15 ก.ย. 2022 เวลา 12:19 • หุ้น & เศรษฐกิจ
หนีกำแพงภาษี! บริษัทจีนแห่ไปตั้งโรงงานที่เม็กซิโกมากขึ้น
ตั้งแต่ในสมัยของประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ซึ่งทางสหรัฐฯ ตั้งกำแพงภาษีกับสินค้าจีน บริษัทจีนต่างๆ ก็ถูกบีบให้ขยายฐานการผลิตไปยังประเทศที่ยังมีสิทธิด้านภาษีกับสหรัฐฯ มากขึ้น
แต่หนึ่งในประเทศที่เป็นจุดหมายอันได้รับความนิยมจากจีนสูงขึ้นเรื่อยๆ
กลับไม่ใช่ใครอื่นไกล แต่เป็น “เพื่อนบ้านใกล้ชิดของสหรัฐฯ” อย่าง
“เม็กซิโก”
📌 สงครามการค้าทำจีนต้องหาที่ตั้งโรงงานใหม่
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 ทางสหรัฐฯ เริ่มแสดงท่าทีจะใช้นโยบายทางการค้าที่แข็งกร้าวกับทางประเทศจีนมากขึ้น อันเป็นไปตามแนวทางที่ประธานาธิบดีในสมัยนั้นอย่างโดนัล ทรัมป์ ยึดมั่น
โดยนโยบายหลักซึ่งถูกนำมาปรับใช้ คือ การตั้งกำแพงภาษีการค้าสูงขึ้น โดยเพ่งเล็งไปที่จีนเป็นสำคัญ
ซึ่งมันก็ทำให้รายได้จากภาษีการค้าอเมริกาพุ่งขึ้นอย่างมาก
  • จากที่ต่ำกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2017
  • เพิ่มขึ้นมาอยู่ระดับ 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2019
และนโยบายการค้าหลายส่วนก็ยังดำเนินการต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ในยุคของประธานาธิบดีไบเดนด้วย
นโยบายเหล่านี้บีบให้จีน ซึ่งส่งสินค้าไปที่อเมริกามหาศาลต้องมีการปรับตัว
สิ่งนี้ที่ทางบริษัทจีนทำ คือ การขยายฐานการผลิตไปยังประเทศที่มีสิทธิประโยชน์ทางภาษีกับอเมริกาดีกว่าจีน
2
โดยหนึ่งในประเทศที่จีนเข้าไปลงทุนมากขึ้น คือ เพื่อนบ้านของอเมริกาเอง อย่างประเทศเม็กซิโก
โดยปี 2017 ที่คุณทรัมป์พึ่งรับตำแหน่ง มูลค่าการลงทุนโดยตรง (FDI) จากจีนไปสู่เม็กซิโกก็เพิ่มขึ้นทันทีทันใด
จาก 154 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2016 กลายมาเป็น 271 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
และแม้จะมีช่วงชะลอตัวการลงทุนไปบ้าง แต่ในปีล่าสุด (2021) มูลค่าการลงทุนจากจีนก็กลับมาสู่เป็นประวัติการณ์อีกครั้งที่เกือบๆ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด คือ “Hofusan Industrial Park” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณตอนเหนือของเม็กซิโก
ซึ่งเมื่อสามปีก่อนมีอาคารโรงงานของบริษัทจีนอยู่แค่ตึกเดียว
แต่ปัจจุบันมีอยู่ 10 บริษัทแล้ว และก็มีอีกสามบริษัทกำลังก่อสร้างเพิ่มอยู่
แล้วก็มีการคาดการณ์ว่า ในอนาคตน่าจะเพิ่มขึ้นไปถึง 35 บริษัทภายใน 2 ปีนี้
และก็จะมีการแจ้งงานพนักงานกว่า 15,000 คน ซึ่ง 10% ในนั้นจะเป็น “ผู้จัดการชาวจีน”
1
📌 ผลประโยชน์และอุปสรรคที่สำคัญ
ผลประโยชน์ส่วนแรกที่ได้รับ คือ สิทธิประโยชน์ด้านภาษี ที่ทางบริษัทจีนสามารถลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปได้มากถึง 25%
นอกจากนี้ ค่าจ้างแรงงานของจีนที่เคยเป็นข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับเม็กซิโก
ในช่วงหลายปีหลัง ข้อได้เปรียบนั้นก็เริ่มจะไม่มีอีกต่อไป
เพราะเศรษฐกิจจีนเริ่มเติบโตขึ้นมาก ทำให้ค่าจ้างแรงงงานในจีนก็โตขึ้นตาม
1
ซึ่งทำให้ค่าจ้างแรงงานของเม็กซิโกไม่แพงเมื่อเทียบกับจีนเท่าไรแล้ว
อีกผลประโยชน์ที่ชัดเจนซึ่งบริษัทจีนได้รับจากการมาตั้งฐานที่เม็กซิโก คือ
การลดความเสี่ยงจากการขนส่ง
ซึ่งยิ่งมาเห็นชัดเจนขึ้นในช่วงการระบาดของโควิดนี่เอง
ที่การขนส่งทางเรือมีราคาแพงและใช้เวลาสูงอย่างยิ่ง
เม็กซิโกจึงเป็นตัวเลือกที่น่าดึงดูดขึ้นเรื่อยๆ ในสายตาบริษัทจีน
แต่อุปสรรคของบริษัทจีนในการลงทุนในจีนก็หนักหนาสาหัสไม่น้อยเช่นกัน
โดยอุปสรรคสำคัญ คือ รัฐบาลกลางของเม็กซิโกไม่ได้กระตือรือร้น ที่จะดึงบริษัทจีนเข้ามาลงทุนเท่าใดนัก มีเพียงแต่นโยบายระดับรัฐบาลท้องถิ่นเท่านั้นที่อยากได้เม็ดเงินลงทุนจากจีน
ซึ่งอุปสรรคนี้ เกิดมาจากความใกล้ชิดของเม็กซิโกกับสหรัฐอเมริกา
ที่เป็นคู่ค้าสำคัญมาอย่างยาวนาน
ที่แม้การลงทุนจากจีนในเม็กซิโกจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ก็คิดเป็นเพียงแค่ 3% ของปริมาณการลงทุนของสหรัฐฯ เท่านั้น
อุปสรรคอีกอย่าง คือ Suppliers วัตถุดิบต่างๆ ในเม็กซิโกยังไม่ได้ครบครันเท่ากับการผลิตในประเทศจีนเอง
 
ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นปัญหาสำคัญ เพราะ การจะได้ยกเว้นภาษีการค้าจากสหรัฐฯ โดยส่งไปจากเม็กซิโก มีเงื่อนไขว่า “สัดส่วนมูลค่าการผลิตต้องมาจากวัตถุดิบในทวีปอเมริกาเหนือค่อนข้างมาก”
2
ดังนั้น ในปัจจุบันจึงทำให้มีธุรกิจบางประเภท ยากที่จะมาลงทุนในประเทศเม็กซิโกได้
และปัญหาสุดท้ายที่ทางบริษัทสัญชาติจีนเจออยู่ คือ วัฒนธรรมการทำงานของคนเม็กซิโกและคนจีนที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งทางผู้จัดการชาวจีนก็ต้องปรับตัวพอสมควร
2
เรื่องนี้จะเป็นอย่างไรในอนาคต บริษัทจีนจะเข้าไปมีบทบาทต่อเศรษฐกิจประเทศเม็กซิโกมากขึ้นแค่ไหน หรือบทบาทของสหรัฐฯ จะเข้ามีกีดกันจีนมากขึ้นไหม ต้องติดตามกันต่อไปครับ
ผู้เขียน : ณัฐนันท์ รำเพย Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶️ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
1
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References :
โฆษณา