รากุ คืออะไร?
หากย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 450 ปีก่อน ในยุคที่ญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลการดื่มชาจากพระในศาสนาพุทธ นิกายเซ็น ประเทศจีน ที่มีปรัชญาว่าด้วยความเรียบง่าย สมถะ เคร่งครัด จึงได้รับการตอบรับจากเหล่าซามูไรในญี่ปุ่นที่เบื่อหน่ายชนชั้นสูงผู้ใช้ชีวิตหรูหรา
หลังจากการยึดอำนาจในญี่ปุ่นของกลุ่มซามูไร นิกายเซ็นจึงมีอิทธิพลในประเทศอย่างกว้างขวาง ส่งต่อมายังพิธีชงชาที่ทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์ร่วมกับกับผู้คนในสังคมที่หลากหลาย จึงเป็นการลดช่องว่างภายในสังคมและการเมือง
จากถ้วยชาที่หรูหรา แปรเปลี่ยนเป็นถ้วยชาที่ถูกขึ้นรูปด้วยมือ ให้ความรู้สึกอันเป็นธรรมชาติ ผ่านกรรมวิธีการเผาด้วยไฟต่ำและนำชิ้นงานออกจากเตาขณะที่ยังร้อนแดงให้เย็นลงอย่างรวดเร็ว เคลือบสีบนถ้วยชาแบบโมโนโครม ที่เน้นความงามแบบเรียบง่ายถ่อมตน และเป็นธรรมชาติ สืบทอดต่อกันมาจนถึงขุนพลนามว่า ฮิเดโยชิ ผู้ได้รับดวงตราประจำตระกูล ‘รากุ’ อันหมายถึง ความปิติ ชื่นชม จึงเกิดการส่งต่อภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่นภายในคนตระกูลรากุ
จนเข้าสู่ ค.ศ. 1920-1925 ศิลปินนักปั้นชาวอังกฤษ เบอร์นาร์ด ลีช ได้มีอากาสเห็นกลุ่มศิลปินช่างปั้นในญี่ปุ่นร่วมกันเผางานรากุ จึงได้นำกลับมาผลิตและเผยแพร่ให้ชาวตะวันตกได้รับรู้ หลังจากนั้นศิลปินชาวอเมริกัน พอล โซล์ดเนอร์ได้นำเทคนิคนี้มาทดลองต่อยอดด้วยการนำชิ้นงานออกจากเตาเมื่อยังร้อน และใส่วัสดุเชื้อเพลิงที่ติดไฟง่าย แล้วปิดฝา เพื่อสร้างพื้นผิวของชิ้นงานให้ดูแตกต่าง แปลกใหม่ ทำให้การเผารากุแบบใหม่นี้ เป็นความท้าทาย น่าตื่นเต้น จึงเป็นที่นิยม และแพร่หลายออกสู่ทั่วโลกมากขึ้น
ร่องรอยความงามแห่งรากุ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
