#เห็นอย่างไร.....เขียนอย่างนั้น
หลังเกมพังยับเยิน ที่เนเปิลส์
🌀 นาโปลี เริ่มต้นด้วยดีมากครองบอลเข้าใส่ ผู้มาเยือนทันทีตั้งแต่เสียงนกหวีดดังขึ้น ตรงกันข้ามกับ ลิเวอร์พูล ที่เหมือนมาแบบยังไม่ตื่น งัวเงีย สะเปะสะปะ ซึ่งเพียงแค่ 5 นาที นาโปลี ก็ได้จุดโทษ จากการ แฮนด์บอลของ เจมส์ มิลเนอร์ ในนาทีที่5 เป็น ซีลินกี้ สังหารเข้าไป
🌀ซึ่งจุดโทษลูกนี้ เป็นจังหวะที่พลาดมากสำหรับ มิลเนอร์ จนถึงวินาทีนี้ผู้ชมอย่างผมยังไม่เข้าใจว่ามีเหตุจูงใจอันใดถึงต้องยื่นแขนออกไปแบบนั้น เรียกได้ว่าเป็นวันที่ไม่ดีสำหรับเจ้าตัว เพราะอีก 5 นาทีต่อมาสุ่มเสี่ยงต่อการโดนใบแดงที่เข้าบอลหนักสุดท้ายก็รับใบเหลืองไป
🌀 และก็เกือบจะเสียประตูไปอีกจากการเสียจุดโทษที่ VVD ไปเหยียบขา โอซิมเฮน ในนาทีที่ 18 แต่ อลิสซง เซฟจุดโทษของ โอซิเฮน ไว้ได้ เรียกได้ว่า 20 นาทีเสียจุดโทษไป 2 ครั้ง ซึ่งคงคิดได้ทันทีว่าวันนี้สถานการณ์ของ ลิเวอร์พูล ไม่ใช่ปกติแล้ว เพราะมันแทบจะไม่มีทีมระดับนี้ เสียจุดโทษให้คู่แข่งไป ถึงสองครั้งสองครา ภายเวลาไม่ถึง 20 นาทีที่เริ่มเกม
🌀 ลิเวอร์พูล จากคนที่เหมือนยังไม่ตื่นในตอนแรก หลังจากเสียประตูแรกหนักกว่าเดิมคือมีอาการเหมือนคนเมาหมัด โดนทะลุมาถึงหลังตลอด เป็นอีกวันที่แดนกลางคุมบอลไม่ได้ คุมจังหวะของเกมไม่ได้ บอลเลยทะลุมาถึงประตูแล้วถึงประตูเล่าอยู่เนืองๆ บวกกับกองหลังที่วันนี้ผิดพลาด โดยเฉพาะ โจ โกเมซ ที่พลาดเต็มๆ ในประตู ที่ 2 และ ประตูที่ 3
🌀 ซึ่งต่อให้เป็นช่วงที่แผงหลังท้อปฟอร์ม โดยเฉพาะ ฟานไดจ์ค ต่อให้บอลทะลุถึงหลังแบบนี้อยู่ตลอดเวลามันก็แย่เหมือนกัน สำมะหาอะไรกับช่วงแบบนี้ กับแนวรับไม่อยู่ในร่องในรอยที่ควรจะเป็น ซึ่งความคิดแรกแวบเข้ามาคือเกมที่พ่าย วิลล่า 7-2 ลอยมาในหัวทันที หากยังไม่มีการถอด โกเมซ ออก หรือปรับเกม
🌀 ไม่เฉพาะเพียงแค่เกมรับ เกมรุกวันนี้ก็แย่ไม่แพ้กัน จังหวะจับบอลง่ายๆ จับพลาดหลุดไปแบบที่ผู้ชมทางบ้านอย่างผมงงเป็นไก่ตาแตก ที่นักฟุตบอลอาชีพอย่างซาลาห์ จะจับบอลลงไม่อยู่ เรียกได้ว่า สมาธิไม่มี จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
🌀 อาจจะบอกได้ว่า กลางพัง หลังยวบ หน้าก็ไม่รอด สรุปแล้วคือ ไม่ดีทุกจุดสำหรับเกมนี้
🌀 ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล แม้จะถอด โจ โกเมซ ออกแล้ว ก็ยังไม่หายเมาหมัด เริ่มแค่ 2 นาทีก็เสียประตูที่ 4 ให้เจ้าบ้านไป เป็นจังหวะที่ถูกทะลุหลุดเหมือนเดิม วันนี้ นาโปลี มาอย่างไรก็พร้อมทะลุฝ่าแนวรับลิเวอร์พูล ได้ตลอดเวลา
🌀 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูอีก 2 นาทีถัดมาจาก หลุยซ์ ดิอาซ หากพยามจะมองหาจุดดีจุดเดียวที่ ลิเวอร์พูล มีจริงๆในวันนี้ก็ คือ หลุยซ์ ดิอาซ นี้แหละครับ เพราะเป็นคนที่ก้มหน้าก้มตาเล่นบอล สมาธิอยู่ในเกมตลอด วิ่งจนถึงนาทีสุดท้าย สู้ประดุจดังว่าไม่ได้มองสกอร์บอร์ดว่าเกมมันขาดลอยราวกับว่าทีมจะกลับมาได้ ซึ่งต่างจากคนอื่นทุกคนที่ไม่เอาอะไรแล้ว
🌀 ใน ยุคเยอร์เก้น คล็อปป์ กุมบังเหียน เกมนี้เป็นเกมที่แย่ที่สุดในสายตาของผม เรียกได้ว่า พังทุกอย่างในเกมฟุตบอล ตั้งแต่นาทีแรกยันครบ 90 นาที หากพอจะหาภาพที่แย่ใกล้เคียงกันในเกม UCL คงต้องย้อนกลับไป วันที่ 07/11/2018 ที่ทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ บุกไปพ่ายให้แก่ เร้ด สตาร์ เบลเกรด 2-0 ซึ่งเกมนั้นลักษณะอากัปกิริยะ ของผู้เล่น ลิเวอร์พูล มีลักษณะใกล้เคียงกับเกมในวันนี้ที่สุด คือมีอาการเหมือนคนเมาหมัด เล่นด้วยความงุนงง ไม่มีสมาธิ ตลอด 90 นาทีเช่นเดียวกัน
เป็นเกมที่ 3 ติดต่อกันสำหรับการมาเยือนที่ เนเปิ้ล ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ แล้วกลับออกไปแล้วไม่มีแม้แต่แต้มเดียวติดมือไปด้วย
หลังเกมโดยปกติแล้วผมจะเขียนทันทีหลังจากที่จบเกม ทว่าวันนี้ต้องบอกว่าทำสมาธิอยู่ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา ไม่อยากเขียนทันทีทันใดหลังจากทีเกมจบ เพราะมันจะใช้อารมณ์ส่วนตัวจนเกินไป แน่นอนว่า ผมในฐานะปุถุชนคนธรรมดา มีโกรธ มีอารมณ์ไม่พอใจเป็นธรรมดา กับเกมแบบนี้ ใส่อารมณ์ในขณะที่รับชมเกมไปชนิดที่เรียกได้ว่า ด่าได้ด่า แหกปากตะโกนใส่หน้าจอ ระหว่างเกม
แต่ท้ายที่สุดแล้วเมื่อเกมนี้จบแล้วก็จบไป พร้อมที่จะเริ่มต้นเชียร์กันใหม่ในนัดถัดไป เพราะทีมรักทีมนี้มีให้เชียร์ให้ชมทุกสัปดาห์
แล้วพบกันใหม่เกมหน้า เปิดแอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเสาร์นี้ครับ ❤️You ‘ll never walk alone❤️
🖌️ Klopper
08.09.2022
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
