12 ก.ย. 2022 เวลา 06:16 • ความคิดเห็น
ผมไม่เห็นว่าจะมีการบริหารจัดการน้ำซักปี ไม่ว่าจะเป็นปีไหน? ปี 54 ที่อ้างว่าฝนตกเหนือเขื่อน พายุเข้าติดกัน 4-5 ลูก ทําให้ เขื่อนหลักต้องปล่อยนํ้าปริมาณมหาศาลลงมา และให้ชาวบ้านแถบชานเมือง อยุธยา ปทุมธานี รังสิตเป็นพื้นที่รับน้ำอ่วมอรทัย ส่วนแม่น้ำเจ้าพระยากับคลองอื่นที่เชื่อมต่อนํ้าก็เต็มพื้นที่ น้ำมันก็ไปไหนไม่ได้ แล้วทําไมไม่บริหารจัดการน้ำในเขื่อน และผันน้ำออกก่อน จะเก็บน้ำไว้เยอะๆทําไมมิทราบ คลองต่างๆก็ไม่ผันไปทางตะวันออกกลับส่งลงมา กทม.
ส่วน ปี65 ปริมาณน้ำฝนเยอะก็จริงแต่ก็เยอะไม่มาก แต่ถึงเยอะไม่เยอะ น้ำก็จะท่วมอยู่เสมอ แต่รูปแบบมันต่างจากปี 54 ที่มันเทมาจากเขื่อน แต่ปี65 มันรอระบาย ถ้ามีการบริหารจัดการที่ดี นํ้ามันคงไม่ค้างเพราะไปไหนไม่ได้ มันคงจะไปตามเส้นทางตามคลองที่ควรจะเป็น มีปั๊มน้ำทํางานตลอด 24 ช.ม และมีมากพอ แต่นี่มันกลับท่วมตลอดเวลาที่ฝนตก ประเวศ ลาดกระบัง ศรีนครินทร์ รังสิต แจ้งวัฒนะ รามคําแหง ห้วยขวาง รัชดา ขาประจำ
ผมว่าเราน่าจะมีรัฐมนตรีเรื่องนํ้า มี war room เรื่องนํ้าและเสนอเรื่องนํ้าเป็นวาระแห่งชาติได้แล้ว มีแผนการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการในระยะยาว แบบเนเธอร์แลนด์ ทําเขื่อนกั้น เจาะอุโมงค์ ทําอุโมงค์ยักษ์ยาวๆ ทําท่อระบายน้ำยักษ์ใต้กทม. ขุดลงไปซักกิโล ทําสถานีสูบนํ้ายักษ์ มัวแต่ใจเย็น ปล่อยให้ผู้ว่ารับศึกหนักคนเดียวไม่รอด ต่อไป กทม.และปริมณฑลจมบาดาลแน่นอน
โฆษณา