 11 คน ต่างก็ดูไม่ลน ยังช่วยกระตุ้นกัน ให้อยู่ภายในเกมต่อไป
พลังเหล่านั้นมันมากเพียงพอ ที่จะทำให้แฟนๆอย่างเรานั้น สัมผัสได้ ว่าเราจะไม่เสียโมเมนตัม และกลับคืนสู่เกมได้ ถือเป็นพลังแฝงที่ใช่ว่าจะฝึกกันในสนามซ้อมได้ง่ายๆ ต้องอาศัยความเชื่อใจกันของผู้เล่นทุกคนในสนาม
เมื่อมีจิตใจที่นิ่ง โดนแล้วไม่ลน นั้นจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญ กลยุทธ์ที่ 2 ที่ทำให้ ปีศาจแดง สามารถ “ล่อลวง” ไอ้ปืนโต ในนัดนี้ได้
กลยุทธ์ล่อลวงที่ 3 | ดร.แรชฟอร์ด “ปรอทแตก” |
เพิ่งจะบ่นไปหมาดๆในคอลัมน์ที่แล้ว ว่ากองหน้ายูไนเต็ด ยังขาดเรื่องการทำประตู แต่ไม่ต้องรอให้มากความ ในนัดนี้ ดร.แรช จัดให้แบบเน้นๆ 2 ดอก แถมอีก 1 แอสซิสต์ นับว่าเป็นการกลับมาหลังจากออกทะเลไปนาน อย่างแท้จริง
1 ประตูที่ทำได้ในเกมกับลิเวอร์พูล และ 1 แอสซิสต์ ที่ทำได้กับเกมเลสเตอร์ ของแรชฟอร์ด ดูทรงแล้ว ก็ยังไม่สามารถการันตีความมั่นคงในการยืนเป็นกองหน้าในระยะยาวได้
แต่เมื่อเกมในนัด “เปิดซิง” ไอ้ปืนโตนี้จบลง การมีส่วนร่วมกับทุกประตู และได้ Man of the Match ของทีม เราสามารถมั่นใจขึ้นมาได้อีก 1 ระดับ ว่า ดร.แรช จะฝากผีฝากไข้ในแนวรุกของยูไนเต็ดได้
เพียงแต่เอริก เทนฮาก อาจจะต้องใช้ผู้เล่นลูกม่อของทีมรายนี้ ให้ถูกวิธี ซึ่งเจ้าของหมายเลข 10 คนปัจจุบัน มีจุดเด่นอยู่ที่ความเร็ว การวิ่งสอดทะลุแนวกองหลัง และการจบสกอร์ที่เฉียบคม
ดังนั้น แรชฟอร์ด อาจจะเหมาะกับทีมที่มีพื้นที่หลังกองหลังให้เล่นและใช้ความเร็วจากการแทงทะลุช่อง มากกว่าทีมที่ยืนต่ำ เพราะเมื่อครั้น ดร.แรช จะนำลูกบอลฝ่ากองหลังไปเอง โอกาสแทบจะเป็นศูนย์
แต่อย่างไรก็ตาม การที่ ดร.มาร์คัสของเรานั้นโชว์ฟอร์มได้ “ปรอทแตก” ในนัดนี้ น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่จะทำให้เจ้าตัว เรียกความมั่นใจและฟอร์มเทพของเขาเมื่อก่อน ได้อย่างมากเลยทีเดียว
ดร.แรช เค้ากำลังจะกลับมาแล้ว
ดร.แรช เค้ากำลังจะกลับมาแล้ว
กลยุทธ์ล่อลวงที่ 4 | กลิ่นคาวความบริสุทธิ์จากความพ่ายแพ้ของไอ้ปืนใหญ่นี่แหละ คือ “โมเมนตัมชิ้นใหญ่” |
แม้ว่าจะชนะมา 3 นัดติดต่อกัน แต่ชัยชนะเหล่านั้นของยูไนเต็ด ล้วนแล้วแต่เป็นชัยชนะที่ยากลำบาก เต็มไปด้วยความตะกุกตะกัก กว่าที่จะคว้า 3 แต้มมาจากคู่แข่งได้ ก็เรียกได้ว่า “หืดขึ้นคอ”
เมื่อต้องโคจรมาเจอกับ “ปืนใหญ่ ผู้ไร้พ่าย” อย่างอาร์เซน่อล นี่ถือเป็นโอกาสที่ดี ที่จะเป็นบททดสอบของทีมและของ เทนฮาก ว่าไอ้ที่ผ่านมานั้น มันเรียกว่าของจริงหรือไม่
อีกหนึ่งที่เป็นแรงจูงใจในเกมนี้คือ “กลิ่นคาวความบริสุทธิ์” จากความพ่ายแพ้ของไอ้ปืนใหญ่ ที่ยังไม่ปรากฏเห็นขึ้นในฤดูกาลนี้ ผสมผสานกับความเป็นอริกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อนในยุคป๋า และเจ๊ เวนเกอร์ ที่ฟาดฟันกันมานานนับทศวรรษ
และอย่าลืมว่าทีมที่หยุดสถิติไรพ่ายของอาร์เซน่อลไว้ที่ 49 นัด นั่นไม่ใช่ทีมใครที่ไหน มันคือแมนฯยูไนเต็ดนั้นเอง ถึงกระนั้น อย่างหาว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลย 49 นัดยัง “ทำลาย” มาแล้ว นับประสาอะไรกับอีแค่ 5 นัด
ดังนั้น ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามา การยัดเยียดความไม่บริสุทธิ์ให้กับของอาร์เซน่อลในนัดนี้แหละ
ถือเป็น “โมเมนตัมชิ้นใหญ่” ที่ถ้า ยูไนเต็ดได้ไป ก็มีโอกาส เพิ่มความมั่นใจ และเป็นพลังงานใหญ่ที่สำคัญ ที่จะทำให้ทีม “ติดลมบน” ต่อเนื่องไปได้เลยที่เดียว
สีหน้าการเสียบริสุทธิ์ของเหล่าผู้เล่น ไอ้ปืนโต
อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าฤดูกาลนี้เพิ่งจะเริ่มไปแค่ 6 นัดในลีก แม้ว่ายูไนเต็ดจะทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่อย่าลืมว่า บททดสอบใหม่ๆ ก็มักจะมีมาให้ เอริก เทนฮาก ได้ลองฝีมืออยู่เสมอ
ยกตัวอย่างบททดสอบที่กำลังจะมาถึงนี้ นั่นคือ ฟุตบอลยุโรป ที่จะเริ่มเตะกันกลางสัปดาห์นี้แล้ว โปรแกรมที่หนักขึ้น ถี่ขึ้น รวมไปถึงปัญหาอาการบาดเจ็บของผู้เล่น ที่มีโอกาสจะเกิดขึ้นด้วย
สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นการ “วัดกึ๋น” ของกุนซือชาวฮอลแลนด์ ว่าจะสามารถผ่านช่วงเวลาเหล่านี้ไปได้หรือไม่
แต่เหนือสิ่งอื่นใด ณ ตอนนี้ เทนฮาก ก็ได้ผ่านบททดสอบแรกในการเป็นนายใหญ่ปีศาจแดงจากแฟนบอลแล้ว ด้วยการได้ล่อลวง ไอ้ปืนใหญ่มา “เปิดซิง” ถึงในบ้าน 3-1 บอกได้คำเดียว
มันช่าง “สาแก่ใจ” เหลือเกิน เหมือนได้ “สำเร็จความใคร่” อย่างไงอย่างงั้น
เรียบเรียง : Mr.เอเวอร์ดีน
#MANUTD #MUNARS
โฆษณา