14 ก.ย. 2022 เวลา 11:14 • ประวัติศาสตร์
จุดจบของระบอบ "ซามูไร (Samurai)" อันมาจากอิทธิพลของตะวันตก
1
ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น คำว่า "ซามูไร (Samurai)" สื่อความหายถึงนักรบชั้นสูง ผู้ซึ่งอุทิศชีวิตให้แก่เจ้านายของตน
สำหรับซามูไร การเสื่อมเสียเกียรติคือสิ่งที่ยอมไม่ได้ ซามูไรจะยอมตายหากต้องเสื่อมเสียเกียรติ
ในยุคเซ็งโงกุ (Sengoku period) เมื่อราวปลายศตวรรษที่ 15-16 ซามูไรก็แผ่อำนาจไปทั่วประเทศ ก่อนจะค่อยๆ สิ้นสลายไปตามกาลเวลา ซึ่งตลอดช่วงเวลาจากนั้น ซามูไรก็ต้องพบกับความท้าทายต่างๆ ซึ่งมาพร้อมกับกาลเวลาที่เปลี่ยนไป
ซามูไรนั้นถือครองตำแหน่งสำคัญในกองทัพ และยังมีหน้าที่อื่นๆ อีกด้วย เช่น บางครั้งซามูไรก็ต้องช่วยในการเก็บเกี่ยวผลผลิตจากไร่นา และซามูไรบางคนก็มีตำแหน่งในทางราชการอีกด้วย
สถานะของซามูไรแต่ละคนนั้น ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและชาติตระกูล และซามูไรเหล่านี้ก็ได้รับผลประโยชน์ โดยขึ้นอยู่กับสถานที่ซึ่งซามูไรผู้นั้นเป็นใหญ่
เมื่อเป็นอย่างนี้ ก็ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำตามมา ซามูไรระดับกลางและระดับล่างก็อาจจะไม่ได้ผลประโยชน์มากนักและก็ไม่มีโอกาสที่จะถีบตัวเองขึ้นไปสู่สังคมที่สูงขึ้นได้
1
ในปีค.ศ.1853 (พ.ศ.2396) "แมททิว ซี เพอร์รี (Matthew C. Perry)" ทหารเรือแห่งกองทัพเรืออเมริกัน ได้ล่องเรือซึ่งเต็มไปด้วยอาวุธทั้งลำ ล่องเข้ามายังอ่าวโตเกียว
1
หากแต่จุดประสงค์ของเพอร์รีนั้นไม่ใช่การโจมตีญี่ปุ่น หากแต่ต้องการจะสร้างความสัมพันธ์ทางการค้ากับญี่ปุ่น
แมททิว ซี เพอร์รี (Matthew C. Perry)
จากเหตุการณ์นี้ ทำให้ญี่ปุ่นได้ถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่าย
ฝ่ายหนึ่งนั้นยินดีต้อนรับชาวตะวันตกที่เข้ามายังแผ่นดินญี่ปุ่น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือโชกุน "โทคุงาวะ อิเอโมจิ (Tokugawa Iemochi)" โชกุนจากตระกูลโทคุงาวะ ส่วนอีกฝ่ายก็คือกลุ่มที่ต่อต้านการเข้ามาของตะวันตก โดยหนึ่งในนั้น ก็คือ "จักรพรรดิโคเม (Emperor Kōmei)" พระประมุขแห่งญี่ปุ่น
รัฐบาลเอโดะได้ตัดสินใจจะเปิดท่าเรือให้ชาวอเริกันเข้ามา ไม่ฟังคำแนะนำขององค์จักรพรรดิ ซึ่งการตัดสินใจนี้ได้ทำให้ตระกูลซามูไรหลายตระกูลต่างไม่พอใจ และได้ร่วมกันต่อต้านชาวต่างชาติ พร้อมทั้งจะกอบกู้อำนาจของจักรพรรดิอีกครั้ง
รัฐบาลเอโดะก็ได้ทำการปราบปรามกลุ่มต่อต้าน หากแต่ในเวลาต่อมา กลุ่มที่สนับสนุนองค์จักรพรรดิก็เข้มแข็งมากขึ้น
โทคุงาวะ อิเอโมจิ (Tokugawa Iemochi)
ในเวลาต่อมา ผู้นำของทั้งสองฝ่ายก็ได้เสียชีวิตทั้งคู่ เปิดทางให้ "จักรพรรดิเมจิ (Emperor Meiji)" และโชกุน "โทคุงาวะ โยชิโนบุ (Tokugawa Yoshinobu)" ขึ้นสู่อำนาจ
1
หากแต่โชกุนคนใหม่ก็ตัดสินใจจะถวายอำนาจให้องค์จักรพรรดิ โดยมีความหวังว่าการทำเช่นนี้จะทำให้ระบอบการปกครองใหม่รุ่งเรืองขึ้นมาได้
หากแต่กลุ่มผู้สนับสนุนราชวงศ์ก็ไม่ได้ไว้ใจโชกุนคนใหม่ และได้ทำการถอดถอนโชกุนโยชิโนบุและตระกูลออกจากตำแหน่งสำคัญ
โชกุนโยชิโนบุก็พยายามจะกู้อำนาจของตนกลับคืนมา และในวันที่ 3 มกราคม ค.ศ.1867 (พ.ศ.2410)" องค์จักรพรรดิและกองทัพก็ได้ทำรัฐประหาร ทำให้ญี่ปุ่นเข้าสู่ยุคเมจิ (Meiji era)
2
จักรพรรดิเมจิ (Emperor Meiji)
ความขัดแย้งนี้ทำให้กองทัพขององค์จักรพรรดิปะทะกับกองทัพโชกุนซึ่งสนับสนุนตะวันตก ซึ่งถึงแม้กองทัพโชกุนจะมีจำนวนมากกว่า หากแต่กองทัพจักรพรรดิก็สามารถคว้าชัยได้ในยุทธการฮาโกดาเตะ (Battle of Hakodate)
7 เมษายน ค.ศ.1868 (พ.ศ.2411) จักรพรรดิเมจิได้ทรงประกาศกฎบัตรคำปฏิญาณ (Charter of Oath) โดยหนึ่งในเนื้อหานั้น คือการที่พระองค์ทรงสนับสนุนการเปิดประตูญี่ปุ่นสู่โลกภายนอก รวมทั้งการยกเลิกสถานะทางสังคม
1
ญี่ปุ่นได้ก้าวไปสู่ทิศทางใหม่ โดยจุดประสงค์หลักๆ คือการทำให้ประเทศพัฒนาเข้าสู่ยุคสมัยใหม่และทำลายระบอบเก่า หากแต่ว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ก็คือชนชั้นซามูไร ซึ่งสูญเสียผลประโยชน์มหาศาล
รัฐบาลต้องการจะรวมอำนาจมาไว้ยังศูนย์กลาง ซึ่งผลที่ตามมา ก็ทำให้กลุ่ม "ไดเมียว (Daimyo)" ถูกขจัดออกไป และดินแดนต่างๆ ก็กลายเป็นมณฑล จังหวัด
ซามูไรสูญเสียผลประโยชน์มหาศาล ต้องสูญเสียการผูกขาดหลายๆ อย่างในกองทัพ และก็มีกฎที่กำหนดให้บุรุษทุกคนต้องเกณฑ์ทหาร เข้ารับใช้กองทัพเป็นเวลาสามปี
อีกทั้งยังมีกฎที่สั่งห้ามซามูไรพกดาบ ซึ่งที่ผ่านมานั้น ตั้งแต่ค.ศ.1588 (พ.ศ.2131) ซามูไรสามารถพกพาดาบได้อย่างอิสระ หากแต่ดูเหมือนในเวลานี้ รัฐบาลได้พยายามจะลดบทบาทของซามูไรลงเรื่อยๆ
2
ซามูไรต่างเหลือทน ซามูไรหลายนายก็กล่าวว่าตนนั้นไม่น่าสนับสนุนองค์จักรพรรดิตั้งแต่แรกเลย ในเวลานี้ รัฐบาลล้วนแต่ปฏิรูปตามแบบตะวันตก ซึ่งนี่คือสิ่งที่เหล่าซามูไรหวาดเกรง
3
การปรับตัวสู่สมัยใหม่โดยมีแบบอย่างมาจากตะวันตก ทำให้ซามูไรไม่มีที่ยืนในสังคม
ตระกูลชิมาซุ (Shimazu) ซึ่งปกครองแคว้นซัตสึมะ คือหนึ่งในกลุ่มที่ทำให้จักรพรรดิกลับมาเรืองอำนาจอีกครั้ง หากแต่ในปีค.ศ.1877 (พ.ศ.2420) ซามูไรจากตระกูลนี้ก็ตั้งใจที่จะหยุดยั้งการกระทำของรัฐบาลและปกป้องผลประโยชน์ของตน
มีการจับกลุ่มกัน เกิดเป็นกลุ่มกบฏที่นำโดย "ไซโงะ ทาคาโมริ (Saigō Takamori)” อดีตแม่ทัพขององค์จักรพรรดิ
ไซโงะ ทาคาโมริ (Saigō Takamori)
กลุ่มกบฏนำกำลังปิดล้อมจังหวัดคุมาโมโตะ หากแต่นี่คือหนึ่งในความผิดพลาด และนำไปสู่จุดจบของกองทัพซามูไร
ผลของสงครามจบลงด้วยการที่กองทัพขององค์จักรพรรดิได้ทำการล้อมกองทัพของไซโงะ และทำให้ไซโงะตัดสินใจจบชีวิตตัวเองด้วยการคว้านท้อง
การฆ่าตัวตายของไซโงะ ถูกเรียกว่าเป็นการตายของหนึ่งใน "ซามูไรที่แท้จริง" และนำมาสู่จุดจบของซามูไรในญี่ปุ่น
หลังจากนั้น ซามูไรก็ได้สิ้นสลายไปพร้อมกับการเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ของญี่ปุ่น เหลือเพียงแค่ในประวัติศาสตร์เท่านั้น
โฆษณา