14 ก.ย. 2022 เวลา 16:05 • ความคิดเห็น
ถ้าจะตอบแบบไม่เป็นอจินไตย มันก็เป็นคําถามคลายทุกข์ไงละครับ เกิดจากคนถามไม่พอใจในสภาพทุกข์ของตนเอง ไม่เข้าใจว่าทุกข์คืออะไร ทําไมถึงทุกข์ ถ้าเราไม่ทุกข์ เราได้ในสิ่งที่ต้องการ เรารํ่ารวยเงินทอง เราสุขสบายทุกอย่าง เราจะถามคำถามนี้ไปทําไม? เราก็อยู่ของเราไปเรื่อยๆก็ดีอยู่แล้วแต่เราจะเปลี่ยนคําถามไปเป็นว่า ทําไงเราถึงไม่ตาย? ความตายคืออะไร? เพราะคําถามทั้งสองรูปแบบทั้งเกิดทั้งตาย มันก็คือการไม่เข้าใจทุกข์ ต้องการรักษายึดมั่นถือมั่นในตัวตนให้คงอยู่ชั่วนิรันดร์ สิ่งเหล่านี้พระพุทธเจ้าเรียกว่า อวิชชา
ส่วนใหญ่คนที่มาตอบมีหลายรูปแบบมาก และตอบไปตามแรงขับภายใต้กิเลสตัณหาแต่ละคนที่ไม่เท่ากัน เราแต่ละคนสร้างคุณค่าของอะไรบางอย่างขึ้นมาเพื่อที่จะทําให้เรามีชีวิตอยู่ได้ตามคุณค่านั้นๆกลายเป็นความยึดมั่นถือมั่น เป็นค่านิยมส่วนตัว ค่านิยมทางสังคม เป้าหมายภาระกิจ ความสําเร็จ ความสุข ความพอใจในอะไรบางอย่างก็ว่ากันไป เราจึงเกิดมาเพื่อตอบสนองความต้องการในสิ่งนั้น นั่นคือคําตอบที่เพียงพอแล้วพอเราฟังแล้วเราสบายใจ มีกําลังใจ คลายความทุกข์ลงไปได้ จะทําให้เรามีชีวิตอย่างมีคุณค่าในโลกใบนี้ต่อไปได้อย่างมีความสุข
1
ส่วนคําตอบในเชิงอจินไตย คนที่เขาต้องการทราบจริงๆว่าสาเหตุที่มีการเกิดขึ้น ไม่ใช่แค่มนุษย์เท่านั้น รวมถึงทุกอย่างที่เป็นสังขารปรุงแต่งมันเกิดมาได้อย่างไร เกิดมาเพราะอะไร? คนที่ต้องการคําตอบที่แท้จริง ต้องการเข้าใจจริงๆต้องเขาจะไม่ถาม เพราะถามไปก็ไม่มีคําตอบให้ แต่เขาจะหาคําตอบ
ด้วยการเจริญสติสมาธิภาวนา ศึกษาทั้งปริยัติและปฏิบัติควบคู่กันไปจนถึงจุดหนึ่งที่เริ่มจะเห็นรางๆแล้ว ตามความหมายที่พระพุทธเจ้าบอกว่ามีสาเหตุมาจากอวิชชา ซึ่งความหมายนี้มันลึกซึ้งมากเกินกว่าจะเข้าใจโดยใช้ปัญญาทางโลกมาเข้าใจได้
1
ดังนั้นจึงต้องพิจารณาดูเจตนา ในการถามว่าต้องการอะไร? ถ้าเขามีความทุกข์ก็ต้องตอบในเชิงคลายทุกข์ และเพิ่มสติปัญญาในการแก้ปัญหาและทําความเข้าใจโลกให้มากยิ่งขึ้น หรือตอบเพื่อสนองความพอใจ ส่วนคนที่ต้องการรู้จริงๆให้ไปปฏิบัติธรรม หรือบวชเรียนหรือถามหลวงพ่อเอา เพราะคนรู้จริงจะไม่มาตอบในนี้ ส่วนคนที่มาตอบในนี้รวมถึงผมด้วย ตอบไปตามกิเลสและความคิดของตัวเอง ยังไม่ได้บรรลุแต่อย่างใด
โฆษณา