19 ก.ย. 2022 เวลา 07:00 • ธุรกิจ
การยืนยันตัวตนลูกค้าสามารถทำได้ในหลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับเป้าหมาย และโจทย์ทางธุรกิจ รวมถึงกฎหมาย และข้อบังคับต่างๆ วันนี้ AI GEN จะพามารู้จักกับ 6 รูปแบบที่ธุรกิจสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการยืนยันตัวตนลูกค้าได้
1. การยืนยันตัวตนด้วย Knowledge-Based
การยืนยันตัวตนด้วย Knowledge-Based นั้นเป็นการยืนยันตัวตนของบุคคลโดยกำหนดให้ต้องมีการตอบคำถามเพื่อความปลอดภัย โดยคำถามเหล่านั้นจะถูกออกแบบมาให้ง่ายสำหรับการตอบของบุคคลคนนั้น แต่ยากที่ทุกคนจะตอบคำถามเหล่านี้ได้
ตัวอย่างเช่น คุณมีสัตว์เลี้ยงทั้งหมดกี่ตัว? หรือ อาจารย์คนโปรดของคุณคือใคร? และสิ่งที่เพิ่มเติมสำหรับการยืนยันตัวตนด้วย Knowledge-Based นั้นมักจะกำหนดให้ตอบคำถามภายในเวลาที่จำกัด ประโยชน์ของการใช้การยืนยันตัวตนด้วย Knowledge-Based ที่เห็นได้ชัดที่สุด คือเป็นวิธีการยืนยันตัวตนที่ง่ายที่สุดที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจได้ ส่วนข้อเสียที่เห็นได้ชัดคือสามารถหาข้อมูลคำตอบได้ง่ายผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ และช่องทางการสื่อสารในรูปแบบอื่นๆ
2. การยืนยันตนเอง 2 ขั้นตอน หรือ Two-Factor Authentication
การยืนยันตนเอง 2 ขั้นตอน หรือการรับรองความถูกต้องโดยใช้หลายปัจจัย (Multi-Factor Authentication)กำหนดให้ผู้ใช้งาน หรือลูกค้าต้องใส่โค้ดที่ผู้ให้บริการส่งไปให้ทางอีเมล์ หรือโทรศัพท์มือถือ วิธีการยืนยันตัวตนในรูปแบบนี้เป็นวิธีปกติที่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป และเป็นวิธีที่ง่ายสำหรับลูกค้าที่จะใช้งาน การนำ 2FA หรือ MFA มาใช้งานนั้นทำให้ธุรกิจสามารถยืนยันตัวตนลูกค้าได้โดยใช้อีเมล์ และเบอร์โทรศัพท์ โดยเป็นเรื่องสำคัญที่ธุรกิจจะต้องแน่ใจว่าลูกค้ากรอกข้อมูลมาให้อย่างถูกต้อง
Two-factor หรือ Muti-factor นั้นกำหนดให้ผู้ใช้ต้องระบุรูปแบบการระบุ หรือยืนยันตัวตน หรือที่เรียกว่า Token นอกเหนือจากการใช้ชื่อผู้ใช้งาน และรหัสผ่านปกติก่อนจึงจะสามารถเข้าถึงบัญชีได้ โดย Token จะต้องเป็นข้อมูลบางอย่างที่ผู้ใช้งานสามารถจดจำได้ หรือมีอยู่ในครอบครอง
เช่น โค้ดที่ได้รับจาก authentication agency การนำ Token มาใช้งานจะสร้างเครื่องมือป้องกันอันทรงพลังเพื่อป้องกันธุรกรรมการฉ้อโกงได้ การยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอนมักจะเป็นประโยชน์ในการใช้สร้างบัญชีผู้ใช้งาน และตั้งค่ารหัสผ่านใหม่ อย่างไรก็ตามวิธีนี้กำหนดให้ผู้ใช้งานจำเป็นต้องมีโทรศัพท์มือถือไว้อยู่กับตัวในช่วงขั้นตอนการยืนยันตัวตน
3. การยืนยันตัวตนโดยใช้ Credit bureau (Credit Bureau-Based Authentication)
การใช้ข้อมูล Credit bureau ในการยืนยันตัวตนจะใช้ข้อมูลอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือมากกว่านั้นจาก Credit bureau โดย Credit bereau จะเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเครดิตทางการเงินของลูกค้าไว้เป็นจำนวนมาก รวมถึงที่อยู่ และหมายเลขประกันสังคม โดย Credit bereau ในการยืนยันตัวตนจะใช้คะแนนเพื่อสร้างการจับคู่ที่ชัดเจนโดยไม่กระทบต่อประสบการณ์ของผู้ใช้งาน อย่างไรก็ตามวิธีการนี้อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ยังไม่ค่อยมีหลักฐานเครดิตทางการเงิน เช่น คนที่มีอายุน้อย หรือผู้ที่เพิ่งอพยพมาอยู่ที่ประเทศนั้น
4. การใช้ฐานข้อมูลในการยืนยันตัวตน
วิธีการใช้ฐานข้อมูลในการยืนยันตัวตนนั้นจะใช้ข้อมูลจากหลากหลายแหล่งข้อมูลเพื่อยืนยันบัตรประชาชนของแต่ละบุคคลได้ วิธีการนี้มักจะใช้เพื่อประเมินระดับความเสี่ยงที่ผู้ใช้มี เนื่องจากช่วยลดความจำเป็นที่ต้องใช้เจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบได้อย่างมาก ข้อเสียที่เห็นได้ชัดของวิธีการนี้ คือธุรกิจไม่สามารถมั่นใจได้ว่าบุคคลที่เป็นคนให้ข้อมูลนั้นเป็นคนเดียวกับบุคคลที่ได้ทำธุรกรรม ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการเพิ่มขึ้นของข้อมูลตัวตนที่เป็นเท็จในโลกออนไลน์
5. การยืนยันตัวตนออนไลน์
การยืนยันตัวตนออนไลน์ใช้เทคโนโลยีเป็นตัวตัดสินว่าข้อมูลเอกสารที่ทางรัฐเป็นคนออกให้นั้นมีความเกี่ยวข้องกับบุคคลคนนั้นหรือไม่ โดยนำเทคโนโลยี AI, computer vision และการใช้คนในการตรวจสอบ วิธีการยืนยันตัวตนนี้มักจะกำหนดให้ผู้ใช้งานถ่ายรูปตัวเองที่ถือบัตรประชาชนอยู่ เพื่อเป็นการยืนยันว่าบุคคลที่อยู่ในบัตรประชาชน กับบุคคลที่ถือบัตรประชาชนอยู่นั้นเป็นบุคคลคนเดียวกัน โดยวิธีการยืนยันตัวตนออนไลน์นั้นถือเป็นวิธีการที่ปลอดภัยมากวิธีหนึ่ง
แต่ในมุมมองของผู้ใช้งานบางรายอาจจะมองว่าการส่งรูปเอกสาร และการถ่ายรูปตัวเองเป็นเรื่องที่ไม่สะดวก และเป็นการรุกล้ำส่วนบุคคล จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้ผู้ใช้งานส่วนใหญ่คุ้นเคยกับการใช้สมาร์ทโฟนอยู่แล้วน่าจะทำให้มุมมองเหล่านี้ลดลงไปได้มาก อีกทั้งการยืนยันตัวตนออนไลน์ยังช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างมากอีกด้วย
6. การยืนยันตัวตนโดยใช้อัตลักษณ์ (ฺBiometrics)
อัตลักษณ์สามารถนำมาใช้ในการระบุ และยืนยันตัวตนโดยใช้ลักษณะทางกายภาพของแต่ละบุคคล เทคโนโลยี biometrics ได้แก่ Facial recognition หรือระบบการรู้จำใบหน้า, Voice recognition หรือระบบการรู้จำเสียง, การอ่านม่านตา และการแสกนลายนิ้วมือ วิธีการเหล่านี้อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างมากเนื่องจากไม่จำเป็นต้องมีการจดจำรหัสผ่านต่างๆ หรือคำถามที่จำเป็นต้องตอบ
Think AI Think AI GEN
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ลิงค์ : https://bit.ly/3xmJuAx
ผู้ที่สนใจเกี่ยวกับการนำโซลูชัน AI ไปใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับธุรกิจ
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AI GEN ได้ที่
· Facebook : AI GEN : ไอเจ็น
· Line : @aigen
โฆษณา