• การเข้าสู่ช่วง era เรื่องราวใหม่คราวนี้จะมองว่ามันเป็นแรงกดดันจากการที่ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งก็คงใช่ว่าครั้งนี้มันจะอัพเกรดขึ้นหรือถอยหลังลงไปเรื่อยๆ พูดให้เชื่อเลยแล้วกันว่าพอรู้เรื่องที่จะคัมแบ็คเส้นเรื่องใหม่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรสูงอยู่แล้วด้วยเพราะผลงานที่ผ่านมามันก็ประจักษ์สายตาและหูตัวเองซะจนไม่รู้สึกตื่นเต้นห่าเหวอะไรไปเลย ใครจะมองเรื่องการเติบโตในด้านฐานแฟนคลับทั่วโลกที่มากขึ้นก็ช่างประไร
เพราะส่วนตัวตัดทางโลกตรงนั้นออกก็ยังให้ความคิดเดิมว่ามันไร้ซึ่งความตื่นเต้นเหมือนแต่ก่อนแล้ว ส่วนที่รู้สึกพอยิ้มออกมาได้ในฐานะแฟนคลับที่ตามมานานคงเป็นการพากันเข็นอีพีอัลบั้มตัวนี้ขึ้นเปิดตัวอันดับ #3 บนชาร์ต Billboard 200 ในวีคเดียวกันกับตัวแม่ผู้ทรงอิทธิพลอย่าง Beyoncé ที่รู้อยู่แก่ใจว่าให้ตายก็สู้เจ๊แกไม่ได้อยู่แล้วแต่ก็พอให้มีพื้นที่สื่อจากฝั่งโน้นได้พูดถึงผ่านๆ เห็นการเติบโตในด้านกระแสที่ก้าวกระโดดมากขึ้นอีกหนึ่งขั้น
Answer | TREASURE EPILOGUE : Action To Answer (2020)
• THE WORLD ในชื่อไตรภาคใหม่คราวนี้ที่กลับมามองสภาพแวดล้อมรอบตัวที่มันเริ่มชักจะไม่ใช่ในสิ่งที่เราคาดหวังเอาไว้สูงอีกต่อไป เป็นการดำเนินเรื่องราวที่มีความผสมผสานของ dystopia-cyperpunk สอกแทรกในการเล่าเรื่องโดยยังคงมีปริศนาไอ้เจ้าหน้ากากชุดสูทสีขาวลอยหน้าลอยตาอยู่ในเรื่องราวของเอทีซ จะว่าคนๆนี้เปรียบเสมือนพระเจ้าซัมติงสักอย่างที่ลงมาสำรวจดูโลกมนุษย์ในแต่ละยุคก็คงพูดได้ไม่เต็มปากว่ามันถูกต้องเป็นแน่แท้
ที่คาดเดาได้ว่าน่าจะเป็นพระเจ้าเพราะช่วง ending ในเอ็มวี I’m the one ที่ต้นไม้โดนไฟเผามันก็สอดคล้องกับตำนาน adam & eve อยู่เป็นนัยยะแฝงเล็กน้อย แม้ว่าตอนนี้ในปลายทางมันจะยังเป็นปริศนาว่าบุคคลนี้มีตัวตนที่แท้จริงแบบไหนแต่มันก็พอเป็นหนึ่งจุดที่ยังคงรั้งให้คนอยบากติดตามและหาคำตอบไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึงตอนจบ
• ในบทย่อยแรกของ THE WORLD กับการใช้ชื่อพาร์ทนี้ว่า MOVEMENT ถือว่าเป็นการเปิดฉากเรื่องราวที่พอเค้าความเป็นไปได้และแอบสอดคล้องกับความเป็นจริงอยู่ไม่มากก็น้อยแหละ แม้ว่าจะดูข้ามขั้นตอนของการแสดงจุดยืนซึ่งมันเป็นสิ่งที่ควรจะเป็นจุดตั้งต้นในอันดับแรกก็ตาม แต่คิดว่าตรงส่วนนี้คงได้มัดรวมอยู่ใน trailer ที่เป็นการประกาศศักดิ์ดาจุดยืนตัวเองว่าพร้อมจะออกมาเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้
• THE RING บีทกับการดีไซน์ทุ้มๆโชว์ powerful ผสมกับ auto-tune ให้ดูมี layer พร้อมไฟท์มากับเนื้อหาและชื่อแทร็คที่เดาได้เลยว่าต้องได้รับ inspired จากภาพยนตร์แฟนตาซีในตำนานอย่าง The Lord of the Ring เป็นแน่แท้ เล่นกับการเกิดสงครามการชิงแหวนต่างๆที่พร้อมต่อสู้และเป็นโล่ป้องกันในคราวเดียวกันเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกให้กลับคืนสู่สภาวะแห่งความสงบและอิสรภาพ
• NEW WORLD แทร็คปิดบทเริ่มต้นที่แอบเป็นทั้งบทสรุปกรายๆแบบปลายปิดแต่ในขณะเดียวกันมันก็ยังคงเป็นปลายเปิดไปสู่บทต่อไปของเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงโลกด้วยเช่นกัน แทร็คที่เต็มไปด้วยพลังแห่งความหวังปลายอุโมงค์ว่าโลกใบใหม่(อิสรภาพ)ที่พวกเราได้เริ่มนั้นมันอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมมือ ความเดือดทะลุสุดขีดของซาวนด์ edm-hard rock ใส่เต็มไม่ยั้งมือ เป็นแทร็คลำดับต้นๆจากทั้งหมดที่ให้ความรู้สึกแบบ แม่ง! นี่แหละเอทีซ 100%
ด้วยความหวังแรงปราถนาที่บอกว่ามันคือเส้นทางปลายอุโมงค์เพราะในความเป็นจริงแล้วแม่งก็ยังมีคนเลือกหลับหูหลับตาไปกับอุดมการณ์หลอกลวงอยู่ดี การดีไซน์ทั้งพาร์ทโวคอลและแร็ปไปในโทนฮึกเหิมเหมือนเป็นการปลุกไฟในตัวเองชัดเจนในอุดมการณ์ที่เลือกอย่างแน่แท้แต่ก็แฝงไปด้วยความเกรี้ยวกราดข้างในที่อยากระบายใส่ให้คนทั้งโลกได้ตื่นกันสักทีว่าสิ่งที่มึงกำลังเชื่ออยู่แม่งไม่ใช่อย่างที่มึงคิดทั้งหมด first impression มากที่สุดในอีพีนี้แล้ว ปลายปีนี้มีติด top list songs แน่นอน
Open up your eyes, Open up your mind
Oh New World
천둥처럼 깨워 세상을 We are
폭풍처럼 막을 수 없어 We are
NEW WORLD (2022)
THE WORLD EP.1 : MOVEMENT (2022)
• จะพูดว่านี่คือการกลับมาและเริ่มต้นไตรภาคครั้งใหม่ที่สร้างความเซอร์ไพร์สจากที่เคยหมดความคาดหวังไปแล้วก็พูดยากอยู่แต่ถ้าพูดในความระดับความพึงพอใจละก็.. คราวนี้เป็นการคัมแบ็คที่ทำให้รู้สึกได้เลยว่า เอทีซเริ่มกลับมาเป็นตัวตนดั้งเดิมของตัวเองได้อีกครั้งแล้ว ตัวตนที่ใครต่างโหยหาและคิดถึงกันในยุค TREASURE era นี่แหละคือสิ่งที่ได้รับมาในอีพีอัลบั้มชุดนี้ ความเข้มข้นและสไตล์ที่ฟิวชั่นในเวย์ฮิปฮอปแดนซ์บอยผนวกด้วยเรื่องราวแนวกึ่งแฟนตาซี เพิ่มเติมคือเลเวลที่ถูกอัพเกรดมากขึ้น
เลยจุดช่วงผ่านความเป็น coming of age มีจุดยืนและความชัดเจนของตัวเองอย่างแน่วแน่ ต่อให้จะบอกนี่คือการกลับมาเป็นตัวตนดั้งเดิมแรกเริ่มของวงแต่มันก็เป็นการผสมผสานอีกหนึ่งด้านของ FEVER era ที่พังไม่เป็นท่าได้อย่างแนบเนียบมากขึ้นเสมือนแผลได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีและดีกว่าเดิม
• เพราะด้วยความ THE WORLD era มันเป็นสิ่งชัดเจนมากด้วยว่านี่คือเนื้อหาแนว sci-fi fantasy จ๋าๆ เป็นการบอกกล่าวกันล่วงหน้าให้ทำใจไปเลยแล้วกันว่ายังคงไม่หลุดออกจากกรอบแนวนี้อยู่ดีแค่พยายามสร้างมิติใหม่ของตัวเองขึ้นมาเพื่อขยายความไตรภาคให้มันเป็นฟอร์มยักษ์มากขึ้น ประเด็นตรงนี้แหละมันเลยเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นจุดอ่อนไปหน่อย