12 ก.ย. 2022 เวลา 11:31 • ข่าวรอบโลก
เปิดทรัพย์สมบัติ ควีนอลิซาเบธที่ 2
3
ล่าสุด!! มีการเปิดเผยว่า ทรัพย์สมบัติของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะตกทอดไปยังพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 กษัตริยพระองค์ใหม่กว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมถึงอสังหาริมทรัพย์มูลค่ามหาศาล
5
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงถือเป็นหนึ่งในพระมหากษัตริย์ที่มั่งคั่งที่สุดในโลก มีทรัพย์สมบัติมหาศาล รวมทั้งงานศิลปะ ปราสาท คฤหาสน์...
3
ทรัพย์สินส่วนใหญ่เหล่านี้ จะถูกส่งมอบให้แก่กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 กษัตริย์พระองค์ใหม่แห่งสหราชอาณาจักร ภายหลังการสิ้นพระชนม์ในวันที่ 8 กันยายน
4
แม้จะดูเรียบง่าย แต่ในความเป็นจริง
รายการทรัพย์สินของควีนอลิซาเบธ และสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระนางนั้นมีความสลับซับซ้อนในระดับหนึ่ง
3
โดยความมั่งคั่งส่วนใหญ่ที่เชื่อว่าเป็นของราชินี เป็นส่วนของของ Royal Company ซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งความมั่งคั่งของราชวงศ์ที่มีมูลค่า 28 พันล้านดอลลาร์ เรียกว่า "businesses" family
2
The Royal Company คือ กลุ่มสมาชิกอาวุโสของราชวงศ์วินด์เซอร์ ซึ่งเป็นแนวเดียวกันกับที่พระราชินีทรงเป็นประมุข พวกเขาร่วมกันดำเนินงานในหน่วยงานที่เรียกว่าอาณาจักรธุรกิจระดับโลก
5
ปราสาทBalmoral ที่ สก๊อตแลนด์
โดยสูบฉีดเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์เข้าสู่เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรในแต่ละปีผ่านกิจกรรมทางโทรทัศน์และการท่องเที่ยว
3
สมเด็จพระราชินีและสมาชิกในราชวงศ์อีก 7 คนเป็นสมาชิกของบริษัท รวมทั้งเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ (ปัจจุบันคือพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3) และสมเด็จพระราชินีคามิลลา เจ้าชายวิลเลียม และพระมเหสี เจ้าหญิงแอนน์ พระราชธิดาของพระราชินี กับเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด พระโอรสองค์สุดท้องของพระราชินี และพระชายา โซฟี เคานท์เตสแห่งเวสเซ็กซ์
8
ในปี 2564 มีการประเมินว่า.. ทรัพย์สินของบริษัท Royal Company มีมูลค่า 28 พันล้านดอลลาร์ อยู่ในรูปอสังหาริมทรัพย์ ที่ไม่สามารถขายได้
1
สิ่งที่โดดเด่นได้แก่ Crown Estate ซึ่งเป็น
- กลุ่มที่ดินและทรัพย์สินในสหราชอาณาจักรที่เป็นของราชินี มูลค่า 19.5 พันล้านดอลลาร์
- พระราชวังบักกิงแฮม มูลค่า 4.98 พันล้านดอลลาร์ - อาณาเขตของคอร์นวอลล์ มูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์
- อาณาเขตของแลงแคสเตอร์ มูลค่า 748 ล้านดอลลาร์
- พระราชวังเคนซิงตัน มูลค่า 630 ล้านดอลลาร์
10
ในปี 2564 มีการประเมินว่า.. ทรัพย์สินของบริษัท Royal Company มีมูลค่า 28 พันล้านดอลลาร์ในอสังหาริมทรัพย์ แต่ไม่สามารถขายได้
2
ในขณะที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สินที่เป็นของราชินี Crown Estate ดำเนินการโดยสภากึ่งอิสระ
3
นอกจากนี้ สมเด็จพระราชินียังมีความมั่งคั่งส่วนตัวประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามข้อมูลของ Forbes
4
รายได้ทางอื่นของพระราชินีมาจาก "กองทุนงบประมาณ" ที่เรียกว่า Sovereign Grant ซึ่งจ่าย "เงินเดือน" ให้กับสมาชิกของราชวงศ์อังกฤษทุกปี
3
กองทุนนี้มีรากฐานมาจากข้อตกลงภายใต้กษัตริย์จอร์จที่ 3 เมื่อเขาสละรายได้จากรัฐสภาอังกฤษเป็นเบี้ยเลี้ยงประจำปีคงที่สำหรับตัวเขาเองและคนรุ่นต่อๆ ไปในราชวงศ์ เรียกว่า Royal Allowance
8
เงินทุนดังกล่าวตั้งเป้าไว้ที่ราว 86 ล้านปอนด์ (เกือบ 99.5 ล้านดอลลาร์) ในปี 2564 และ 2565 เงินทุนนี้ใช้สำหรับการเดินทาง การบำรุงรักษาทรัพย์สิน และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานหรือการบำรุงรักษา พระราชวัง Buckingham ซึ่งเป็นที่ประทับของพระราชินี
9
แต่รายได้ของพระราชินีไม่ได้มาจากเงินบำเหน็จประจำปีเท่านั้น แต่ยังมาจากผลกำไรของบริษัทรอยัลอีกด้วย
6
เงินที่รัฐบาลจ่ายให้กับราชวงศ์ 📷 government.org.uk
เงินสำหรับบำเหน็จบำนาญหลวงก็ถูกดึงมาจากผลกำไรที่สร้างโดยคราวน์เอสเตทเช่นกัน
เงินช่วยเหลือยังใช้เพื่อจ่ายค่าใช้จ่ายอย่างเป็นทางการ เช่น เงินเดือนพนักงาน ความปลอดภัย การเดินทาง การดูแลทำความสะอาด หรือการบำรุงรักษา
อย่างไรก็ตาม รายได้ส่วนตัวของพระราชินี ในฐานะเป็นผู้ครองราชย์ จะมีการจ่ายผ่านกองทุนบำเหน็จบำนาญแยกต่างหากที่เรียกว่า Privy Purse
ซึ่งเงินส่วนนี้ ถือเป็นรายได้ส่วนตัว ที่มาจากสินทรัพย์ที่ดินของราชวงศ์ ที่เรียกว่าดัชชีแห่งคอร์นเวลล์ ที่มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิปัจจุบัน ราว 715 ล้านดอลลาร์ (รวมถึงที่ดิน 18,433 เฮกตาร์) ใน 23 มณฑล ซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย เพื่อการพาณิชย์ และการเกษตร
3
อนึ่ง เงินตรงนี้จะเป็นรายได้ส่วนพระองค์ของกษัตริย์อังกฤษปัจุบันด้วยค่ะ
ความมั่งคั่งส่วนพระองค์ของ Queen Elizabeth II ประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่มาจากการลงทุน คอลเลคชันงานศิลปะ เครื่องประดับ และอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงพระราชวัง คฤหาสน์ Sandringham และปราสาท Balmoral
5
สมเด็จพระราชินีอลืซาเบธ ยังได้รับมรดกเกือบ 70 ล้านดอลลาร์จากพระมารดาเมื่อเสด็จสวรรคตในปี 2545 รวมถึงการลงทุนในภาพวาด การสะสมแสตมป์ เครื่องถ้วยชาม เครื่องประดับ ม้า และไข่ Faberge หายาก .
4
ทรัพย์สินเหล่านี้จะถูกส่งต่อไปยังพระเจ้าชาร์ลที่ 3 ด้วย ส่วนอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนมูลค่า 28 พันล้านดอลลาร์ที่เหลือยังคงดำเนินการโดยผ่าน Royal Company
2
ที่สำคัญ
พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะไม่ต้องจ่าย "ภาษีมรดก"
ให้กับที่ดินของพระมารดา
8
เนื่องจากตามกฎหมายระบุว่า ..
"ทรัพย์สินที่ส่งต่อจาก..
พระมหากษัตริย์สู่พระมหากษัตริย์ได้รับการยกเว้น"
9
References
โฆษณา