14 ก.ย. 2022 เวลา 10:47 • กีฬา
#เห็นอย่างไร.....เขียนอย่างนั้น
หลังเกมเปิดแอนฟิลด์เฉือน อาแจ็กซ์ 2-1
🌿 เยอร์เก้น คล็อปป์ จัดทัพโดยเปลี่ยนผู้เล่นจากเกมที่พ่าย นาโปลี 4-1 เมื่อสัปดาห์ ที่แล้ว 4 ตำแหน่งด้วยกัน มาติป ยืน CB แทน โกเมซ, ซิมิกาส เล่นแทน โรเบิร์ตสัน, ติอาโก้ แทน มิลเนอร์ และ โซต้า ยืนศูนย์หน้า แทน ฟีร์มีโน่
🌿 วันนี้ ลิเวอร์พูล เริ่มเกมด้วยการทำเกมครองบอลเข้าทำผู้มาเยือนทันที มีจังหวะไล่เพรสให้เห็นอยู่ตลอด ดูเริ่มต้นด้วยการเล่นกันอย่างมีชีวิตชีวาอีกครั้งสำหรับพลพรรคหงส์แดง ซึ่งแตกต่างไปจากเกมพบนาโปลี อย่างสิ้นเชิง
🌿 ประตูแรกของ ลิเวอร์พูล ก็มาบังเกิดในนามีที่ 17 เรียกได้ว่าเป็นการเข้าทำทีดี เริ่มต้นจากบอลยาวของ อลิสซง ให้ ดิอาซ โหม่งต่อให้ ดิโอโก้ โซต้า ถวายพานให้ ซาลาห์ ยิงเข้าไป ซึ่งลูกเปิดยาวจาก อลิสซง จนกระทั่งเป็นประตู น่าจะหายไปนานวันนี้ เรากลับมาทำได้อีกครั้ง
ประตูแรกโดย ซาลาห์
🌿 แม้ ลิเวอร์พูลจะได้ประตูแรกไปแล้ว แต่ยังคงเดินหน้าบุกใส่ อาแจ็กซ์ อย่างต่อเนื่อง มีโอกาสที่ได้ประตูที่สอง อยู่ 2 ครั้งด้วยกันที่มีโอกาสแบบจะโคลน ทว่าเปลี่ยนเป็นสกอร์ไม่ได้
🌿 เมื่อโอกาสมีแต่ปิดไม่ได้ อาแจ็กซ์ ก็มาได้ประตูตีเสมอ ในนาที่ 27 จากการเจาะพื้นที่ทางขวาของ ลิเวอร์พูล ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ที่เปราะปรางของทีมไปแล้วในเวลานี้
โดยปกติเดิมที เทรนด์ อาโนลด์ เติมเกมรุกสูงอยู่แล้ว แต่จะมีมิดฟิลด์อย่าง เฮนโด้ มาช่วยโคฟเวอร์ เกมรับให้เวบาโดนสวน เมื่อเป็น เอลเลียตต์ ก็ต้องยอมรับว่าโดยธรรมขาติแล้วไม่ใช่นักเตะที่จะเล่นเกมรับได้ดี นั่นทำใหเราเห็นพื้นที่ฝั่งนี้โดนคู่แข่งเจาะอยู่เนืองๆ ทุกเกมไปแล้ว เข่นเดียวกับจังหวะนี้ กอปรกับ โมฮัมเหม็ด คูดุส ผู้ยิงประตูยิงได้แบบหมดสิทธิ์ป้องกันสำหรับ อลิสซง
🌿 เมื่อเสียประตูตีเสมอให้คู่แข่ง ลิเวอร์พูล ก็ยังคงดาหน้าบุกใส่ มีโอกาสเข้าทำในช่วงก่อนหมดเวลาครึ่งแรกอยู่หลายครั้งที่จะได้ประตู ทว่าดันยิงไม่ดียิงไปตรงตัวผู้รักษาประตูเป็นส่วนใหญ่
🌿 นาทีที่ 66 คล็อปป์ ปรับหมากด้วยการส่ง ฟีร์มีโน่ มาเล่นแทน เอลเลียตต์ และ ณูนเญซ แทน ดิโอโก้ โซต้า วันนี้ต้องบอกว่า โซต้า เล่นได้ดีมากในครึ่งแรก แต่ในครึ่งหลังเริ่มหายไปจากเกมก็น่าจะเป็นเพราะว่า ร้างสนามไปนานยังเรียกความฟิตไม่ถึง 100
🌿 หลังจากนั้นก็ยัวเป็น ลิเวอร์พูล ที่ได้บุกเป็นส่วนใหญ่ แต่ดูเหมือนการเข้าทำจะเบาลงไปจากเดิม ทางผู้มาเยือนก็คอยหาจังหวะสวนกลับ จนแอนฟิลด์เกือบจะแตกในช่วงท้ายเกม เมื่อ ดาลี่ย์ บิลด์ โหม่งหลุดเสาสองออกไปอย่างหวุดหงิด
🌿 และแล้วท้ายที่สุดความพยามของ ลิเวอร์พูล ก็มาบรรลุผลในนามีที่ 87 ในจังหวะเตะมุมด้านซ้ายที่ ซิมิกาส เปิดมา มาติป โหม่งเข้าไปเป็นประตูชัย ซึ่งเป็นเตะมุมครั้งที่ 10 พอดิบพอดีในเกมนี้ของ ลิเวอร์พูล โดยเราจะเห็นได้ว่า 9 ครั้งก่อนหน้านี้ ลิเวอร์พูล แทบจะชิงจังหวะขึ้นเล่นในการเตะมุมก่อน อาแจ็กซ์ ได้ทุกครั้ง เกือบจะได้ประตูอยู่หลายหน ในที่สุดก็สำเร็จจนได้
จังหวะขึ้นโหม่งประตูชัยของ มาติป
🌿 สิ่งที่ชอบในเกมนี้คือ จังหวะต่างๆของ ลิเวอร์พูลเริ่มกลับมา เมื่อมี ติอาโก้ จังหวะแดนกลางดูลื่นขึ้น อย่างชัดเจน ซึ่งผมขอยืนยันคำเดิม ว่าแดนกบางคือห้องเครื่องเสมือนหัวใจของระบบที่ ลิเวอร์พูลเล่น ทุกวันนี้ เพราะต้องคอย โคฟเวอร์ ทั้งเกมรุกและรับ
ติอาโก้ อคันทาร่า ฟอร์มสวยๆในเกมนี้
ชัยชนะทิ้งท้ายก่อนจะพักเบรกยาวให้โปรแกรมทีมชาติ พอจะทำให้สาวกหงส์แดงอุ่นในหัวใจได้บ้าง หากประตูในนาทีที่ 87 ไม่เกิดขึ้น มิเช่นนั้นคงทำให้พักเบรกไปแบบรู้สึกวังเวงยังไงชอบกล
พักให้เต็มที่แล้วเรากลับมาลุยกันต่อ 1 ตุลาคม เปิดแอนฟิลด์ พบ ไบรท์ตัน
❤️You "ll never walk alone ❤️
🖌️Klopper
14.09.2022
ให้ภาพเล่าถึงอารมณ์สีหน้าแต่บะคนเมื่อยิงประตูชัย
โฆษณา