24 ก.ย. 2022 เวลา 23:00 • ข่าวรอบโลก
คดีฆาตกรรมในลานจอดรถใต้ดิน เพราะความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว !!!
สวัสดีค่ะทุกคน I Mean มีเรื่องเล่าวันนี้ จะพาทุกคนไปติดตามคดีฆาตกรรมในลานจอดรถ ที่เรื่องราวทั้งหมดทำให้นึกถึงประโยคที่ยอดนักสืบจิ๋วโคนันชอบพูดบ่อยๆ ที่ว่า “เพราะความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว”
1
คดีนี้เกิดขึ้นในวันที่ 12 พฤษภาคม 2005 ที่เมือง Saint Louis ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศสที่มีพรมแดนติดกับประเทศสวิสเซอร์แลนด์
ชายคนหนึ่งหน้าตาตื่นไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีผู้ชายพยายามจะล่วงละเมิดภรรยาของเขาที่ลานจอดรถใต้ดินของศาลาว่าการเมือง หลังแจ้งความเสร็จ เขาก็รีบขับรถไปที่สถานที่เกิดเหตุ เพื่อไปตามหาตัวชายที่ทำร้ายภรรยาของเขาด้วยความแค้น
เมื่อตำรวจได้รับแจ้งเหตุก็แยกกำลังออกเป็นสองชุด ชุดหนึ่งไปที่บ้านของเขา ตอนไปถึงภรรยาของเขาออกมาเปิดประตู เธอชื่อ Liliane Paolone อายุ 25 ปี กำลังอยู่ในสภาพช็อค เมื่อเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่แล้ว เธอก็ไปยืนร้องไห้ในครัว
3
ตำรวจพบว่า เสื้อผ้าของเธอเปื้อนเลือด จึงบอกให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อนำไปเป็นหลักฐาน และได้กำชับกับเธอว่า อย่าเพิ่งอาบน้ำ เพราะจะเก็บหลักฐานจากร่างกายเธอก่อน แต่อาจจะเป็นเพราะเพิ่งเจอกับเหตุการณ์ร้ายๆ มา สติจึงไม่ค่อยอยู่กับตัว เธอก็เลยอาบน้ำก่อนจะลงมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่
เธอเล่าว่า เธอทำงานเป็นแม่บ้านทำความสะอาดที่สวิส หลังเลิกงาน เธอยืนรอรถเพื่อจะกลับมาบ้านพักในฝรั่งเศส ชายคนที่ทำร้ายเธอได้รับเธอขึ้นรถ แต่เมื่อถึงจุดหมาย เธอขอลงจากรถ แต่เขาไม่ยอมเปิดประตูให้เธอลง กลับขับรถพาเธอไปยังลานจอดรถใต้ดินของศาลาว่าการเมืองและพยายามจะข่มขืนเธอโดยใช้มีดขู่ แต่เธอสามารถแย่งมีดมาได้และต่อสู้กับชายคนดังกล่าวจนเขาได้รับบาดเจ็บและเธอก็หนีรอดมาได้
ตำรวจอีกชุดหนึ่งไปที่ลานจอดรถใต้ดิน พวกเขาพบรถของคนร้าย และเมื่อเข้าไปใกล้กับตัวรถก็พบคราบเลือดไหลออกมาด้านนอกตัวรถ ภายในรถพบชายคนหนึ่งถูกแทงเสียชีวิตคาพวงมาลัย
เขาชื่อ Christophe Millet เคยเป็นนักฟุตบอลที่เป็นที่รู้จักของเมือง Saint-Louis และเคยบริจาคไตเพื่อช่วยชีวิตพี่ชายของตัวเอง ทางครอบครัวจึงไม่เชื่อว่า คนอย่าง Christophe จะลงมือข่มขืน Liliane อย่างที่ถูกกล่าวหา
จากการชันสูตร Christophe ถูกแทงด้วยมีดถึง 18 ครั้ง จากด้านหลัง ในสภาพที่ถอดเสื้อผ้าออกบางส่วน จากรูปการณ์ ตำรวจเห็นว่า มันไม่น่าจะเป็นการป้องกันตัวจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ เจ้าหน้าที่จึงได้แยกสอบปากคำ Liliane กับสามีของเธอ และเก็บหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติม ที่ทำให้พบกับความแปลกอีกหลายอย่าง
ตอนแรกตำรวจคิดว่า สามีของ Liliane อาจจะตามมาแก้แค้น Christophe ตำรวจจึงไปตรวจสอบที่ลานจอดรถใหม่อีกครั้ง และโชคดีมากๆ ที่ลานจอดรถแห่งนี้เป็นสถานที่ไม่กี่แห่งในเมืองที่มีกล้องวงจรปิด
ที่บอกว่าโชคดีก็เพราะคดีนี้เกิดขึ้นเกือบ 20 ปีที่แล้ว สมัยนั้นกล้องวงจรปิดไม่ได้มีอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่งเหมือนสมัยนี้ค่ะ
และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ก็พบว่า สามีของ Liliane ไม่น่าจะเป็นคนทำร้าย Christophe จนเสียชีวิต เพราะเขาขับรถเข้ามาในลานรถด้วยความรีบร้อน ขับวนไปมาตามล็อคต่างๆ เพื่อหาตัวชายที่ทำร้ายภรรยา และได้ขับผ่านบริเวณด้านหน้าของช่องที่รถของ Christophe จอดอยู่โดยไม่ได้ลงจากรถ จากนั้นก็รีบขับกลับออกไป ที่เป็นเช่นนี้ก็อาจจะเป็นเพราะ เขาไม่ทราบว่า Christophe ขับรถอะไรและจอดไว้ตรงไหน ก็เลยได้แต่วนไปทั่วลานจอด เมื่อไม่เจอชายที่น่าจะเป็นคนทำร้ายภรรยาของเขา เขาก็ขับกลับออกไป
ส่วน Liliane เธอให้การเพิ่มเติมว่า หลังจากจอดรถ Christophe ก็ได้ถอดเสื้อผ้าของตัวเขาเองออกเพื่อจะขืนใจเธอ โดยใช้มีดขู่ แต่เธอแย่งมีดมาได้และทำร้ายเขาคืน หลังจากต่อสู้จนรอดมาได้ เธอรีบหนีออกจากที่เกิดเหตุ และตะโกนร้องขอให้คุณลุงคุณป้าคู่หนึ่งที่กำลังมาจอดรถใกล้ๆ ช่วยเธอ แต่ก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ
1
ตำรวจจึงไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด ก็พบว่า ตอนที่ Christophe ขับรถเข้ามาในลานจอดรถ เขานั่งอยู่ด้านหน้าเพียงคนเดียว ส่วน Liliane นั่งอยู่ด้านหลัง ทั้งคู่มีท่าทางปกติ ไม่เหมือนคนที่มุ่งร้ายกับอีกฝ่าย และคนที่พยายามจะหนีจากเหตุร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่น่าเสียดายที่ไม่มีกล้องวงจรปิดในจุดที่ Christophe จอดรถ เราจึงไม่ทราบว่า เกิดอะไรขึ้นในรถคันนั้นกันแน่
ตำรวจไล่ดูภาพในกล้องวงจรปิดไปเรื่อยๆ และพบภาพคุณลุงคุณป้าคู่หนึ่งกำลังจอดรถอย่างที่ Liliane ให้การนะคะ ตำรวจก็เลยไปสอบถามทั้งคู่
คุณลุงคุณป้าที่ Liliane อ้างถึง
คุณลุงคุณป้าบอกว่า พวกเขาเห็น Liliane จริง ตอนเดินสวนกัน แต่เธอไม่ได้ตะโกนขอให้ช่วยเหลือ ไม่ได้ทักทายพวกเขาด้วยซ้ำ
จากนั้นกล้องก็จับภาพ Liliane ได้อีกครั้งตอนเธอกำลังเดินถือของออกจากลานจอดรถโดยไม่ได้มีท่าทีรีบร้อนเพื่อวิ่งไปขอความช่วยเหลืออย่างที่เธออ้าง
หากนับเวลาตั้งแต่กล้องจับภาพรถของ Christophe ตอนขับเข้าไปในลานจอด และตอน Liliane เดินออกมา เหตุร้ายเกิดขึ้นในช่วงเวลาเพียง 23 นาทีเท่านั้นเองค่ะ
นอกจากนี้ ตำรวจก็ได้ไปเก็บหลักฐานเพิ่มเติมที่บ้านของ Liliane และพบสมุดโน้ตที่เธอจดเบอร์โทรศัพท์ของ Christophe ไว้ และยังไปพบกระเป๋าสตางค์และเช็คของ Christophe ในตู้รองเท้า
เมื่อถามว่า เธอได้มันมาได้อย่างไร Liliane ก็บอกว่า กระเป๋าสตางค์ของเขาคงหล่นมาที่นั่งด้านหลังตอนต่อสู้กัน และเธอคงหยิบมันมาโดยบังเอิญรวมกับของอื่นๆ ของเธอ ตอนรีบหนีออกมา
มาถึงตอนนี้ ตำรวจเริ่มจะไม่เชื่อแล้วค่ะ ว่า Christophe และ Liliane จะไม่รู้จักกันมาก่อน แต่พอเจ้าหน้าที่ถามอะไรที่เธอไม่อยากตอบ เธอก็จะนิ่งเงียบและปฏิเสธว่าจะไม่ตอบอะไรอีกแล้ว เธอยังคงยืนยันว่า เธอเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดทางเพศตลอดระยะเวลาการถูกควบคุมตัวเพื่อสอบปากคำ
นอกจากสอบปากคำผู้ต้องสงสัยแล้ว ตำรวจก็ไปสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับ Christophe ด้วยนะคะ แล้วก็พบว่า ชีวิตของ Christophe เปลี่ยนไปมากหลังจากถูกให้ออกจากงานมาพักหนึ่ง เหมือนเขาหลงทางไม่รู้จะทำอะไรกับตัวเองดี บางทีก็หายออกจากบ้านไปทั้งวันและกลับเข้ามาตอนเย็นๆ โดยไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหนและไปทำอะไร
1
และจากการตรวจสอบคอมพิวเตอร์ของเขาพบว่า เขาใช้เวลาวันละหลายชั่วโมงบนเว็บไซต์ที่มีหญิงสาวมาเสนอให้บริการทางเพศ พบแชตมากมายที่เขาพูดคุยกับพวกเธอ และเมื่อเข้าไปดูในเว็บไซต์เหล่านั้นโดยละเอียด ก็พบว่าหนึ่งในผู้หญิงเหล่านั้น คือ Liliane Paolone !!!
เมื่อตำรวจตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ของเขาก็พบว่า เขาส่งข้อความหาเบอร์เบอร์หนึ่งเป็นร้อยๆ ข้อความต่อเดือน เป็นเวลากว่า 1 ปีมาแล้ว และเมื่อนำเบอร์ไปตรวจสอบ ก็พบว่า เบอร์นั้นเป็นของ Liliane Paolone อีกเช่นกันค่ะ !!!
นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่า เธอมีเบอร์โทรศัพท์ 2 เบอร์ ตำรวจสันนิษฐานว่า เบอร์หนึ่งเธอคงใช้ติดต่อกับครอบครัว และอีกเบอร์ใช้ติดต่อกับ “ลูกค้า” ของเธอ
เมื่อเป็นเช่นนี้ ตำรวจก็เลยไปถามสามีของ Liliane ว่า ทราบไหมว่า ภรรยาของเขาขายบริการ สามีของเธอตกใจมาก เขาปฏิเสธว่า Liliane ไม่ได้เป็นหญิงขายบริการ เธอเป็นแม่บ้านให้กับบริษัทในสวิส ว่าแล้วเขาก็ไปเอาสัญญาจ้างงานมาให้เจ้าหน้าที่ดู
เมื่อนำไปตรวจสอบก็พบว่า ในสัญญาจ้างงานนั้นไม่มีอะไรที่เป็นความจริงเลย ทั้งชื่อและที่อยู่ของบริษัทก็ไม่มีอยู่จริง ยกเว้นเพียงอย่างเดียว คือ เบอร์โทรศัพท์
เมื่อตำรวจลองโทรไปก็พบว่า เบอร์นั้นไม่ใช่บริษัทรับทำความสะอาด แต่เป็นเว็บไซต์ขายบริการทางเพศ
เจ้าของเว็บไซต์บอกว่า การขายบริการในสวิตเซอร์แลนด์เป็นอาชีพที่ถูกกฎหมาย ก็เลยมีหญิงสาวจากฝรั่งเศสหลายคนข้ามไปทำงานกับเขา โดยเขาจะมี 2 เว็บไซต์ เว็บไซต์หนึ่ง เป็นเว็บไซต์ที่หญิงสาวสามารถเปิดเผยตัวเองได้ กับอีกเว็บไซต์หนึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ปกปิดตัวตนของพวกเธอ เขาจะเป็นคนดูแลบริหารเว็บไซต์และหักรายได้ส่วนหนึ่งจากหญิงสาวที่ออกไปให้บริการ ซึ่ง Liliane ได้สมัครให้บริการบนทั้ง 2 เว็บไซต์ของเขา และเธอเป็นที่ต้องการของลูกค้ามากๆ
เนื่องจากคดีนี้มีคนถูกทำร้ายจนเสียชีวิตซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในเมืองเล็กๆ เมื่อหนังสือพิมพ์ลงข่าว ผู้คนต่างให้ความสนใจ และเจ้าหน้าที่ได้ขอให้คนที่คิดว่ามีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ติดต่อมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม หนังสือพิมพ์ได้ลงรูป Christophe ไว้ด้วย
1
หลังจากนั้นไม่นาน ผู้จัดการโรงแรมแห่งหนึ่งก็ติดต่อเจ้าหน้าที่ไป เขาบอกว่า Christophe มักจะมาที่โรงแรมคนเดียวสัปดาห์ละประมาณ 2 ครั้ง โดยจะโทรศัพท์มาจองห้องไว้ก่อน แต่ผู้จัดการไม่เคยเห็นผู้หญิงที่มากับเขา
ตำรวจก็เลยเอารูปไปให้แม่บ้านของโรงแรมแห่งนั้นดู ซึ่งพอแม่บ้านเห็นรูปของ Liliane แม่บ้านก็จำเธอได้ทันที
ผู้จัดการโรงแรมอีกแห่งก็ติดต่อไปให้ข้อมูลด้วยเช่นกัน เขาบอกว่า Christophe มาที่โรงแรมของเขาบ่อยๆ โดยจะจองห้องไว้ 1 ห้อง ตอนแรกผู้จัดการคิดว่า เขาคงแอบคบกันคนที่มีครอบครัวแล้ว แต่ปรากฏว่า Christophe จะเป็นคนจองห้อง พา Liliane มาที่โรงแรม เมื่อจ่ายค่าห้องแล้ว เขาก็จะไปนั่งทานข้าวหรือดื่มกาแฟรอเธอที่บาร์หรือไปนั่งรอในรถ ระหว่างที่ Liliane ขึ้นห้องไปกับผู้ชายอีกคน
เมื่อตำรวจได้ข้อมูลมาแบบนี้ ก็ดูเหมือนว่า Liliane ไม่ได้พูดความจริงเลยนะคะ เจ้าหน้าที่จึงได้ไปสอบปากคำเธออีกครั้ง โดยถามว่า เธอมีอะไรที่ปิดบังไว้รึเปล่า เธอใช้ชีวิตแบบมี “โลกสองใบ” ใช่ไหม เธอก็ทำเหมือนไม่เข้าใจว่า ตำรวจกำลังพูดถึงอะไร
พอเจ้าหน้าที่อธิบายให้ฟัง เธอก็เล่าเรื่องใหม่ทันทีว่า เธอถูกบังคับให้ไปค้าประเวณีบนเว็บไซต์ดังกล่าว และ Christophe คือ คนขององค์กร ที่คอยพาหญิงสาวไปส่งให้แขกและเรียกเก็บเงิน โดยเธอได้รับรายได้เพียง 600 ยูโร ต่อเดือนเท่านั้น
ตำรวจก็เลยไปถามเจ้าของเว็บใหม่ เขาให้การว่า เขาไม่รู้จัก Christophe ด้วยซ้ำ และเขาไม่เคยบังคับผู้หญิงคนไหนให้มาทำงานกับเขาเลย ทุกคนมาร่วมงานด้วยความเต็มใจ และรายได้ต่อเดือนของ Liliane สูงถึง 6,000 ยูโร ไม่ใช่แค่ 600 ยูโร อย่างที่เธออ้าง
1
เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำเพื่อนๆ ร่วมอาชีพของเธอด้วยนะคะ ทุกคนให้การว่า Christophe คือ หนึ่งในลูกค้าของ Liliane ที่กลายมาเป็นเพื่อนของเธอ และเขาหลงรักเธออย่างมาก ตามมาคอยดูแลขับรถรับส่งเธออยู่เสมอ
จากนั้นตำรวจก็ได้จำลองสถานการณ์วันเกิดเหตุในสถานที่จริงอีกครั้ง ซึ่งก็พบว่า มันเป็นไปได้ยากมากที่ Christophe จะทำร้าย Liliane จากด้านหน้าโดยที่เธอนั่งอยู่ด้านหลัง
ที่สำคัญ ลักษณะบาดแผลบ่งชี้ว่า Christophe ถูกแทงตอนที่เขานั่งหันหลังให้เธอ ซึ่งผิดจากที่เธอเล่าว่า เขาตั้งใจจะทำร้าย แต่เธอแย่งมีดมาได้และต่อสู้กลับจนเขาได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ตำรวจพบอีกด้วยว่า มีดที่ใช้ทำร้าย Christophe ไม่ได้หาซื้อได้ทั่วไป โดยในเมืองนั้น มีศูนย์การค้าเพียงแห่งเดียวที่ขายมีดดังกล่าว และเมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบว่า มีใครซื้อมีดในลักษณะเดียวกันไปเมื่อเร็วๆ นี้บ้าง ก็พบว่า คนที่เพิ่งมาซื้อไปล่าสุด คือ Christophe และเขาเพิ่งซื้อไปด้วยบัตรเครดิตของเขา เพียงหนึ่งชั่วโมงก่อนเกิดเหตุเท่านั้นเอง
ตำรวจขอดูกล้องวงจรปิดของห้างแห่งนั้นและพบว่า Christophe ไปเลือกซื้อมีดเพียงคนเดียว แต่เหมือนตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอาเล่มไหนดี เขาจึงได้โทรศัพท์หาใครสักคน แต่ดูเหมือนว่าปลายสายจะไม่รับ สุดท้ายเขาก็เดินออกจากห้างไป และกลับเข้ามาใหม่ในเวลาไม่นาน หยิบมีดเล่มหนึ่งแล้วก็จ่ายเงินก่อนจะเดินออกไปขึ้นรถ
หรือว่า Christophe ซื้อมีดเพราะตั้งใจจะทำร้าย Liliane จริงๆ ??
ตำรวจสงสัยว่า คนที่ Christophe โทรหาและเดินออกไปหา น่าจะเป็น Liliane แต่เธอปฏิเสธว่าเธอไม่ได้อยู่กับเขาตอนที่ซื้อมีด
เมื่อเป็นเช่นนี้ ตำรวจก็เลยลองค้นหาสัญญาณมือถือว่า ตั้งแต่เช้าของวันเกิดเหตุ Christophe และ Liliane อยู่ที่ไหนและไปไหนมาบ้าง
1
แล้วก็พบว่า ในเวลาที่ Christophe ขับรถออกจากบ้านของเขา Liliane ยังอยู่ที่บ้านของเธอ หลังจากนั้นพักหนึ่งก็พบว่า เขาทั้งสองคนไปเจอกัน Christophe คงพา Liliane ไป “รับแขก” ต่อมา Christophe ก็มาที่ห้างเพื่อซื้อมีด และแม้ว่า Liliane จะบอกว่า เธอไม่ได้ไปซื้อมีดกับเขา แต่สัญญาณมือถือยืนยันว่า เธออยู่ที่ห้างแห่งนั้นด้วยจริงๆ
เจ้าหน้าที่ยังพบด้วยว่า วันนั้นทั้งวัน เธอได้พยามยามโทรหาเบอร์เบอร์หนึ่งหลายสิบครั้ง แต่เจ้าของเบอร์นั้นไม่ยอมรับสาย
สงสัยว่าตอนที่ Christophe โทรหาเพื่อถามว่าจะเอามีดเล่มไหนดี เธอคงใช้โทรศัพท์โทรหาบุคคลที่ว่า จนไม่ได้รับสายของ Christophe สุดท้ายเขาก็เลยต้องเดินไปหาเธอที่รถอย่างที่เจ้าหน้าที่เห็นจากกล้องวงจรปิดนะคะ
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติของ Liliane ตำรวจพบว่า ครอบครัวเธอเป็นชาวอิตาเลียนที่อพยพมาอยู่ในฝรั่งเศสได้พักใหญ่ เธอเป็นลูกสาวคนสุดท้องในบรรดาพี่น้อง 6 คน เรียนหนังสือไม่จบ ต่อมาได้ไปทำงานเป็นพนักงานขายในห้างแห่งหนึ่ง แต่ก็ถูกไล่ออกในเวลาไม่นานเพราะไปขโมยของ
จากนั้น เธอก็ไปทำงานเป็น Striptist และที่นี่เอง เธอได้ค้นพบว่า เสน่ห์ของเธอมีผลต่อเพศตรงข้ามมากๆ เธอสามารถควบคุมพวกเขาได้ เธอเป็น Striptist อยู่ได้พักหนึ่ง ก็แต่งงาน พอมีลูกสาวเธอก็เลิกทำอาชีพนั้น หันมาทำงานเป็นแม่บ้านทำความสะอาดในสวิสแทน ซึ่งทางครอบครัวเพิ่งมารู้ตอนเกิดเรื่องว่า มันไม่ใช่อย่างที่เธอบอกเลย
คนในครอบครัวเพียงคนเดียวที่รู้เรื่องเกี่ยวกับโลกสองใบของเธอ ก็คือญาติซึ่งเป็นเจ้าของเบอร์ที่เธอพยายามติดต่อด้วยทั้งวัน แต่เขาไม่รับสายค่ะ
ตำรวจเชื่อว่า เธอคงพยายามโทรหาญาติคนดังกล่าวเพื่อขอคำปรึกษาว่าจะทำอย่างไรกับความสัมพันธ์ระหว่างเธอและ Christophe ดี ถ้าญาติของเธอรับสาย เรื่องร้ายๆ นี้อาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้นะคะ แต่ในเมื่อไม่มีใครให้คำปรึกษาเธอ สุดท้ายเธอจึงได้ลงมือทำร้ายเขา
เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานได้มากขนาดนี้ Liliane ก็ถูกดำเนินคดีในข้อหาฆาตกรรม
เธอปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่ทางผู้พิพากษาไต่สวนเห็นว่า หลักฐานต่างๆ ทั้งการให้ Christophe ไปซื้อมีดก่อนเกิดเหตุเพียง 1 ชั่วโมง ลักษณะการถูกแทงจากด้านหลัง ชี้ให้เห็นว่า Liliane วางแผนทุกอย่างไว้ตั้งแต่ต้น และเธอคงจะขอนั่งมาด้านหลังของรถตั้งแต่แรก จากนั้นก็ขอให้เขาพาเธอไปที่ลานจอดรถใต้ดินซึ่งค่อนข้างมืด เลือกจอดในช่องที่กล้องวงจรปิดจับภาพไม่ได้
1
เมื่อจอดรถเรียบร้อยแล้ว เธอคงบอกเขาในทำนองว่า จะช่วยนวดเพื่อให้เขาผ่อนคลายจากทางด้านหลัง ขอให้เขาถอดเสื้อผ้าด้านบนออก และเมื่อ Christophe ไม่ทันได้ระวังตัว เธอก็ลงมือใช้มีดแทงเขาถึง 18 แผล จนเสียชีวิต
ส่วนสาเหตุน่าจะเนื่องมาจาก Christophe ซึ่งหลงรักเธอมาก อาจจะอยากเปิดเผยเรื่อง “โลกใบที่สอง” ให้ครอบครัวของเธอรู้ เพื่อให้เธอทิ้งครอบครัวมาอยู่กับเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอรับไม่ได้ จนนำไปสู่การลงมือฆาตกรรมในที่สุด
สุดท้ายแล้วศาลพิพากษาจำคุกเธอเป็นเวลา 20 ปี ซึ่งเธอก็ได้ยื่นอุทธรณ์นะคะ แต่ศาลอุทธรณ์กลับเพิ่มโทษให้เธอเป็น 23 ปีค่ะ
เรื่องราวของเธอไม่ได้จบลงเพียงเท่านี้นะคะ หลังจากถูกจำคุกไป เธอก็กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง ในปี 2015 เพราะเธอซึ่งขณะนั้นอายุ 37 ปี และผู้คุมอายุ 46 ปีเกิดตกหลุมรักกัน จนเธอตั้งท้อง ผู้คุมถึงขั้นเลิกกับภรรยาและทิ้งลูกๆ เพื่อมารักกับเธอ โดยพวกเขาได้จดทะเบียนเป็นคู่ชีวิตกันด้วยค่ะ
ในคดีใหม่นี้ ศาลได้ประกาศตั้งแต่เริ่มการพิจารณาคดีว่า ศาลไม่ได้จะตัดสินเรื่องความสัมพันธ์ต้องห้ามระหว่างเขากับเธอ แม้ว่าจะมีกฎห้ามผู้คุมมีความสัมพันธ์กับนักโทษก็ตาม
สิ่งที่อัยการส่งฟ้องศาล คือ การที่ไปค้นเจอโทรศัพท์มือถือในห้องขังของเธอ ทั้งที่นักโทษจะมีโทรศัพท์ใช้ไม่ได้ค่ะ อัยการคิดว่า ผู้คุมเป็นคนแอบเอาโทรศัพท์ไปให้เธอ เพื่อใช้ติดต่อกัน โดยมีการโทรหาและส่งข้อความหากันรวมแล้วถึง 17,000 ครั้งในช่วงเวลา 8 เดือน
1
การพิจารณาคดีนี้เป็นแบบ VDO Conference นะคะ โดย Liliane ให้การจากเรือนจำ ส่วนผู้คุมที่ต่อมาได้ลาออก ได้มาให้การต่อหน้าศาล
Liliane ให้การว่า เพื่อนนักโทษเอาโทรศัพท์มาให้เธอยืม
ส่วนผู้คุมก็บอกว่า เขายอมรับว่า เขาติดต่อกับเธอ แต่เขาไม่ได้เป็นคนนำโทรศัพท์ไปให้เธอ สิ่งเดียวที่เขาทำผิด คือ การตกหลุมรักผู้หญิงที่พิเศษสุดๆ
1
ไม่ว่าเขาและเธอจะให้การอย่างไร สุดท้ายแล้วศาลมีคำพิพากษาในเดือนกุมภาพันธ์ 2017 ตัดสินจำคุก Liliane เป็นเวลา 3 เดือน และจำคุกผู้คุม 3 เดือน เช่นกัน แต่ให้รอลงอาญาค่ะ
เรื่องราวของ Liliane Paolone ก็จบลงเพียงแค่นี้ค่ะ ฟังแล้วคิดเห็นอย่างไร ก็พิมพ์แลกเปลี่ยนความเห็นกันได้นะคะ
ใครที่อยากรับชมแบบเป็นคลิป สามารถตามไปที่ Link นี้ได้เลยนะคะ
สำหรับวันนี้ ขอลาไปด้วยคำกล่าวของ George Bernard Shaw นักเขียนบทละครชาวไอริช ที่ว่า
“บทลงโทษของคนโกหก ไม่ใช่แค่ ไม่มีใครเชื่อในคำพูดของเขาเท่านั้น
แต่เขาเองก็ไม่สามารถเชื่อใครได้เลย”
ขอบคุณสำหรับทุกการติดตาม สวัสดีค่ะ
โฆษณา