หนึ่งบวกหนึ่งอาจจะยังเท่ากับสอง
ครอบครัวถูกเจ้าหน้าที่สนามของ เชลซี ปฏิบัติตัวด้วยความไม่สุภาพ เพราะมองว่าเป็นแค่แฟนบอลธรรมดา
คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ประกาศกับบุตรชายว่าสักวันจะกลับมาเป็นเจ้าของสโมสรในพรีเมียร์ ลีก และ จะคว้าแชมป์ให้ได้
ใช้เงินราว 35 ล้านปอนด์ เข้าซื้อกิจการสโมสรเลสเตอร์ ซิตี ในขณะที่เล่นอยูในลีกแชมเปียนชิพ
ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ ลีก จากนโยบายให้แมวมองความหาผู้เล่นฝีเท้าดีราคาถูกเข้าร่วมทีม เอาตัวรอดในฤดูกาลแรกได้สบายๆ และ ปลดโค้ชจากอุบัติเหตุด้านวินัยของผู้เล่น ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นบุตรชายของผู้จัดการทีมขณะมาทัวร์ที่ประเทศไทย
เป็นแชมป์พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาล 2015-16 ชนิดช็อคโลกจากอัตรา 5,000/1 ที่น้อยคนจะสนใจ อันเป็นทั้งความภูมิใจของชาวเมืองเลสเตอร์ และ แฟนบอลเมืองไทย
ฤดูกาล 2016-17 ยังคงใช้มาตรการทำทีมแบบซื้อของดีเข้ามา แล้วขายออกในราคาแพง โดยเฉพาะกระดูกสันหลังของทีมอย่าง เอ็นโกโล กองเต และ เริ่มมีการซื้อผู้เล่นราคาแพงเข้ามาหมุนเวียนเช่นกัน เพื่อยกระดับทีมให้เข้าไปอยู่ในกลุ่มบิ๊กซิกซ์ของลีกให้ได้
แต่ผลงานโดยรวมแย่จนมีการปลด เคลาดิโอ รานิเอรี ฮีโร่ของสโมสรออกไป แม้จะพา เลสเตอร์ เข้าถึงรอบควอเตอร์ไฟนอลฟุตบอลยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ซึ่งเป็นทีมเดียวของอังกฤษที่ผ่านมาถึงรอบนี้ได้
ฤดูกาล 2017-18 ยังคงขายตัวหลักออกไปในราคาแพง และ ยังคงซื้อผู้เล่นเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งในราคาแพงเพื่อสร้างทีมใหม่ และ เพื่อรองรับขนาดของทีม แต่ผลงานโดยรวมยังคงล้มเหลวเช่นเดิม
ท่านประธานวิชัย ศรีวัฒนประภา แบ่งรายได้จากสโมสรเข้ามาข่วยเหลือชุมชน และ เดินหน้าโครงการเพื่อช่วยเหลือวงการฟุตบอลบ้านเกิดอย่างต่อเนื่อง
ฤดูกาล 2018-19 คือปีแห่งความสูญเสียของชาวเมืองที่แท้จริง แฟนบอล, ผู้เล่น, เจ้าหน้าที่สโมสร ต่างหลั่งน้ำตาให้กับอุบัติเหตุที่มาคร่าชีวิตของท่านประธานวิชัย เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2018 นี่คือปีแห่งความโศกเศร้าจนฟุตบอลกลายเป็นเรื่องรองของแฟนบอล
ฤดูกาล 2019-20 คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา เข้ามาสืบสานเจตนารมณ์ของบิดา และ เบรนดอน ร็อดเจอร์ส ยอดฝีมือที่เคยเกือบพา ลิเวอร์พูล เถลิงบัลลังก์แชมป์พรีเมียร์ ลีก เข้ามาเป็นความหวังของทีม
หลังจากเสีย กองเต, ดริงก์วอเตอร์ และ ริยาด มาห์เรซ สามผู้เล่นระดับโครงสร้างของทีมชุดแชมป์ออกไปหมด เลสเตอร์ จึงเหลือเพียงตัวหลักอย่าง แคสเปอร์ ชไมเคิล, เจมี วาร์ดี, เวส มอร์แกน, มาร์ค อัลไบรท์ตัน, ชินจิ โอกาซากิ คอยประคองทีม
เงินมหาศาลจากการเล่นแร่แปรผู้เล่นถูกนำไปใช้ในแบบที่กูรูหลายคนเป็นห่วง เพราะในช่วงหลังแมวมองของพวกเขาเริ่มมอนิเตอร์ไม่เข้าเป้า
ฤดูกาล 2020-21 ร็อดเจอร์ส กลับมาพาทีมมีลุ้นท็อปโฟร์ รวมทั้งขาย แฮร์รี แม็คไกวร์ ในราคาสถิติโลกของกองหลังถึง 80 ล้านปอนด์ จบฤดูกาลด้วยการพลาดอันดับสี่ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล เพราะเหตุหลักๆ ทางด้านการระบาดของโควิด 19
คุณอัยยวัฒน์ กับทีมบริหารฟุตบอลเริ่มหยุดการซื้อตัวผู้เล่นราคาแพง เพราะมั่นใจในทรัพยากรที่ลงทุนไปมากในรอบหลายปี และ หันมาทุ่มเงินให้ในการฐานรากของสโมสรอย่างศูนย์ฝึกอันทันสมัยต่อจากบิดา ในขณะที่โควิดเฟส1 กำลังอาละวาด
ฤดูกาล 2020-21 ขาย เบน ชิลเวลล์ เพื่อแลกกับสองดาวรุ่ง ผลงานในฤดูกาลนี้ดีมาก แม้จะหลุดโค้วพื้นที่ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ในนัดท้ายๆ อีกครั้ง แต่พวกเขามีถ้วยเอฟเอ คัพ มาประดับสโมสร
โควิดยังเดินหน้าเล่นงานธุรกิจทั้งโลก สปอนเซอร์ของกีฬาเริ่มมีปัญหาหลายค่าย ซึ่งรวมทั้งกิจการของสโมสรฟุตบอลที่ได้รัยผลกระทบอย่างหนักจากการเก็บค่าผ่านประตู และ รายได้จากการขายสินค้าแทบไม่มี
ฤดูกาล 2021-22 แทบไม่มีการเสริมทัพเพื่ออนาคต และ ไม่มีการขายที่ทำกำไรมหาศาลอย่างเคย เป็นขวบปีที่มีเพียงถาดแชมป์การกุศลครั้งแรกในรอบ 40 แีมาเชยชม
เงาทะมึนคืบคลานเข้ามาหา เลสเตอร์ จนแทบไม่มีคนนอกสโมสรเอะใจ
จนกระทั่งความเงียบสงบในตลาดนักเตะของพวกเขาปลุกให้สื่อได้รู้ว่าจิ้งจอกสยาม และ กลุ่มทุนคิงพาวเวอร์กำลังมีปัญหา
แคสเปอร์ ชไมเคิล เดินจากไปพร้อมกับข่าวที่ว่าเพื่อลดเพดานค่าแรงของสโมสร ต่อด้วยการขาย เวสลีย์ โฟฟานา กองหลังดาวรุ่งในราคาสุดแพง 70 ล้านปอนด์ในขณะที่ผลงานในสนามจมอยู่ท้ายตาราง
ล่าสุดถูกตีข่าวว่าถูกยูฟ่าจับตาว่ากำลังเดินเข้าหาการทำผิดกฎทางการเงิน หรือ FFP
ปัจจัยหลักๆ คือรายได้ลดลงจากวิกฤติโรคระบาด การลงทุนที่ศูนย์ฝึกเพื่ออนาคตก็มีส่วนในนั้น ซึ่งรวมทั้งการซื้อที่ผิดพลาดมากขึ้นๆ เมื่อเทียบกับอดีตผู้เล่นฝีเท้าเกรดเอแต่ราคาเกรดซีที่เคยแม่นเป้า
แน่นอนว่าตอนนี้อังกฤษก็มีปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ แม้โรคระบาดจะเบาบางลงแล้ว แต่มันยังทิ้งพิษภัยเอาไว้อีกหลายปี แถมด้วยเรื่องสงครามที่ยูเครนที่กำลังก่อตัวในลักษณะโดมิโนทางการเงิน
เบรนดอน ร็อดเจอร์ส ที่สนิทสนมกับประธานสโมสรยังเปิดหน้าชนนโยบายทำทีมที่ทำให้เขามีปัญหา (บางแหล่งข่าวบอกว่าผู้เล่นก็ไม่ชอบเขา จนสปิริตทีมพัง) แม้โดยหน้าที่แล้วเขานั่นแหล่ะคือคนที่ต้องแก้ไข แต่โดยขั้นตอนแล้วปัญหานี้มันใหญ่เกินหน้าที่ผู้จัดการทีมไปไกล จนทำให้หลายคนมองว่าเขารอให้ถูกไล่ออกโดยไม่กลัวอะไร
ถ้า จิ้งจอกสยาม เอาตัวรอดไม่ได้ พวกเขาจะกลับคืนจากจุดสูงสุดสู่สามัญด้วยการตกชั้น แม้จะน่าคิดว่าตอนนี้พวกเขาจะยังดีเกินไปสำหรับเดอะแชมเปียนชิพหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ พวกเขาดูท่าจะดีไม่พอสำหรับลีกสูงสุด
ถ้าหาจุดเปลี่ยนไม่เจอ เลสเตอร์ จะกลายเป็นอดีตแชมป์พรีเมียร์ ลีก ทีมที่สองที่ตกชั้นต่อจาก แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส แชมป์ลำดับที่สองของเจ้าสัวโรงเหล็กที่ชื่อ แจค วอล์คเกอร์
ถ้าอย่างแย่ๆ ตกชั้น 1-2 ปีแล้วกลับขึ้นมา เลสเตอร์ จะยังคงมีอนาคตที่ดีรออยู่
แต่ถ้าแย่กว่านั้น อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา อาจจะต้องงัดฝีมือทางด้านบริหารธุรกิจออกมาให้มากกว่านี้ ทั้งการหารายได้นอกสนามให้มากขึ้น รวมทั้งหามือดีๆ ในทางฟุตบอลเข้ามาปรับอะไรบางอย่าง
ซึ่งรวมถึงมองหาผู้จัดการทีมที่มือถึงมากอบกู้ทีม ในกรณีที่ ร็อดเจอร์ส ไม่เอาแล้วกับสถานการณ์นี้
#PlayNowThailand #khelnow #football
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
