13 ก.ย. 2022 เวลา 05:38 • ธุรกิจ
โครงการ SolarPlus จาก KBank ช่วยคนไทยลดค่าครองชีพ พร้อมขับเคลื่อนสู่สังคมสีเขียว - MarketThink
เมื่ออุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น 1 องศาเซลเซียส เรายังป่วย เป็นไข้ นอนซม ไม่สบายตัว
แต่หากโลกร้อนขึ้น 1.5 องศาเซลเซียส จะเกิดอะไรขึ้น ?
- 427 ล้านคน จะขาดอาหารและน้ำสะอาด
- 216 ล้านคน อาจต้องย้ายบ้าน
- ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 0.77 ม. ซึ่งกรุงเทพฯ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลเพียง 1.5 ม. เท่านั้น
- พืช 8% แมลง 6% และสัตว์มีกระดูกสันหลัง 4% จะไม่มีที่อยู่ และอาจต้องสูญพันธุ์
- แนวปะการังทั่วโลก อาจลดลงอีก 70-90%
- ประชากรโลกจะเผชิญกับคลื่นความร้อนสูง ถี่ และรุนแรงขึ้น จนอุปกรณ์ทำความเย็น จะกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า ในปี 2563 คนกรุงเทพฯ, นนทบุรี, ปทุมธานี และสมุทรปราการ มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือนของครัวเรือน อยู่ที่ 31,142 บาท
ซึ่งถือว่าสูงเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคอาเซียน รองจากสิงคโปร์
หากมาดูว่าตัวเลขค่าใช้จ่ายดังกล่าว มาจากไหนบ้าง
- ค่าอาหาร เครื่องดื่ม และยาสูบ 10,093 บาท
- ค่าที่อยู่อาศัย เครื่องแต่งบ้าน และเครื่องใช้ต่าง ๆ 7,239 บาท
- ค่าเดินทาง และการสื่อสาร 6,618 บาท
- ค่าไฟฟ้า 1,400 บาท
- ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ 5,792 บาท
จะเห็นว่ากรุงเทพฯ, นนทบุรี, ปทุมธานี และสมุทรปราการ ต้องจ่ายค่าไฟฟ้าเฉลี่ยที่ 1,400 บาทต่อเดือน หรือคิดเป็น 4.5% ของค่าใช้จ่ายในครัวเรือน
ยิ่งไปกว่านั้น เฉพาะในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ผลจากสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ทำให้ต้นทุนพลังงานทั่วโลกเพิ่มขึ้น รวมไปถึงต้นทุนของการผลิตไฟฟ้าที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน
ทำให้ในช่วงที่ผ่านมา ค่าไฟฟ้าปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อบวกกับผลกระทบจากโลกร้อน จะเห็นได้ว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมไม่ได้ไกลตัวอย่างที่คิด แต่มันมาเคาะประตูบ้านแล้ว !!!
จะดีกว่าไหม ถ้าเราสามารถประหยัดค่าไฟฟ้า ผ่านการติดตั้งโซลาร์รูฟ หรือแผงโซลาร์เซลล์ บนหลังคาบ้าน เพื่อเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ ให้กลายมาเป็นพลังงานไฟฟ้า ที่สำคัญการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์รูฟนั้น เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
แต่การติดตั้งโซลาร์รูฟ อาจไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะถ้าหากย้อนกลับไปเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว ใครที่คิดจะติดตั้งโซลาร์รูฟ อาจจะต้องเจอปัญหาน่าปวดหัวอยู่ไม่น้อย จนเกิดความลังเลว่าจะติดหรือไม่ติดดี ไม่ว่าจะเป็น
1
- ค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่ค่อนข้างสูง
- ระยะเวลาคืนทุนที่ค่อนข้างนาน
- ความยุ่งยากในการติดตั้ง
- ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่สูง
KBank ที่เชิญชวนคนไทย GO GREEN Together มาอย่างต่อเนื่อง
จึงจับมือกับพันธมิตรพัฒนาโครงการ SolarPlus ติดตั้งโซลาร์รูฟให้คนไทยแบบฟรี ๆ
เพื่อผลิตและขายไฟฟ้าจากบ้านเรือน เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อลดปัญหาโลกร้อน ไปพร้อม ๆ กับลดค่าครองชีพให้คนไทย
ตั้งเป้าหมาย ที่จะขยายการติดตั้งให้ได้มากกว่า 500,000 หลัง ทั่วประเทศ ภายใน 5 ปี
ที่น่าสนใจคือ เจ้าของบ้านไม่จำเป็นต้องเสียเงินค่าลงทุนติดตั้ง หรือเสียค่าบำรุงรักษาโซลาร์รูฟแต่อย่างใด เพราะมีผู้ลงทุนติดตั้งให้ โดยธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้ให้สินเชื่อแก่บริษัทผู้ลงทุน
แถมเจ้าของบ้านยังได้ประโยชน์ จากการลดค่าไฟฟ้าอีก 20% ในส่วนของการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์เซลล์ อีกด้วย
โครงการนี้ KBank ไม่เพียงเตรียมวงเงินสินเชื่อให้แก่ผู้ลงทุนกว่า 50,000 ล้านบาท เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ แต่ยังผนึกกำลังกับอีก 4 บริษัทชั้นนำของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น
1. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
2. บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม สมาร์ท โซลูชั่น จำกัด
3. บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
4. บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด
คำถามคือ KBank และพันธมิตรมีแผนที่จะเติมเต็มโครงการนี้ อย่างไรบ้าง ?
เริ่มจาก KBank ที่ไม่เพียงแต่จะเป็นผู้ริเริ่มโครงการ SolarPlus แต่เป็นผู้ให้สินเชื่อแก่บริษัทผู้ลงทุนเพื่อติดตั้งโซลาร์รูฟให้แก่ประชาชน โดยที่เจ้าของบ้านไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และรับซื้อไฟฟ้าทั้งหมดที่เหลือจากการใช้งานของบ้านที่ร่วมโครงการนี้ เพื่อนำมาใช้ในเครือธนาคารกสิกรไทย
ซึ่งถือเป็นหนึ่งกิจกรรมการใช้พลังงานสะอาดเพื่อเพิ่ม Carbon Handprint ให้กับองค์กร
ถัดมา บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม สมาร์ท โซลูชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ลงทุนที่ได้รับสินเชื่อจาก KBank
เพื่อใช้ลงทุนติดตั้งและบำรุงรักษาโซลาร์รูฟแบบครบวงจร ให้ลูกบ้านที่ร่วมโครงการได้ใช้พลังงานสะอาดโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
โดยกระแสไฟฟ้าที่เหลือจากการใช้งานในบ้านเรือน จะถูกจำหน่ายเข้าไปในระบบไฟฟ้าผ่านแพลตฟอร์ม Peer-to-Peer Energy Trading
ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายพลังงานไฟฟ้า ที่ผ่านการทดลองใช้งานจริงในโครงการ ERC Sandbox เฟส 1 มาแล้ว
ทั้งนี้แพลตฟอร์มดังกล่าว พัฒนาโดยทีมงานจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ที่นำโซลูชันและนวัตกรรมทางพลังงาน มาตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ไฟฟ้าในยุคดิจิทัล นั่นเอง
อีกหนึ่งพันธมิตรคือ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ที่จะมาช่วยเติมเต็มให้โครงการ SolarPlus ได้ทดลองใช้กับบ้านเรือนของประชาชนจริง ๆ
ประเดิมที่โครงการศุภาลัย การ์เด้นวิลล์ รังสิต คลอง 2 ซึ่งมีลูกบ้านเข้าอยู่แล้วเป็นจำนวนมาก และคาดว่าจะได้รับความสนใจจากลูกบ้านเป็นอย่างดี
ขณะที่บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด จะมาช่วยบริหารจัดการซื้อขายไฟฟ้าผ่านแพลตฟอร์ม Peer-to-Peer Energy Trading และสนับสนุนการเข้าถึงพลังงานสะอาด โดยจะให้บริการขึ้นทะเบียนอุปกรณ์ของโครงการพลังงานหมุนเวียน การซื้อขายใบรับรอง หรือ Renewable Energy Certificate (REC)
เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการภาคธุรกิจสามารถบรรลุเป้าหมายการใช้พลังงานสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทีนี้เราลองมาดูว่าโครงการ SolarPlus จะส่งผลดีต่อโลกของเรามากแค่ไหน ?
- ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้กว่า 2.3 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ (tCO2eq) ต่อปี
- ผลิตพลังงานสะอาดได้ประมาณ 4.5 ล้านเมกะวัตต์ต่อชั่วโมง (MWh)
- เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 240 ล้านต้นต่อปี
ในอนาคตโครงการ SolarPlus มีแผนขยายไปยังบ้านเรือนประชาชนทั่วประเทศได้มีโอกาสเข้าร่วม ดังนั้นหากใครสนใจต้องติดตามความคืบหน้าของโครงการให้ดี
ถึงตรงนี้ เราคงพอสรุปได้ว่า SolarPlus คืออีกหนึ่งโครงการชั้นดีของ KBank
ที่ไม่เพียงแต่จะช่วยลดค่าครองชีพให้กับคนไทย ยังเป็นการสนับสนุนให้คนไทยเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาด เพื่อก้าวสู่การเป็น Net Zero ตามเป้าหมายของประเทศ นั่นเอง..
โฆษณา