16 ก.ย. 2022 เวลา 10:54
“ประเทศร่ำรวยต้องชดใช้” เมื่อปากีสถานคาดหวังให้ประเทศร่ำรวยต้องชดใช้ให้กับประเทศที่ต้องเผชิญกับภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องก่อให้เกิดอุทกภัยในปากีสถานอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน บางเมืองของปากีสถานมีปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้น 500 – 700% ภายในเดือนสิงหาคม จนเกิดน้ำท่วมขังสูง 8 – 10 ฟุต ซึ่งยากต่อการช่วยเหลือผู้คนทั้งในด้านอาหารหรือที่พักอาศัย โดยปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยเกือบ 1,300 คน และกว่า 1 ใน 3 ของปากีสถาน ยังคงจนอยู่ในน้ำหลังจากเกิดพายุมรสุมรุนแรงที่กินเวลาหลายสัปดาห์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งที่ก่อนหน้าเดือนสิงหาคมปากีสถานพึ่งประสบปัญหาภัยแล้งและคลื่นความร้อน
หน่วยงานรัฐของปากีสถานมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับปากีสถานตอนนี้เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่มีสาเหตุหลักจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในแต่ละประเทศ โดย Sherry Rehman รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประเทศปากีสถาน ย้ำว่าประเทศผู้ก่อ “มลพิษ” ควรต้องชดใช้ค่าเสียหายที่ทำให้ปากีสถานต้องเผชิญกับอุทกภัยครั้งใหญ่
นอกจากนี้ เป้าหมายของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำเป็นต้องมีการพิจารณาใหม่ เนื่องจากภัยพิบัติทางธรรมชาติจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะประเทศปากีสถาน ซึ่งทั้งรุนแรงและรวดเร็ว
Sherry Rehman กล่าวเสริมว่า ความเสียหายมากมายที่เกิดขึ้นกับปากีสถาน ได้รับการชดเชยจากประเทศต่างที่มีส่วนต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องกดดันอย่างหนักเพื่อให้เกิดการ “รีเซ็ต” เป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และแน่นอนว่าบริษัทขนาดใหญ่โดยเฉพาะบริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิลที่มีกำไรสุทธิมากกว่า GDP ในหลายประเทศก็จำเป็นต้องรับผิดชอบเช่นกัน
การประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศประจำปีขององค์การสหประชาชาติ ที่จะจัดขึ้นที่อียิปต์ในเดือนพฤศจิกายน กลุ่มประเทศกำลังพัฒนา 77 ประเทศ รวมทั้งจีน โดยมีปากีสถานเป็นประธาน จะพยายามผลักดันอย่างหนักเพื่อให้ประเทศที่ก่อมลพิษต้องชดใช้ที่ทำให้เกิดปีแห่งความแห้งแล้ง อุทกภัย คลื่นความร้อน และไฟป่า
โฆษณา