17 ก.ย. 2022 เวลา 00:25 • ไลฟ์สไตล์
ขนมที่สมเด็จพระราชินีทรงเสวยมาตลอด 90 ปี
ในตอนที่แล้วเราได้พูดถึงน้ำชายามบ่ายของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 (สมเด็จพระราชินีฯ) โดยเราได้พูดกันถึง “น้ำชา” ไป ในตอนนี้เราจะได้พูดถึงบรรดาขนมนมเนยที่อยู่บนชุดน้ำชายามบ่ายของสมเด็จพระราชินีฯ
4
ขอบคุณภาพประกอบจาก Twitter - @nikdcww
อย่างแรกเลยก็คือ แซนด์วิช ซึ่งก็มีไส้ต่าง ๆ กัน แต่สิ่งซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศอังกฤษก็คือ “แซนวิชแตงกวา” หรือ Cucumber Sandwich
2
แซนวิชแตงกวาที่ว่านี้ ถ้าเป็นชาวบ้านก็เอาแตงกวามาหั่นเป็นแว่น ๆ เหมือนกับเวลาทำน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะแล้วก็สอดไส้ขนมปังกิน แต่วิธีทำแซนด์วิชสำหรับพระสุธารสชามีรายละเอียดมากกว่านั้นคือ เอาแตงกวามาทั้งลูก ปอกเปลือกออก แล้วก็ปอก(peel)เนื้อของแต่งกวาเป็นแผ่นบาง ๆ ให้เป็นแถบยาว ๆ หลาย ๆ แถบ ปอกไปจนเจอเม็ดของแตงกวาก็หยุด
10
เสร็จแล้วเอาขนมปังมาทาครีมชีสที่มีใบสเปียร์มินต์(spearmint) ผสมอยู่เพื่อให้มีกลิ่นและรสดีขึ้นทั้ง 2 ด้าน เอาแผ่นแตงกวาที่หั่นเป็นแถบนั้นเรียงเข้าไป 4-5 จนเต็มแผ่นขนมปัง เอาขนมปังทั้ง 2 ด้านมาประกบกัน
5
แต่ยังก่อน ยังกินไม่ได้นะครับ การกินกับน้ำชายามบ่ายต้องกินเรียบร้อยครับ จะเอาแซนด์วิชทั้งอันเข้าปากเคี้ยวตุ้ยตุ้ยไม่ได้ ก็เลยต้องตัดขอบขนมปังสีน้ำตาลเข้มออก ก็จะเหลือเนื้อขนมปังและไส้ที่อยู่ตรงกลาง เสร็จแล้วเอามีดหั่นขนมปังนั้นแบ่งครึ่ง แล้วก็เอาแต่ละครึ่งนั้นมาหั่นเป็นอีก 2 ส่วนก็จะได้แซนด์วิชทั้งหมด 4 ชิ้น เวลารับประทานเป็นชิ้นเล็ก ๆ ก็จะดูเรียบร้อย
5
ว่ากันว่า แซนวิชแตงกวาถือกำเนิดในประเทศอินเดีย(อินเดียอีกแล้ว!) เมื่ออังกฤษเข้ายึดครองประเทศอินเดียได้ คนอังกฤษซึ่งไปอยู่ในอินเดียประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมา เหตุที่เป็นแตงกวาก็เพราะอินเดียเป็นประเทศที่มีอากาศร้อน การรับประทานแตงกวาซึ่งในตัวของแตงกวานั้นประกอบด้วยน้ำถึง 95% ก็จะช่วยพวกฝรั่งที่ไปอยู่คลายร้อนลงได้ ต่อมาในสมัยวิclotted creamอเรีย แซนวิชแตงกวาก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของน้ำชายามบ่าย
5
ขอบคุณภาพประกอบจาก YouTube Darren McGrady
แต่ที่ถือว่าเป็นพิเศษจริง ๆ ในชุดน้ำชายามบ่ายของสมเด็จพระราชินีก็คือ แซนด์วิชเพนนีแยมสตอเบอรี่ (jam pennies)
2
ที่ปราสาท Balmoral ในสกอตแลนด์ ในสวนของสมเด็จพระราชินีฯจะมีต้นสตอเบอรี่ที่ทรงปลูกไว้อยู่เป็นจำนวนมาก เวลาที่สมเด็จพระราชินีฯเสด็จไปประทับที่ปราสาทนั้น จะทรงพักผ่อนพระอิริยาบถด้วยการไปเก็บลูกสตอเบอรี่ในสวนมาไว้ทำแยมและอาหาร
2
วิธีทำแซนด์วิชเพนนีแยมสตอเบอรี่ก็ไม่ใช่วิธีการยุ่งยากอะไร เอาแผ่นขนมปังมาทาด้วยเนยเล็กน้อยทั้งสองด้าน เสร็จแล้วก็ทาแยมสตอเบอรี่ลงไป(แน่นอนครับว่า แซนด์วิชของสมเด็จพระราชินีฯต้องทาด้วยแยมสตอเบอรี่ที่เก็บจากสวนในปราสาท Balmoral) เอาขนมปังประกบกัน แล้วใช้ห่วงวงกลมที่ใช้ทำอาหารเจาะแซนด์วิชออกมาเป็นชิ้นกลม ก็จะได้แซนด์วิชที่เป็นชิ้นกลม ๆ เหมือนกับเหรียญเพนนี
2
แซนด์วิชเพนนีแยมสตอเบอรี่เป็นอาหารว่างของเด็ก ๆ ชาวอังกฤษ สมเด็จพระราชินีฯ โปรดทรงเสวยแซนด์วิชเพนนีมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ และทรงเสวยเกือบทุกวันมาจนถึงวาระสุดท้ายแห่งพระชนม์ชีพรวมเป็นเวลากว่า 90 ปี
2
ขอบคุณภาพประกอบจาก lavenderandlovage.com
ขนมอีกชนิดหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับชุดน้ำชายามบ่ายก็คือ สโคน(scone) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศอังกฤษเช่นเดียวกัน
 
“สโคน” เป็น Quick Bread ชนิดหนึ่งของชาวอังกฤษ เป็นขนมที่มีต้นกำเนิดในสกอตแลนด์ ที่มาของรูปร่างขนมสโคนที่เหมือนแท่นกลม ๆ จากบทความเรื่อง “Scone(สโคน) ขนมฝรั่งกินอร่อย” ในเพจ Sanook.com บอกว่า “บ้างก็ว่าเป็นขนมที่อบขึ้นมาให้มีรูปร่างเหมือนกับหินที่กษัตริย์ของตนได้ประทับรับการปราบดาภิเษก บ้างก็ว่าเป็นขนมที่ตั้งชื่อตามกษัตริย์ของสกอตแลนด์ แต่ไม่มีใครรู้แน่ชัดถึงที่มาที่ไป”
7
คำว่า “สโคน” บางทีก็ออกเสียงว่า “สคอน” คนอังกฤษเองยังยกเป็นประเด็นถกเถียงกันตลอดมาจนถึงปัจจุบัน นิตยสาร Gourmet & Cuisine ฉบับเดือนสิงหาคม 2562 ได้ลงบทความเรื่อง “สโคน” หรือ “สคอน” ต้องเรียกอย่างไรถึงจะถูกต้องนะ? ว่า
3
“ในเดือนตุลาคมปี ค.ศ. 2016 YouGov บริษัทวิจัยการตลาดชื่อดังของอังกฤษได้ทำโพลสำรวจกลุ่มตัวอย่างในบริเตนใหญ่ (Great Britain) พบว่าผู้คนจะออกเสียงว่า “สคอน” ร้อยละ 51 ขณะที่ “สโคน” จะอยู่ที่ร้อยละ 42 ส่วนอีกร้อยละ 3 บอกว่าไม่รู้ (เรียกอะไรก็เรียกเถอะ) และอีกร้อยละ 3 บอกว่าไม่ได้เรียกทั้ง 2 แบบ ซึ่งไม่รู้ว่าพวกเขาเรียกขนมชนิดนี้ว่าอะไร แต่มีหลายเสียงเล่าขานว่าน่าจะออกเสียงกันว่า “สคูน” (สกูน - Scoon) ที่ดูออกนอกโลกกว่าสคอนอยู่มาก”
9
อย่างไรก็ตาม จะเรียกว่า “สโคน” หรือ “สคอน” ก็ตามแต่ ก็ต้องยอมรับว่าสโคนเป็นขนมที่อร่อย เป็นขนมแป้งอบแห้ง ๆ หอมมันด้วยเนย นม และไข่ที่ผสมลงไป เวลาจะทานก็จะแยกสโคนออกเป็น 2 ซีก แล้วทาด้วย clotted cream และแยม
4
อันว่า clotted cream นั้นคือ heavy cream ที่นำไปอบ 12 ชั่วโมงและแช่เย็นอีก 8 ชั่วโมงจะได้ครีมนุ่ม ๆ คล้ายเต้าฮวย แต่ข้นกว่า ของที่จะใช้ทากับสโคนต้องเป็น clotted cream เท่านั้น แต่ clotted cream ในเมืองไทยค่อนข้างหายาก มีร้านหลายแห่งที่ขายสโคน แต่เอาของใกล้เคียงอย่างครีมชีส หรือวิปปิ้งครีม หรือแม้กระทั่งเนยมาให้กินกับสโคนแทน ก็พอแก้ขัดได้ในกรณีที่หา clotted cream ไม่ได้
8
เรื่องการทา clotted cream และแยมเวลาจะทานสโคนนั้นก็มีเรื่องถกเถียงกันอีกว่า จะทา clotted cream ก่อนหรือทาแยมก่อน?
7
ขอบคุณภาพประกอบจาก .jamandclottedcream.co.uk
พวกชาว Devon ค่ายนี้จะทา clotted cream ก่อนทาแยม ส่วนพวกชาว Cornish ค่ายนี้จะทาแยมก่อน clotted cream ความจริงแล้วจะทาอะไรก่อนกัน ก็อร่อยด้วยกันทั้งนั้นเพราะทั้ง 2 ค่าย เพราะทั้ง 2 ค่ายจะเอา clotted cream และแยมโปะลงไปเป็นก้อนหนา ๆ ไม่ใช่บาง ๆ เหมือนทาขนมปังธรรมดา ได้กินกับสโคนอบใหม่ร้อน ๆ ทั้งหอมทั้งมันทั้งหวานสะใจ จิบน้ำชาร้อน ๆ ไปด้วย อร่อยอย่าบอกใครเชียว
4
สมเด็จพระราชินีฯนั้นทรงเป็นค่ายไหนหรือครับ? คำตอบก็คือ จะทรงทาแยมก่อนเสมอครับ
5
(ผู้ที่สนใจสำรับของว่างของสมเด็จพระราชินีฯ คุณ Darren McGrady ผู้ซึ่งเคยเป็นพ่อครัวประจำพระราชวังบัคกิ้งแฮมถึง 11 ปีสอนวิธีทำอยู่ใน YouTube ช่อง Royal Chef)
2
เรื่องตอนที่แล้ว "น้ำชาของสมเด็จพระราชินี"
อ่านได้ที่
2
Gourmet Story - เรื่องราวเกี่ยวกับอาหารที่เป็นเกร็ดความรู้ เล่าสู่กันฟัง เพิ่มความอร่อยของอาหารที่เรารับประทาน ติดตามได้ที่
1
โฆษณา