9 ก.ย. 2022 เวลา 00:40 • ปรัชญา
🌟โชคร้ายหรือโชคดี เคราะห์ดีหรือเคราะห์ร้าย 💢
“โชค” น.หมายถึง สิ่งที่นําผลมาให้โดยคาดหมายได้ยาก เช่น โชคดี โชคร้าย มักนิยมใช้ในทางดี เช่น นายแดงเป็นคนมีโชค (ราชบัณฑิตยสถาน)
“เคราะห์” น.หมายถึง สิ่งที่นำผลมาให้โดยไม่ได้คาดหมาย เช่น เคราะห์ดี เคราะห์ร้าย, มักนิยมใช้ในทางไม่ดี เช่น มีเคราะห์ ฟาดเคราะห์ (ราชบัณฑิตยสถาน)
......................................................
6 กันยายน 2565 พ่อครูเดินไปบริเวณเขตสิกขมาตุกับปัจฉา ปัจฉาเล่าถึงท่านสมณะเด่นตะวัน ท่านไปนั่งฉันที่ศาลาได้วันเดียวก็ปวดเข่า วันต่อไปเลยต้องไปตักอาหารไปฉันที่กุฏิไม่ได้ขึ้นศาลาฉัน
​พ่อครูเลยกล่าวว่า... คนเรานี่ก็วิบากใครวิบากมัน ไอ้เราก็เคราะห์ดีที่ว่าไม่ค่อยได้เป็นอะไรเท่าไหร่
ปัจฉาบอกว่า...พ่อครูโชคดีนะครับเรื่องกระดูกไม่มีปวด
พ่อครูเลยบอกว่า...ความเจ็บความป่วยมันจะเป็นโชคอย่างไรล่ะ มันเป็นเคราะห์ต่างหากเล่า เคราะห์กับโชคนี่ ถ้าเผื่อว่าไอ้ที่มันจะเกิดในขณะที่เผชิญอยู่นี่ ถ้าเป็นของดีเรียกว่า “โชค” ถ้าเป็นของไม่ดีเรียกว่า “เคราะห์”
ปัจฉาถามว่า...ถ้าเป็นหวยนี่ เรียกว่าของดีหรือของไม่ดีนะครับ แล้วถ้าถูกหวยรางวัลที่ 1 ควรเรียกว่า “เคราะห์ดี” หรือ “โชคดี” กันล่ะครับ
พ่อครูว่า...ถูกหวยถือว่าเป็น “เคราะห์ร้าย” ถ้าไม่ถูกหวยถือว่า “เคราะห์ดี” ซื้อหวยถูกหวยก็เป็นหนี้เขา นายทุนเจ้ามือเอาไปกินหมด พวกนี้ไปเป็นเหยื่อของเข้ามือ เอาเศษมันมาให้ส่วนหนึ่ง ส่วนใหญ่เขาก็เอา ส่วนหวยรัฐบาลนั้น ก็ไม่มีปัญญาจะพัฒนาประเทศหรือไง จึงต้องไปเอาเงินหวยไปพัฒนาประเทศ
......................................................
หวย คือการพนันชนิดหนึ่งคืออบายมุข นักปฏิบัติธรรมขั้นต้น จะรู้ว่าเป็นส่ิงไม่ดี เมื่อถูกหวยจึงเรียกว่า “เคราะห์ร้าย” แต่ไม่ถูกหวยเรียกว่า “เคราะห์ดี” แต่คนที่อวิชชา มีความมืดบอดมัวเมาในอบายมุข กลับเห็นว่า หวยเป็นส่ิงดี ที่น่าได้น่ามีน่าเป็น เมื่อถูกหวย เขาจะบอกว่า “โชคดี” และถ้าถูกหวยกินจะบอกว่า “โชคร้าย”
คนเรา มันประสบเรื่องไม่คาดหมายอยู่เสมอๆ หากเรื่องไหนได้สมใจกิเลสตน จัดการกิเลสไม่ทันก็ถือว่าเคราะห์ร้าย หากเรื่องไหนจัดการกิเลสได้ทันท่วงที ลดกิเลสได้ด้วยปัญญาก็ถือว่า “เคราะห์ดี”ไป ส่วนเรื่องไหนที่เป็นเรื่องดีแต่มันไม่เกิดผลดีดังคิด ก็ถือว่า “โชคร้าย” หากได้ผลดีดังที่คิดไว้ ก็ถือว่า “โชคดี” ไป ซึ่งความดีของนักปฏิบัติธรรมในระดับต่างๆ ก็จะต่างกันไปด้วย เรื่องเดียวกัน คนหนึ่งจะเห็นว่าเป็นเคราะห์หรืออีกคนจะเห็นว่าเป็นโชคก็ได้ แต่จะเป็นผลดีหรือผลร้าย ก็ขึ้นอยู่กับผลสรุปของกรรมและวิบากของผู้นั้นๆ
......................................................
การมาได้พบเจอพ่อครู พบเจอหมู่มิตรดีสหายดี ถือว่าเป็นโชคดีที่สุดในชีวิตของลูกๆทุกคนแล้ว และก็นับว่าเป็นโชคร้ายที่สุดเช่นกัน ถ้าพบเจอพ่อครู พบเจอหมู่มิตรดีสหายดีแล้วเราไม่สามารถปฏิบัติธรรมให้ได้มรรคผลตามที่พ่อครูและหมู่กลุ่มพาทำ
แม้มาได้พบเจอพ่อครู เจอหมู่มิตรดีแล้ว อยากปฏิบัติตามให้ได้มากที่สุด แต่บางคนอาจ “เคราะห์ร้าย” ที่มีสัมภาระวิบาก มีอุปสรรคขัดขวางมากมาย ทำให้ไม่ได้มาอยู่กับพ่อครูและหมู่มิตรดี แต่ก็ขึ้นอยู่กับความเพียรของแต่ละท่าน ที่จะสามารถใช้เป็นเหตุปัจจัยให้เราได้ปฏิบัติธรรมลดละกิเลส ที่สุดแล้วจะสามารถผ่านด่าน “เคราะห์ร้าย” นั้นๆ เปลี่ยนให้เป็น “เคราะห์ดี” ได้แน่นอน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้า ด้วยความเพียรที่สัมมาทิฏฐิ
ปิดท้ายด้วยคำสอนของพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ 10 เมษายน 2520 .... ไม่มีใครที่จะไม่มีอุปสรรค และจงดีใจเถิดว่าอุปสรรคนั้นแหละ คือโจทย์ชิ้นเยี่ยม มันจะทำให้เราชาญฉลาดในการจะแก้ไขทุกอย่างเป็นไปด้วยดีได้อย่างเก่ง เราจะใช้เงินไม่ว่ากี่ล้านจ้างทำโจทย์เหล่านี้ให้แก่เราไม่ได้เลยเป็นอันขาด มันเป็นกำไรของเราโดยแท้จริงๆ ข้อสำคัญที่สุดก็คือคำว่าอุปสรรคนี้ต้องรู้จักมันให้ได้ให้ดีอย่างแท้จริงเถิดว่ามันมีอยู่ คนทุกคนแม้กระทั่งผู้ที่เป็นพระอรหันต์แล้ว ก็ยิ่งจะมีอุปสรรคอยู่ตลอดทุกลมหายใจเข้าออก 🙏
โฆษณา