10 ก.ย. 2022 เวลา 03:45 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
On Wednesdays we wear pink!
6 เหตุผลที่ทำให้ Mean Girls เป็นตำนานหนังวัยรุ่นสุดคลาสสิก
ช่วงนี้ดูซีรีส์อยู่เรื่องนึง เป็นเรื่องของ 4 สาวเพื่อนรักที่หักหลังกันไปมา เจ็บใจจี๊ดจนอดนึกถึงหนังอีกเรื่องไม่ได้ ถือเป็นต้นตำรับสาวๆ เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดที่คลาสสิคเรื่องนึง
Mean Girls เป็นภาพยนตร์ที่เปิดตัวในปี 2004 ที่เสียดสี-ตีแผ่ชีวิตวัยรุ่นอเมริกันออกมาได้แบบใจเจ็บ ส่งผลให้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจนนักแสดงนำทั้ง 4 คนโด่งดังเป็นพลุแตก
ความโด่งดังของภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ทุกวันนี้คุณยังสามารถเห็นวลีเด็ดในอินเตอร์เน็ตได้อยู่ มันถือเป็นต้นตำรับหนังวัยรุ่นอีกหลายๆ เรื่องในยุคต่อมา แม้แต่การแต่งตัวสไตล์ Y2K ที่กำลังเป็นกระแสในตอนนี้ ก็คือการหยิบเอาสไตล์ในยุคนั้นกลับมาเล่นนั่นเอง
ทำไมหนังที่ออกฉายเมื่อเกือบสองทศวรรษที่แล้วยังคงอยู่ในกระแส?
กลายเป็นมีมยอมฮิตและปรากฎการณ์ระดับวัฒนธรรมที่แม้แต่หนังคอมเมดี้วัยรุ่นยุคหลังๆ ก็แทนหนังเรื่องนี้ไม่ได้
ชวนมาดู 6 เหตุผลที่ทำให้ Mean Girls เป็นหนังที่ดูแล้วเนื้อหาไม่เก่า หนังวัยรุ่นที่ดูเบาสมอง แต่เป็นตำนานเกือบสองทศวรรต
อยากระลึกความหลังตามไปดูกันได้ที่ Prime Video
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ต่อให้อินโทรเวิตก็อยากมีเพื่อน
การย้ายมาจากแอฟริกาของเคดี้อาจจะเป็นเคสที่หายาก แต่ไม่ใช่ว่าพวกเราทุกคนก็เคยมีโมเมนท์ ‘เด็กใหม่’ หรอกหรอ? การเริ่มต้นพบเพื่อนใหม่ ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยน่ากังวลใจเสมอ
Mean Girls สะท้อนชีวิตวัยรุ่นที่มีความร่วมสมัยได้เป็นอย่างดี การที่เราต้องเลือกกลุ่มเพื่อน หรือพยายามให้ได้รับการยอมรับแม้ว่าจะต้องสูญเสียตัวตนของเราไป แน่นอนว่าเกิดขึ้นกับแทบทุกคนไม่มากก็น้อย
และต้องใช้เวลากว่าเราจะหนักแน่นพอที่จะเป็นตัวของตัวเอง ไม่ว่าใครก็เคยผ่านจุดนี้กันมาทั้งนั้น คนดูจึงมีความรู้สึกร่วมกับเคดี้นางเอกของเรื่องได้ไม่ยากเลย
ขนาดในกลุ่มเพื่อน ยังแบ่งว่าใครสนิทกับใครมากกว่า ในโรงเรียนยิ่งไม่ต้องพูดถึง
ช่วงต้นเรื่อง เพื่อนของเคดี้ทำการแนะนำเด็กกลุ่มต่างๆ ในโรงเรียนผ่านแผนผังโรงอาหารที่วาดในสมุดการบ้าน อธิบายทุกกลุ่มชนิดสั้น. ง่าย. ได้ใจความ. และให้ตายเถอะ ถ้าใครเคยไปแลกเปลี่ยนอเมริกา ต้องบอกเลยว่ามันจริงมาก!
และมันไม่ใช่แค่ในอเมริกา ประเทศไทยหรือที่อื่นๆ เองก็มีการรวมกลุ่มลักษณะนี้เหมือนกัน
การแบ่งพรรคพวกในสังคมเป็นลักษณะปกติของมนุษย์ เราจะเห็นตัวละครในเรื่องต่างคนต่างตัดสินกันและกัน บนพื้นฐานของหน้าตา สีผิว เชื้อชาติ รูปร่าง การแต่งตัว และฐานะ เพราะการแบ่งแยกนี้พูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับตัวเรา
ไม่ว่าเราจะอยู่แก๊งสวยและรวยมาก แก๊งเด็กเนิร์ด แก๊งเด็กแนว การรวมกลุ่มทำให้เราเป็นส่วนนึงของกลุ่มเพื่อน และสิ่งนี้เกิดขึ้นทุกที่ หลายคนคงเห็นได้ชัดจากสังคมใกล้ตัวในปัจจุบัน เราทุกคนต่างหมกมุ่นว่าทุกคนคิดยังไงกับตัวเรากันทั้งนั้น
It’s so fetch!
ประโยคติดปากที่ไม่เคยตกเทรนด์จนกลายเป็นมีมโด่งดัง ด้วยความที่ Mean Girls มีบทพูดสุดแซ่บให้อ้างอิงมากมาย ที่แม้ว่าจะดูครั้งเดียวก็จำได้ คงต้องคาราวะ Tina Fey ผู้เขียนบทที่ทำให้มันติดหูขนาดนี้
นอกจากจะใช้ง่ายในชีวิตประจำวันแล้ว ยังถูกนำไปล้อเลียน เสียดสีปัญหาต่างๆ จนแชร์กันไปทั่วโซเชียลมีเดียอยู่เรื่อยๆ
บอกตามตรงว่าไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมันถึงติดหูขนาดนี้ (พากย์ไทยก็เผ็ดไม่แพ้กัน)แต่ทุกฉากทุกซีนมันสามารถเอามาเข้าได้กับทุกสถานการณ์จริงๆ ดูอย่างเพจ Meme Girls Thailand สิ
ว้าว! น่าพิศมัย
แฟชั่นสุดไอคอนิก
หนังเรื่องนี้รวมแฟชั่นลุคปลาย 90s และต้นยุค 2000s ไว้ด้วยกันไม่ว่าจะกระโปรงสั้น เสื้อแขนกุด เอวลอย เอวต่ำ โชว์สายเสื้อใน แจ็คเก็ต สีโทนชมพู สเวตสูท ฯลฯ ที่ทำให้วัยรุ่นใส่กันทั่วบ้านทั่วเมืองในยุคนั้น
ยิ่งเมื่อแฟชั่น Y2K กำลังกลับมา หนังเรื่องนี้จึงเปรียบได้ดั่ง look book ในฉบับภาพเคลื่อนไหวเลยทีเดียว
ปล. Y2K = year 2000
ชีวิตวัยรุ่นยุคก่อนมี ‘สมาร์ทโฟน’
Mean Girls จับภาพชีวิตวัยรุ่นไม่กี่ปีก่อนที่จะมีสมาร์ทโฟนและก่อนการมาของโซเชียลมีเดีย ทำให้คนหวนคิดถึงวันวานที่ไม่มีใครก้มมองหน้าจอเดินไปมาหรือหมกมุ่นกับการถ่ายรูป
ทางเดินในโรงเรียนเปรียบดั่งอินตราแกรมในชีวิตจริง การประชุมสายด้วยโทรศัพท์บ้าน โทรศัพท์มือถือแบบพับ ถ้าให้นั่งคิดจริงๆ คงมีอีกหลายซีนมาก
บรรยากาศเหล่านี้เป็นอะไรที่ไม่สามารถผลิตซ้ำได้อีกแล้วในชีวิตจริง มันเป็นมนต์เสน่ห์ที่มีอยู่ได้ในภาพยนตร์เท่านั้น
ตัวละครที่ทำให้ทุกคนหลงรัก
บทภาพยนตร์เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจจากหนังสือ ‘Queen Bees and Wannabes’ ที่เป็นหนังสือสำหรับผู้ปกครองอ่านเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมของเด็กสาววัยมัธยม ด้วยเหตุนี้ตัวละครเรื่องนี้จึงมีความซับซ้อน มีมิติ และมีความเป็นมนุษย์สมจริง
ทั้ง เคดี้เด็กสาวที่พยายามเข้ากับสังคมใหม่ เจนนิสและเดเมี่ยนกลุ่ม lgbtq+ ที่ถูกสังคมแบ่งแยก แก๊งพลาสติกที่เป็นภาพจำลองของกลุ่มสาวฮ็อตในโรงเรียนที่ทุกคนทั้งรักทั้งชัง แม้ภายนอกจะดูเป็นสาวมั่นแต่ทุกคนต่างก็ต้องการเป็นที่ยอมรับในสังคมเช่นกัน
ต้องให้เครดิตการกำกับของ Mark Waters และการเขียนบทหนังของ Tina Fey ที่หยิบเอาช่วงชีวิตวัยรุ่นมาบอกเล่าได้เหมือนมานั่งอยู่กลางใจคนดู
ด้วยองค์ประกอบหลายอย่าง ส่งผลให้นักแสดงตัวหลักจากเรื่องนี้ทั้ง ลินด์ซีย์ โลแฮน, ราเชล แม็กอดัมส์, อะแมนดา ไซเฟร็ด ต่างก็ได้รับบทที่น่าสนใจอีกหลายเรื่องตามมา แม้ว่าตอนนั้นจะถูกบางคนถูกวิจารณ์ว่าเล่นแข็งก็ตาม
(จริงหรอ นี่ว่าไม่นะ ออกจะ Fetch!)
โฆษณา