15 ก.ย. 2022 เวลา 10:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
EP1: 2 กันยายน 2565
อัปเดทข่าวสารตลาดทุน และสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่เกิดขึ้น โดย AIA Thailand
1
  • ตลาดในประเทศไทย
- ข้อมูลจากเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าการเติบโตของเศรษฐกิจไทยเกิดการชะลอตัว เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า แต่ยังคงอยู่ในแนวโน้มขยายตัว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
5
ขณะที่ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนเติบโต 14.7% และตัวเลขการลงทุนของภาคเอกชนก็ยังเติบโต 5.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เช่นเดียวกับรายได้ครัวเรือนเกษตร (farm income) ที่ยังคงเติบโตต่อเนื่องที่ 19.3%
1
อย่างไรก็ตาม ภาคการส่งออกเกิดการชะลอตัวโดยคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากอุปสงค์ของทั่วโลกที่ลดลง
1
- ตัวเลขการมาเยือนประเทศไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
รวมถึงการเพิ่มขึ้นของกิจการท่องเที่ยว แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทยได้ฟื้นตัวแล้วอย่างชัดเจน
3
โดยมีนักท่องเที่ยวรวมกว่า 4 ล้านคนในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2565 นี้
รัฐบาลคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวอยู่ระหว่าง 7 ล้านถึง 10 ล้านคนภายในปี 2565 เมื่อเทียบกับ 428,000 คนในปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดีตัวเลขยังกล่าวยังห่างจากจำนวนนักท่องเที่ยวเกือบ 40 ล้านคนในปี 2562 อยู่มาก
  • ตลาดต่างประเทศ
สหรัฐอเมริกา / ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 103.2 จาก 95.7
เป็นครั้งแรกในรอบสี่เดือน ท่ามกลางราคาพลังงานที่ถูกลง และอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง
นี่อาจเป็นสัญญาณที่ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อาจเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายหน้าร้อนของสหรัฐอเมริกา / ดัชนีภาคอุตสาหกรรมโรงงาน (ISM Manufacturing Index) ยังคงไม่เปลี่ยนที่ระดับ 52.8% ในเดือนสิงหาคม ตัวเลขที่มากกว่า 50
แสดงว่าโรงงานยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับคำสั่งผลิตและอัตราการจ้างงานที่ดูมีสัญญาณบวก และอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง
1
  • ตลาดตราสารหนี้
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวสูงขึ้นในทุกช่วงอายุ ตั้งแต่ระหว่าง 1 bps ถึง 23 bps โดยผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 18 bps เป็น 2.57%
ขณะที่พันธบัตรอายุ 2 ปีเพิ่มขึ้น 8 bps เป็น 1.58% ทำให้ส่วนต่างผลตอบแทนของตราสารหนี้ 2 ปี และ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็น 99 bps จาก 89 bps ในสัปดาห์ที่แล้ว
  • ตลาดตราสารทุน
ที่มา : AIA Thailand Capital Market Monitoring – 2 September 2022
ตลาดหุ้นไทย :
- ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลง -1.3% ซึ่งเป็นครั้งแรกของการปรับตัวลงหลังจากเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาได้สักระยะแล้ว โดยปิดตลาดที่ 1,622.15 จุด จากแรงขายของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (-10.7%) กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี (-6.2%) และกลุ่มบรรจุภัณฑ์ (Packaging) (-2.9%) เป็นหลัก
ขณะที่หุ้นกลุ่มที่มีแรงซื้อสูงสุดที่ช่วยพยุงตลาดไว้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้แก่ กลุ่มยานยนต์(+3.1%) กลุ่มธุรกิจการแพทย์ (+1.6%) และกลุ่มธุรกิจการเกษตร (+1.6%)
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ :
- ตลาดหุ้นของอเมริกายังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนี
Nasdaq ร่วงลงมากสุดไปอยู่ที่ 11,630.86 จุด ซึ่งเป็นผลตอบแทนขาดทุนที่ -4.18%
ส่วนดัชนี S&P500 ร่วงลงไปที่ 3,924.26 จุด ซึ่งเป็นผลตอบแทนขาดทุนที่ -3.23%
ดัชนี Dow Jones ร่วงลงไปที่ 31,318.44 จุด ซึ่งเป็นผลตอบแทนขาดทุนที่ -2.85%
นับเป็นสัปดาห์ที่สามแล้วที่ตลาดหุ้นของอเมริการ่วงอย่างต่อเนื่อง
หลังจากผลข้อมูลอัตราการจ้างงานที่ออกมายังไม่สามารถทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินนโยบายได้
หมายเหตุ: ข้อมูลอ้างอิงจาก AIA Thailand Capital Market Monitoring – 2 September 2022 ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป ผู้ใช้ต้องใช้ความระมัดระวังด้วยวิจารณญาณและรับผิดชอบในความเสี่ยงต่าง ๆ ด้วยตนเอง
ติดตาม Community AIA Thailand ได้ที่ https://www.blockdit.com/topics/6322a4b8ae66c7433c8d5007

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา