16 ก.ย. 2022 เวลา 15:02 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เรื่องราวของลุงจิ ชายวัยเกษียณที่เริ่มลงทุนตอนอายุ 77 ปีและสร้างความมั่งคั่งให้กับทายาทภายใน 12 ปี (2006-2018)
เรื่องราวของสัปดาห์นี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้อ่านซึ่งเคยเขียนอีเมลและแบ่งปันเรื่องราวของเขามาเป็นเวลานาน เขาไม่ชอบเปิดเผยตัวตน ดังนั้นเราจะเรียกเขาว่าลุงจิ
ลุงจิทำงานให้กับรัฐบาลกลาง จนกระทั่งเกษียณไปอยู่ที่ห้องแฟลต 2 ห้องนอนในเขตชานเมืองใหญ่แห่งหนึ่ง เขามีกิจวัตรง่ายๆทุกวันเช่น การเดินตอนเช้า ช่วยงานบ้าน พบปะเพื่อนฝูงเพื่อดื่มชาพูดคุย และเข้าร่วมพิธีทางสังคมเพื่อให้รู้สึกเชื่อมโยง เขาอ่านหนังสือพิมพ์และนิตยสารเป็นส่วนใหญ่ และดูโทรทัศน์บ้าง ไม่มีอะไรน่าสนใจหลังจากเกษียณอายุ ลุงมักจะบอกว่าชีวิตของเขาไม่มีเรื่องราวใด ๆ น่าสนใจ แต่ผมไม่เห็นด้วย
ลุงจิไม่ได้ตะลุยซื้อหุ้นตามกระแสคำแนะนำของกูรู เขาเป็นนักลงทุนหัวโบราณที่เชื่อว่าในการลงทุนใน Post Office Savings Schemes ที่ให้ดอกเบี้ย 4% ต่อปี แต่ในปีค.ศ.2006 เขาเริ่มลงทุนในกองทุนรวม แต่ปีนั้นตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐเริ่มล่มสลาย ดัชนี Sensex (ดัชนีหุ้นตัว top 30 อันดับแรกของตลาดหุ้นบอมเบย์) อยู่ที่ประมาณ 10,000 และ ดัชนี Nifty (ดัชนีหุ้นตัว top 50 อันดับแรกของตลาดหุ้นอินเดีย) ตอนนั้นอยู่ที่ 2,600
เขาแบ่งเงินของเขาออกเป็นสามส่วน ส่วนแรกคือสำหรับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ส่วนที่สองสำหรับเหตุฉุกเฉินและเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด และส่วนสุดท้ายมีไว้สำหรับลูกหลาน
เราตกลงกันว่าจำนวนเงินที่เขาต้องให้ลูกหลานจะลงทุนระยะยาวในกองทุนตราสารทุน ส่วนที่เขาเก็บไว้สำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดถูกนำไปลงทุนในกองทุนแบบสมดุล ซึ่งเขาสามารถถอนไปใช้ได้หากจำเป็นและสามารถเติบโตได้หากเขาไม่ได้ใช้มัน ส่วนสุดท้ายสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันยังคงอยู่ในPost Office Savings Schemes และ ต่อมานำไปฝากธนาคาร
เขาลงทุนส่วนที่ใช้ในชีวิตประจำวันเป็นงวดๆทีละน้อยๆ ลงทุนด้วยความยินดีเมื่อตลาดตกต่ำ และต่อมาเขามีความกล้าในการลงทุนมากขึ้น และบอกว่าเงินส่วนนี้เก็บไว้ให้หลานชายของเขาที่พึ่งอายุเพียง 20 ปีในขณะนั้น และหวังว่าเด็กคนนั้นจะมีชีวิตอยู่จนถึงตอนที่ตลาดทะยานขึ้น วิธีการของลุงจิทำให้ผมมั่นใจว่าเขามีความชัดเจนเกี่ยวกับการจัดสรรเงินอย่างเป็นระบบและมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อวิธีการลงทุน
2
เขาลงทุนทุกอย่างในนามของลูกหลาน เปิดพอร์ตโฟลิโอในนามของผู้เยาว์ และทำให้แน่ใจว่าการลงทุนนั้นเป็นชื่อของลูกหลาน เขาลงทุนเพื่อลูกสองคนและทำให้ลูกเป็นเจ้าของเงินลงทุนก้อนนั้นร่วมกัน
ลุงจิเปิดบัญชีด้วยจำนวนเงินเล็กน้อย ที่จำเป็นต้องมีลายเซ็นของผู้ถือร่วมที่สอง จากนั้นเขาก็เพิ่มเงินไปยังพอร์ตนั้นตามที่เขาต้องการ ดำเนินงานในฐานะผู้ถือคนแรก ลงทุน รับข้อมูลและอัปเดต และเพิ่มเงินนั้นขึ้นทุกปี เขามั่นใจว่าเงินจะไปเป็นส่วนที่เขาเก็บไว้ให้ลูกๆ ของเขาตอนเขาเสียชีวิต
ลุงจิเป็นคนที่มีความยุติธรรมและต้องแน่ใจว่าเอกสารสองใบที่เขามีให้ลูกๆ ของเขามีเหมือนกัน ดังนั้นมูลค่าของเอกสารทั้งสองจะเท่ากันเสมอ
ในปี 2011 เขารู้สึกสบายใจกับสิ่งที่ทำอยู่มาก เขาใช้ระบบออนไลน์เพื่อตรวจสอบพอร์ต ใช้บริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ตเพื่อโอนเงินและจัดการรายงานภาษีสำหรับกิจกรรมการลงทุนทั้งหมดของเขา
ในปีค.ศ. 2018 ราคา Nifty เพิ่มขึ้นจาก 2,600 มาอยู่ที่ 11,000 (โตมากกว่า 4 เท่า) ซึ่งเติบโตประมาณ 13% ต่อปีในช่วง 12 ปีนั้น ซึ่งเป็นผลงานการลงทุนที่ดีมากทีเดียว
เมื่อเขาเสียชีวิต สิ่งที่ลูกของเขาต้องทำคือส่งสำเนาใบมรณะบัตรไปยังกองทุนรวมและขอให้ลบชื่อผู้ถือคนแรกออกจากพอร์ต การลงทุนทั้งหมดที่ลุงจิทำมาทั้งหมดจะกลายเป็นทรัพย์สินของผู้ถือร่วมซึ่งเป็นลูก ๆ ของลุงด้วยกระบวนการง่ายๆนี้ ไม่มีการรับรองเอกสาร ไม่ต้องเดินทางไปธนาคารหรือสำนักงานลายครั้ง ทำให้แน่ใจว่าเงินฝากธนาคารและการลงทุนของลุงเรียบง่าย
เมื่อบัญชี Post Office Savings Schemes ครบกำหนด เขาก็โอนเงินเข้ากองทุนรวมและเงินฝากธนาคาร เขาจดรายการการลงทุนฉบับเดียวพร้อมรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับหมายเลขพอร์ตโฟลิโอ ชื่อและรายละเอียด และอัพเดททุกปีและวางกระดาษนั้นไว้ในไฟล์
ลุงจิถึงแก่กรรมในเดือนสิงหาคมปีค.ศ. 2018 ตอนอายุ 89 ปี และทิ้งความมั่งคั่งไว้เป็นกรณีศึกษาสุดคลาสสิกในการสืบมรดกให้กับคนรุ่นต่อไป
ลุงจิทำสิ่งที่เขาต้องการในชีวิตของเขาจนวาระสุดท้าย เขารู้สึกว่าลูกๆ ของเขายังเด็กเกินไปที่จะบริจาคเงินให้ใคร เขาจึงทำให้แน่ใจว่าสถาบันทางศาสนาที่เขาชื่นชอบ โรงเรียนเก่าของเขา แม่บ้านและคนขับรถที่ซื่อสัตย์ของเขา จะได้รับเงินบริจาคหรือของขวัญทุกปีจากบริษัทจัดการทรัพย์สิน
1
ส่วนบ้านที่เขาถือครองไว้นานที่สุด เขาจดทะเบียนในชื่อลูกชายและขอให้ลูกชายโอนจำนวนเงินเท่ากับครึ่งหนึ่งของมูลค่าทรัพย์สินให้ลูกสาว
เขาแบ่งอัญมณีของภรรยาผู้ล่วงลับไปก่อนหน้านี้ให้ลูกๆ และไม่ได้เก็บทองไว้เป็นของตัวเองเลย
มีหลายอย่างที่สามารถทำได้หากเรามีความชัดเจนในวัตถุประสงค์ ลุงจิใช้เวลาที่เขามีหลังเกษียณลงทุนในการครอบครองทรัพย์สินอย่างดี เขาอ่าน ถามคำถาม มีการโต้เถียง จนในที่สุดก็เข้าใจว่าการลงทุนทำงานอย่างไร เขาเริ่มต้นเมื่ออายุ 77 ปี แต่ในเวลาไม่ถึงห้าปีเขาได้ผลลัพท์อย่างสมบูรณ์และได้ทิ้งทรัพย์สมบัติไว้ให้ทายาทมากมาย
ใครที่คิดว่ามันสายเกินไปที่จะลงทุน ซับซ้อนเกินไปในการจัดการเงิน ยากเกินไปในการจัดการมรดก สับสนในการจัดการภาษีและเอกสาร ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวของลุงจิครับ
#สมโพชน์จะเกษียณ
https://images.hindustantimes.com/img/2022/05/27/550x309/01_(27)_1653661640482_1653661650145.jpg

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา