มาพักใจ กระท่อมกลางทุ่งนาที่สวยที่สุดในโลก (ของเรา)
กระท่อมกลางนา กัลยาณิวัฒนา เชียงใหม่
คุณตกหลุมรักการเดินทางหน้าฝนไหม?
วิวทุ่งนาจากมุมสูง ทุ่งนากำลังเขียวสุดๆ
ถ้าใช่ เราคือ เพื่อนกัน แต่ถ้าไม่ใช่ คุณคือ กัลยาณมิตร ที่เราอยากจะชวนคุณลองไปเที่ยวหน้าฝนดูสักครั้งในชีวิต เพราะมันดีกว่าที่คิดจริงๆนะ
เราเคยเป็นคนนึงที่เกลียดหน้าฝนมาก ด้วยความที่เราเป็นเด็กใต้ ชีวิตในวัยเด็ก เราเจออากาศแค่ 2 ฤดู คือ หน้าร้อน และ หน้าฝน และหน้าฝนเป็นฤดูที่ทำหัวใจฉันหวั่นไหวตลอดเวลา เพราะหน้าฝนในภาคใต้ = น้ำท่วมแน่ๆ บางครั้งฝนตกหนัก ถึงขั้นที่เด็กๆ ต้องหยุดเรียนกัน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเดินทาง และรอจนกว่าสถานการณ์ฝนจะดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม มันคงเป็นความทรงจำในวัยเด็กที่ผ่านมานานแล้ว . . .
จนพอโตขึ้นมาหน่อย เราค่อยๆลองเปิดใจกับการเดินทางในหน้าฝนอีกครั้ง และการเดินทางในหน้าฝนตอนที่เราโตแล้ว ได้เปลี่ยนความคิดเราไปมาก เราไม่เคยเห็นสีเขียวของทุ่งนา กลิ่นท้องดิน น้ำค้างชื้นๆ และหมอกจางๆบนภูเขาของทางภาคเหนือที่สวยงามมากๆขนาดนี้มาก่อนเลย และที่นี่ บ้านกระท่อมกลางนา เชียงใหม่ ทำให้หัวใจเราชุ่มฉ่ำในหน้าฝนอีกครั้ง
การเดินทางมาพักที่นี่ มีอยู่ 2 ทางคือ
1. รถยนต์/รถมอเตอร์ไซต์ส่วนตัว ถ้ารถธรรมดา ที่ไม่ใช่รถลุยๆ แนะนำให้ขับมายังอบต.แม่แดดก่อน จากนั้นให้โทรเรียกพี่ป๋อง เจ้าของบ้านออกมารับ จะดีกว่าเพราะทางข้างในค่อนข้างแฉะ และชันพอสมควรเลย นั่งรถต่อเข้าไปอีกประมาณ 20 กิโล แต่ถ้าคนที่ชำนาญทาง ก็สามารถขับเข้ามาที่พักได้เลย
2. รถสองแถวสีเหลือง ที่มาอำเภอกัลยาณิวัฒนา ให้มาลงที่เดียวกัน ที่อบต.แม่แดด และให้พี่ป๋องมารับเช่นกัน นั่งจากตัวเมืองมาประมาณ 4 ชั่วโมง
ทางเข้าไปยังที่พัก ถ่ายมาไม่ชัดเลย เพราะทางแฉะมาก นั่งหัวส่ายตลอดทาง
หลังจากที่นั่งเซเกือบตลอดทางมาจนถึงที่พักนั้น ท้องของเราและเพื่อนๆก็เริ่มส่งเสียงร้องคลาง เพื่อหาอาหารอร่อยๆลงท้องกันหน่อย และทางที่บ้านพี่ป๋องก็ไม่รอช้าที่จะเสิร์ฟพร้อมจัดเตรียมอาหารรสเลิศไว้ต้อนรับพวกเราอย่างอบอุ่นสุดๆ เหมือนคนรู้ใจกัน ลองมาดูหน้าตาอาหารมื้อแรกของเรากัน!
แกงจืดผักดอย ไข่เจียว ผัดผัก และน้ำพริกมะเขือดอย ลืมถ่ายมาเพราะหิวมาก 555
เป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ที่ยังคงมีคำถามในหัวตลอดเวลาว่าทำไมคนบนดอย เค้าทำกับข้าวอร่อยมากนะ อร่อยแบบอร่อยจริงๆ ผักที่อยู่ในกับข้าว ทำให้รู้สึกได้ว่า ผักสด ปลอดสารแน่ๆ กินแล้วรู้สึกเหมือนร่างกายได้รับการบำรุงอ่ะ ส่วนข้าวบนดอย เค้าใช้ข้าวเกรดดีและปลูกเองด้วย เมล็ดข้าวเค้าใช้พันธุ์ที่มาจากญี่ปุ่น ทำให้ลักษณะของมันค่อนข้างอวบๆสั้นๆ แต่นุ่มและรู้สึกดีมากแบบไม่บอกไม่ถูก ที่สำคัญข้าวที่นี่ เค้าไม่ได้ปลูกเพื่อขายนะ เค้าปลูกสำหรับกินเองทั้งปี
พอหนังท้องเริ่มตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน อยากพักผ่อนหย่อนใจกันหน่อย ด้วยวิวรอบๆบ้าน ที่เราไปสำรวจมา พบจุดน่ารักของบ้านหลายๆจุดมาก จนบอกไม่ได้ว่าชอบมุมไหนที่สุด อ่ะ เธอลองดูกันเองเลย จะโชว์ให้เห็นตั้งแต่ทางเข้าเลย
แค่ทางเข้าก็น่ารักแล้ว :)
เราชอบที่ที่นี่มีทุกอย่างให้พออยู่ได้โดยไม่ต้องออกไปไหนแล้ว ด้านหน้าก็ทุ่งนาเขียวๆ ด้านหลังก็ลำธารเล็กๆที่เล่นน้ำได้ ในบ้านก็มีมุมนั่งเล่นชิลๆ มีกีต้าร์ มีกาแฟดริป (ปลูกเองอีกแล้ว) คนที่นี่เค้าแทบจะไม่ต้องซื้ออะไรจากข้างนอกเลย ถ้ามาแล้ว ลองเปิดเพลงโปรดเพราะๆ เคล้าคลอกับสายฝน นอนเล่นมองดูวิว อื้อ...เพลิดเพลินใจดียิ่งนัก นี่แหละเสน่ห์ของหน้าฝน มันทำให้คนเราหัวใจที่แห้งผากกลับมาชุ่มฉ่ำได้อีกครั้ง
ก่อนพระอาทิตย์จะตกดินประมาณ 2 ชั่วโมง หรือ 4 โมงเย็นนั่นเอง (จะอธิบายให้ยากทำไมนะ 555) พี่ป๋องบอกว่าจะพาไปดูวิวข้างบน มาช่วงนี้ทุ่งนากำลังขึ้นต้นกล้าสีเขียวชอุ่มเลย พี่แกเลยพาแว๊นด้วยกระบะคันเก่งกันไปอีกครั้ง วิวที่ว่านี้อยู่ตรงใกล้ๆทางเลี้ยวเข้ามาที่บ้านพัก แต่อยู่บนๆไปอีก
เจอวิวนี้วิวเดียว เกินคุ้มแล้ว สำหรับเรา
กลับมาที่พักกันต่อ...ต่อไปเป็นเวลาของมื้ออาหารมื้อค่ำสำหรับค่ำคืนแห่งสายฝนโปรยปราย อากาศเย็นๆ ต้องตบท้ายมื้อสุดท้ายของวันด้วยหมูกระทะ ที่พักเค้าจัดเตรียมอาหารไว้ให้เรา 3 มื้อ มื้อกลางวัน มื้อเย็น และมื้อเข้าก่อนกลับ รวมถึงกาแฟดริป ถือว่าครบรสทุกรสชาติจริงๆกับการมาพักที่นี่
หมูกระทะกลางทุ่งนา
ช่วงกลางคืนเค้ามีก่อกองไฟกลางบ้านไว้ให้นั่งคุยกันกับเพื่อนๆได้ นอนดูดาว เล่นกีต้าร์ก็ได้ ส่วนเรานั้น...นอน
ห้องนอนใหญ่ชั้น2 ฝั่งทุ่งนา นอนได้ 4 คน ห้องน้ำรวม จะอยู่ด้านล่างนะ
สำหรับค่ำคืนนี้ ราตรีสวัสดิ์ แล้วพบกันวันใหม่....
ตอนเช้าเวลา 7 โมง พี่ป๋องนัดพวกเราไปดูทะเลหมอกด้านบนหมู่บ้าน ที่ต้องขับออกไปอีกประมาณ 10 กิโล เตรียมตัวล้างหน้า แปรงฟัน เบิกเนตรรับแสงเช้ากันพร้อม! อยากบอกว่าระหว่างทางก็โหดอยู่นะ เพราะฝนตกเกือบทั้งคืน เลยทำให้พื้นถนนลื่นสุด และมีหลายจังหวะที่หัวใจจะวาย แต่ชอบ ตื่นเต้นดีนะ 555
มองด้วยตา สวยกว่าถ่ายรูปนะ
หมดทริปจากจุดชมวิวตอนเช้าแล้ว กลับมายังที่พัก และตามด้วยจิบกาแฟร้อนๆและข้าวต้มหมูสับร้อนๆซักถ้วย เตรียมตัวเคลียร์กระเป๋าและอาบน้ำ ก่อนเดินทางกันไปต่อจุดหมายอื่น
มื้อเช้าของวันสุดท้าย
เช็กเอ้าท์จากที่นี่ เพื่อไปต่อจุดหมายใหม่ พี่ป๋องเจ้าของบ้าน ขับรถกระบะคันเก่งไปส่งพวกเราที่อบต.แม่แดดเช่นเดิม อำลากันจุดสุดท้าย และหวังว่าเราคงได้พบกันใหม่ค่ะ
ค่าใช้จ่ายสำหรับการมาพักที่นี่
- ★ค่าที่พัก พร้อมค่ารถรับส่งทางข้างเข้า คนละ 1,200 บาท
- ★ราคานี้รวม อาหาร 3 มื้อ ค่าที่พัก ค่ากาแฟดริป ค่าทริปชมวิว
- ★ช่องทางการติดต่อ : https://web.facebook.com/KratomKlangNa
- ★เว็บไซต์ : https://kratomklangna.com/
- ★เบอร์โทร : 080 020 1596 สัญญาณอาจจะขาดๆหายๆ แนะนำให้ติดต่อทาง 2 ช่องทางเลย
- ★
การเตรียมตัวสำหรับคนที่ต้องการมาพักที่นี่
- ●หากคุณแพ้แมลงและยุง แนะนำให้พกสเปรย์ฉีดกันยุงกันแมลงมา
- ●ถ้ามาหน้าร้อน สระน้ำข้างบ้านสามารถเล่นน้ำได้ แต่ถ้าอยากเปียก สามารถเล่นน้ำลำธารหลังบ้านได้เช่นกัน เตรียมชุดเปียกมาเผื่อๆได้
- ●หากคุณไม่ชอบห้องน้ำรวม ไม่ต้องห่วง ที่นี่ไม่มีห้องน้ำส่วนตัว 555 แต่ห้องน้ำสะอาดนะ
- ●ซื้อโค้กกระป๋องมาติดไว้หน่อย ฟินมาก ดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบนี้ ใครสายเบียร์ก็จิบเบียร์ไป
- ●ถ้าอยากมาเห็นทุ่งนาสีเขียว แนะนำให้มาช่วงกันยา-ตุลา สวยสุด แต่มาฤดูอื่นน่าจะสวยไปอีกแบบ ที่นี่อากาศเย็นตลอดทั้งปี
- ●สัญญาณมือถือ มี AIS TRUE ส่วน DTAC ..
ลองมาดูนะ เผื่อเธอจะได้ตกหลุมรักหน้าฝนเหมือนเรา และ เราคือ " เพื่อนกัน "
กัลยาณิวัฒนา เชียงใหม่
📷 พิกัดขาตั้งกล้อง : https://s.lazada.co.th/s.8PRX4?cc
- 3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
