8 ก.ย. 2022 เวลา 11:33 • ความคิดเห็น
ข้อจำกัดไม่ใช่ข้ออ้างให้หยุดฝัน : เมื่อยอมรับปัญหา ถึงจะก้าวไปข้างหน้าได้
ฟิล แฮนเซน (Phil Hansen) หลงรักศิลปะมาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะเทคนิคที่เรียกว่า pointillism หรือการใช้ปากกาจิ้มเป็นจุดเล็ก ๆ เป็นพัน ๆ หมื่น ๆ จุดเพื่อสร้างสรรค์งานศิลปะให้ออกมาสวยงาม
เขาหลงใหลงานศิลปะแบบนี้มากถึงขั้นฝึกอย่างเคร่งเครียดวันหนึ่งหลายชั่วโมง ติดต่อกันหลายวัน หลายเดือน เป็นปี ๆ
จนกระทั่งวันหนึ่งมือเขาสั่นแบบไม่สามารถควบคุมได้ สั่นชนิดที่ว่าเขาไม่สามารถวาดเส้นตรงได้อีกต่อไป เมื่อสร้างจุดบนภาพ มันจะไม่ใช่จุดอีกต่อไป แต่จะเป็นเหมือนลูกอ๊อดที่มีหัวแล้วหางต่อออกมา
ตอนแรก ๆ เขาคิดว่าตัวเองคงเหนื่อยเกินไปเลยหยุดพัก แต่กลับมาทำใหม่ก็ยังไม่หาย พยายามแก้ไขโดยการใช้มืออีกข้างจับเพื่อให้หยุดสั่น แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร การเกร็งกล้ามเนื้อแขนยิ่งส่งผลให้สั่นมากขึ้นกว่าเดิม
เขาแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเรื่องโหดร้ายนี้กำลังเกิดขึ้น เขาไม่สามารถสร้างสรรค์งานที่ตัวเองรักได้อีกต่อไป และตัดสินใจหยุดเรียนศิลปะไปกว่าสามปี
ระหว่างที่หยุดเรียนเขาก็พยายามไปทำอาชีพอื่น แต่ทุกวันเขาก็ยังคิดถึงการทำงานศิลปะอยู่ดี สุดท้ายเขาตัดสินใจไปพบแพทย์เพื่อเข้ารักษา หลังจากตรวจสอบแล้วแพทย์ก็บอกว่าเส้นประสาทถูกทำลายถาวร ไม่สามารถรักษาได้ นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกแย่ลงไปมากกว่าเดิม
แต่มีคำหนึ่งที่แพทย์บอกกับเขาซึ่งไม่ได้แค่เปลี่ยนทัศนคติของเขาที่มีต่อการสร้างงานศิลปะเท่านั้น แต่กับการใช้ชีวิตของเขาด้วย
แพทย์คนนั้นบอกว่า “ทำไมนายไม่ยอมรับการสั่นนั้นซะหล่ะ”
แฮนเซนทำหน้าสงสัย เขามาหาหมอเพื่ออยากได้การรักษา ไม่ใช่อยากได้คำปรึกษานะ แต่หลังจากที่เขากลับมาบ้านก็คิดถึงคำพูดของแพทย์คนนั้นตลอด “ยอมรับการสั่น” อย่างนั้นเหรอ?
เขากลับมาลองวาดเส้นตรงที่ขยุกขยิกอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เจ้าเส้นขยุกขยิกนั้นค่อย ๆ ก่อตัวสร้างออกมาเป็นงานศิลปะรูปใบหน้าคนบนผืนผ้าใบขนาดใหญ่ มันอาจไม่ใช่งานศิลปะที่เขาเคยทำ แต่มันคืองานศิลปะที่เขาทำได้ หลังจากนั้นโลกของเขาก็เปลี่ยนไปเลยครับ
ที่ผ่านมาข้อจำกัดของร่างกาย อาการมือสั่นทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองหมดหวัง ไม่สามารถทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการได้ แต่มันไม่ใช่เลย เขาไม่เคยมองหาหนทางอื่นที่จะทำมันเลยต่างหาก เขามองเห็นข้อจำกัดที่ตัวเองมีแล้วก็ล้มเลิกเพราะคิดว่านั้นคือสิ่งเดียวที่เขาทำได้ แต่ไม่ใช่เลย
1
เขามือสั่น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาสร้างงานศิลปะไม่ได้สักหน่อย
1
หลังจากนั้นเขาก็เริ่มทดลองครับ ใช้น้ำมันจากแฮมเบอร์เกอร์วาดรูป ใช้การจุดเทียนไขสร้างเป็นภาพวาด ใช้เพียงสันมือเพื่อวาดภาพ ใช้เบคอนเพื่อประกอบเป็นรูปภาพ ฯลฯ คือเขาบอกเลยว่าลองทุกอย่างเพราะมันเริ่มสนุกแล้ว
ผลงานของเขากลายเป็นไวรัลและสร้างชื่อเสียงให้เขาแบบไม่เคยได้รับมาก่อน เขากลายเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ ได้ออกทีวี มีคนมาสัมภาษณ์ และงานศิลปะของเขาก็ส่งต่อกำลังใจให้คนที่กำลังรู้สึกพ่ายแพ้อีกหลายล้านคนทั่วโลกเลย
เขาบอกว่า
“ท้ายที่สุดแล้วทุกอย่างที่เราทำเราก็มีอยู่แค่นี้ มีทรัพยากรที่จำกัด ในกล่องนี้ [ที่เรียกว่าชีวิต] การเรียนรู้ที่จะสร้างบางอย่างด้วยข้อจำกัดที่มีคือหนทางเดียวที่เราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้”
เรื่องราวของแฮนเซนช่วยทำให้เห็นว่าข้อจำกัดไม่ใช่ข้ออ้างให้หยุดฝัน เมื่อยอมรับปัญหาเราถึงจะก้าวไปข้างหน้าได้

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา