1.เจ้าชายวิลเลี่ยม-Duke of Cambridge (Duke of Cornwall หลังการครองราชย์ของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3) พระโอรสพระองค์โตของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3
1
2.เจ้าชายแฮร์รี่-Duke of Sussex พระโอรสองค์รองของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3
3.เจ้าชายแอนดรูว์-Duke of York พระอนุชาของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3
ในขณะเดียวกัน พระยศสูงสุดของเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด พระอนุชาอีกพระองค์ของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 กลับเป็น Earl of Wessex
เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปในปี ค.ศ.1999 ทางวังบักกิ้งแฮมได้ประกาศไว้ พอสรุปใจความได้ว่า เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง Duke of Edinburgh ต่อจากเจ้าชายฟิลิป พระบิดาของพระองค์เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตามในปีเดียวกันทรงได้รับพระราชทานยศขุนนาง Earl of Wessex
ตำแหน่ง Earl of Wessex เป็นตำแหน่ง Earl ที่ค่อนข้างมีความพิเศษทีเดียว
●
ความพิเศษของตำแหน่ง Earl of Wessex
หลังจากที่โรมันหมดอำนาจบนแผ่นดินอังกฤษ ก็มีทั้งชาวบริตอนเดิม (Britons), ชาวแองโกล-แซกซอน (Anglo-Saxons), ชาวจู๊ตส์ (Jutes) และไวกิ้ง (Vikings) ที่มาตั้งถิ่นฐาน จนกระทั่งแองโกล-แซกซอนสามารถรวมแผ่นดินอังกฤษได้ ที่เรียกยุคนี้รวม ๆ ว่ายุคแองโกล-แซกซอน (The Anglo-Saxon period ราวปี ค.ศ.410-1066)
ต่อมาในสมัย พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ทรงสถาปนาตำแหน่งขุนนางที่ใหญ่สุดตำแหน่งใหม่คือ Duke
1
นำชื่อมาจากตำแหน่งขุนนางใหญ่ตำแหน่งหนึ่งบนภาคพื้นทวีปยุโรป โดยออกทรงออก Royal Charter ในปี ค.ศ.1337* สถาปนาตำแหน่ง Duke of Cornwall ขึ้น
โดยมากตำแหน่ง Duke ที่สถาปนาภายหลัง Duke of Cornwall ในปี ค.ศ.1337 สถานที่ที่ขุนนางชั้น Duke จะได้ครอบครองตามศักดินา ทั้งในความเป็นจริงหรืออ้างอิงแต่ในนามก็ต่างกันตามยุคสมัย จะอิง County (มณฑล) ในยุคนั้น ๆ เช่น Duke of Somerset อิงจาก County ที่ชื่อ Somersetshire (ในยุคนั้น) เป็นต้น
ส่วน Earl ที่ตั้งขึ้นในสมัยหลัง ๆ ก็จะลดระดับลงไปอิงตามชื่อเมือง (City หรือ Town) ที่สังกัดใน County (มณฑล) ต่าง ๆ เช่น Earl of Shrewsbury อิงจาก เมือง Shrewsbury ที่อยู่ใน county ชื่อ Shropshire เป็นต้น