8 ก.ย. 2022 เวลา 03:42 • ข่าว
ตามหา 4 ผลงานศิลปะของศิลปินชั้นครูที่ซ่อนไว้ในศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
เตรียมกลับมาเปิดให้บริการแล้วสำหรับ “ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์” Queen Sirikit National Convention Center โฉมใหม่ ใหญ่กว่าเดิม 5 เท่า พร้อมรับการจัดงานประชุมระดับนานาชาติภายใต้แนวคิดการออกแบบที่สะท้อนความเป็นไทยผ่านการดึงลวดลายผ้าทอราชสำนักและผ้าพื้นเมืองมาผสมผสานกับงานช่างศิลป์ไทยในสาขาต่างๆ ทั้งยังปรับมุมมองนำเอกลักษณ์ความเป็นไทยสู่ความเป็นสากลที่มากขึ้น ผสมผสานไปกับแนวคิดการออกแบบอาคารให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด
และแม้ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โฉมใหม่ที่จะเปิดให้บริการในวันที่ 12 กันยายน 2565 จะเป็นการพลิกโฉมงานดีไซน์ทั้งโครงสร้างและตกแต่งภายในแตกต่างจากเดิมไปมาก ทว่าสิ่งหนึ่งที่ทางศูนย์การประชุมฯ ยังเก็บรักษาไว้คือ “งานศิลปะชิ้นเยี่ยมจากศิลปินชั้นครู” ไอโคนิคที่อยู่คู่ศูนย์การประชุมฯ มาตั้งแต่ พ.ศ.2534 มีด้วยกันทั้งหมด 4 ชิ้น ส่วนจะมีชิ้นไหนบ้าง Sarakadee Lite ชวนไปปักหมุดกัน
ชื่องาน : โลกุตระ
ศิลปิน : ชลูด นิ่มเสมอ
“โลกุตระ” ที่ตั้งตะหง่านอยู่บริเวณหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์และกลายเป็นสัญลักษณ์ของหอประชุมแห่งชาติมาตั้งแต่ พ.ศ.2534 เป็นหนึ่งในผลงานมาสเตอร์พีชของ “อาจารย์ชลูด นิ่มเสมอ” ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม) ประจำปี พ.ศ. 2541 อาจารย์ชลูด นิ่มเสมอ เป็นผู้บุกเบิกการสร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมแบบถาวรขนาดใหญ่ ติดตั้งกับที่สาธารณะที่เรียกว่า “ศิลปะกับสิ่งแวดล้อม” โดยมีผลงานชิ้นเอกที่ผู้คนจดจำคือ “โลกุตระ”
อาจารย์ชลูดเคยกล่าวว่า แนวคิดของงานออกแบบ “โลกุตระ” ซึ่งตั้งเป็นศิลปะสาธารณะ ตั้งกลมกลืนอยู่กับสิ่งแวดล้อมนั้นเริ่มจากการตีความเปลวรัศมีว่าเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงปัญญา หมายถึงปัญญาที่จะหลุดพ้นจากกิเลส ส่วนแท่นสีดำด้านล่างที่เป็นฐานทำจากหินแกรนิตเป็นตัวแทนกิเลสของฝ่ายโลกียะ และพุ่มเปลวที่มี 8 พู หมายถึง “มรรคมีองค์ 8” หนทางแห่งการหลุดพ้น และยังมีอีกหนึ่งสัญลักษณ์ซ้อนอยู่นั่นคือ ดอกบัวกำลังแย้มบานจำนวน 8 ก้านที่ผนึกรวมกัน โผล่ผุดขึ้นจากแท่นหิน อันเปรียบได้กับดอกบัวที่โผล่พ้นจากโคลนตม
ชื่องาน : เสาช้าง ลูกโลก
ศิลปิน : ธานี กลิ่นขจร
ประติมากรรมลอยตัวรูปช้างสี่เศียรที่รองรับลูกโลกสีทองตั้งอยู่บนฐานเสาสูงนี้เคยตั้งตระหง่านอยู่บริเวณโถงต้อนรับของศูนย์การประชุมฯ หลังเก่า ถือเป็นผลงานที่มีการผสมผสานระหว่างความเป็นไทยและสากลอย่างชัดเจน เป็นศิลปะไทยร่วมสมัยที่บ่งบอกถึงเป้าหมายของการสร้างศูนย์การประชุมแห่งชาติแห่งแรกในไทยขึ้นเพื่อให้ทัดเทียบกับต่างชาติ โดยงานประชุมแรกที่เกิดขึ้น ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ก็คืองานประชุมธนาคารโลกหรือ World Bank เมื่อ พ.ศ. 2534
ชื่องาน : ประตูกัลปพฤกษ์ มือจับพญานาค
ศิลปิน : ไพเวช วังบอน
ประตูลายต้นกัลปพฤกษ์สีทองอร่ามทั้ง 16 บานพร้อมมือจับรูปพญานาคสัมฤทธิ์ ถูกถอดมาจากประตูเพลนนารี ฮอลล์ ของศูนย์การประชุมฯ เดิม และเมื่อมีการสร้างศูนย์การประชุมฯ แห่งใหม่ ทางทีมสถาปนิกก็ตั้งใจออกแบบพื้นที่เพื่อให้สามารถนำประตูเดิมมาติดตั้งได้ เพียงแต่อาจจะไม่ได้จัดวางเรียงในแบบเดิมที่นำประตูมาเรียงต่อกัน โดยประตูกัลปพฤกษ์นี้ศิลปินคือ ไพเวช วังบอน ได้จำลองลวดลายมาจากบานประตูลายรดน้ำที่พระที่นั่งพุทไธสวรรค์
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรุงเทพฯ ส่วนในขั้นตอนการทำก็ยังคงอนุรักษ์วิธีการรดน้ำปิดทองแบบช่างโบราณ ด้านความหมายของต้นกัลปพฤกษ์นั้นถือเป็นต้นไม้มงคลที่นิยมใช้ในการเขียนลายไทย และเมื่อนำมาติดตั้งใหม่ก็ได้ผ่านขั้นตอนอนุรักษ์ให้สีทองเดิมอร่ามและสว่างยิ่งขึ้น
ชื่องาน : พระราชพิธีอินทราภิเษก
ศิลปิน : จรูญ มาถนอม
ผลงานจำหลักไม้ขนาดใหญ่ที่ติดไว้บนฝาผนังนี้อยู่คู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์มาตั้งแต่ พ.ศ.2534 ผลงานของ จรูญ มาถนอม ศิลปินผู้อยู่เบื้องหลังปราสาทไม้แกะสลักขนาดใหญ่ที่พัทยา “ปราสาทสัจธรรม” โดยชิ้นงาน พระราชพิธีอินทราภิเษก เป็นการจำหลักลงบนไม้จำนวน 56 แผ่น วัดความยาวได้ราว 23 เมตร สูงราว 6 เมตรครึ่ง ใช้เวลาทำงานจำหลักไม้ทั้งหมด 4 เดือน และอบไม้อีก 2 เดือน มีเรื่องราวเล่าถึงพระอินทร์ตอนที่ได้ทำพิธีสถาปนาขึ้นเป็นผู้ปกครองทวยเทพ หรือในอีกความหมายก็เพื่อเทิดพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9
โฆษณา