ประชาธิปไตยภายใต้พระมหากษัตริย์แบบอังกฤษ: 'ไทยควรเรียนรู้อะไรได้บ้าง?'
มองอย่างหยาบๆ นะครับ ในช่วงบรรยากาศที่ผู้คนยังไว้อาลัยสมเด็จพระราชินีอลิซาเบทซึ่งเสด็จสวรรคตอยู่
สถาบันพระมหากษัตริย์ปัจจุบันในอังกฤษแข็งปึก ยากที่จะมีคนโค่นล้มได้ แม้จะมีคนพยายามโค่นล้มอย่างเปิดเผย เช่น นางลิซ ทรัสส์ก็เคยแสดงความคิดเห็นไม่อยากให้มีสถาบันกษัตริย์ในอังกฤษ เป็นต้น
แต่หลังจากเกิดสงครามกลางเมืองที่โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจากลุ่มทุนยิวไซออนิสต์ ดำเนินการโค่นสถาบันกษัตริย์จนสถาบันกษัตริย์หายไปพักหนึ่ง ต่อมา เมื่อประชาชนรื้อฟื้นสถาบันกษัตริย์มาได้ รัฐบาลจึงมีกฎหมายคุ้มครองสถาบันกษัตริย์ดีขึ้นกว่าเดิม
อังกฤษเป็นประเทศที่ผู้คนเคารพจารีตประเพณีดั้งเดิมซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของอังกฤษเองมาก ในเมื่อสถาบันพระมหากษัตริย์ทรงพาประชาชนบุกเบิกสร้างชาติ อยู่ร่วมกับประชาชนในอังกฤษมาช้านาน รัฐบาลอังกฤษจึงมีวิธีคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยกำหนดให้มีสภาบนหรือสภาขุนนางซึ่งมีสมาชิก ๗๕๖ คนที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ไว้คอยกลั่นกรองกฎหมาย
ผมเคยถามเพื่อนชาวอังกฤษที่เรียนหนังสือด้วยกันว่า 'เมื่อสภาบนหรือที่อังกฤษเรียกว่า the House of Lords ไม่ได้เป็นตัวแทนประชาชน แล้วอังกฤษจะเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร?' เพื่อนชาวอังกฤษบอกว่า 'อังกฤษไม่ได้เลือกตัวแทนประชาชนเข้ามา แต่เลือกตัวประชาชนที่มาจากตระกูลหรือวงศ์วานที่เป็นสดมภ์หลักของอังกฤษในทางวัฒนธรรมและจารีตประเพณีมาช้านานโดยตรงมาเป็น'
ถ้าจะบอกว่าเลือกตัวแทนก็คือเลือกตัวแทนประชาชนที่เคารพยึดมั่นในจารีตประเพณี เอกลักษณ์หรืออัตลักษณ์ของอังกฤษนั่นเองมาเป็นสมาชิกสภาสูง
ประชาชนที่ได้รับแต่งตั้งเข้ามาให้เข้ามาเป็นสมาชิกวุฒิสภา มีกลุ่มตัวแทนศาสนจักร ตัวแทนตระกูลขุนนางเก่าแก่ที่มีประวัติร่วมสร้างและพัฒนาสหราชอาณาจักรขึ้นมา ตระกูลคหบดีที่รู้จารีตประเพณีอังกฤษดีก็มี ฯลฯ
คนเหล่านี้ได้รับสิทธิพิเศษคือการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกวุฒิสภาเพราะตระหนักถึงความสำคัญของอัตลักษณ์ เอกลักษณ์หรือจารีตประเพณีของความเป็นอังกฤษเป็นอย่างดี บรรพบุรุษคนเหล่านี้เคยร่วมสร้างสหราชอาณาจักรมาก่อนก็มี รัฐบาลอังกฤษจึงให้ความสำคัญจนถึงคัดเลือกคนเหล่านี้มาเป็นสมาชิกวุฒิสภา
พูดง่ายๆ ว่าแม้เวลาจะผ่านไป แต่การพัฒนาประเทศของอังกฤษก็จะต้องดำเนินไปบนพื้นฐานของการอนุรักษ์จารีตประเพณีแบบอังกฤษเอาไว้ซึ่งรวมทั้งสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยนั่นเอง
ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าสภาล่างจะเสนอร่างกฎหมายใหม่อะไรสู่สภา ก็จะต้องถูกสภาสูงหรือสภาบนตรวจสอบ เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกฎหมายใหม่จะไม่ไปทำลายวัฒนธรรมหรือจารีตประเพณีดั้งเดิมของอังกฤษ ร่างกฎหมายทุกฉบับจึงถูกสภาบนหรือสภาสูงกลั่นกรองอย่างละเอียดเสมอ
เพราะกลไกรัฐสภาสร้างขึ้นมาเพื่อคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์เช่นนี้เอง จึงไม่มีทางเลยที่จะมีนักการเมืองคนไหนที่ตั้งใจโค่นล้มสถาบันกษัตริย์ในอังกฤษ จะเสนอร่างกฎหมายให้ได้รับการยอมรับและผ่านสภา เพราะต้องฝ่าด่าน the House of Lords จำนวน ๗๕๖ คนไปก่อนนั่นเอง
กล่าวได้ว่า the House of Lords นี่เองคือปราการสำคัญที่ช่วยกันท่ามิให้รัฐบาลอังกฤษต้องออกกฎหมายตามใจรัฐบาลอเมริกาเมื่อถูกอเมริกากดดันไปทุกเรื่อง
เมืองไทยก็ควรจะใช้วิธีแบบอังกฤษครับ แต่อย่างที่ผมเคยแนะนำ นอกจากจะทำแบบอังกฤษแล้ว ยังต้องหาทาง:-
๑.ลดบทบาทเครือข่ายสงครามพันทางของอเมริกาในประเทศไทยเพราะเครือข่ายสงครามพันทางของอเมริกานี้จะมุ่งเน้นไปทางระบอบประธานาธิบดีตามแบบอเมริกามากกว่าระบอบกษัตริย์แบบอังกฤษ
ดูวิธีลดเครือข่ายสงครามพันทางได้ที่ https://www.blockdit.com/posts/631bef2231fd2d38d91b1959
๒.หันไปกระชับสัมพันธไมตรีกับมหาอำนาจจีนและรัสเซียที่เคารพเอกลักษณ์ไทยมากกว่าอเมริกาไว้คอยช่วยเหลือในยามถูกอเมริการุกรานหนักขึ้น หรือในยามที่มีทุนยิวไซออนิสต์ถูกส่งเข้ามาผ่านเครือข่าย NGOs เพื่อก่อหวอดป่วนสถาบันกษัตริย์ไทยหนักขึ้น
*หมายเหตุ: ใครที่ใช้ชื่อปลอม นามสกุลปลอมและรูปปลอมมาคอมเมนต์ผมจะบล็อคหมดนะครับ พวกที่ปอดแหก เก่งแต่ในรูอย่างนี้ไม่สมควรวิจารณ์ใดๆ แค่อ่านเฉยๆ แล้วไปใช้ชีวิตอย่างปอดแหกต่อไปก็พอครับ
- 21
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
