17 ก.ย. 2022 เวลา 00:58 • ข่าว
พระวินัยที่พระสงฆ์พึงระมัดระวังเมื่อเรี่ยไรเงินเพื่อทอดกฐิน:
ระยะนี้ เป็นระยะที่ต้องเตรียมการงานทอดกฐิน ผมจึงอยากให้ความรู้เกี่ยวกับพระวินัยไว้สักหน่อยสำหรับพระสงฆ์ (หมายถึงพระทั่วประเทศ) ที่ต้องการปฏิบัติให้ถูกต้อง ไม่ถูกใครครหาว่าเป็นอลัชชี
2
เพราะถ้าหาเงินไม่ถูกวิธีเข้าวัดแล้วใช้สอยเงินนั้น พระวินัยเรียกว่าเป็น ‘อลัชชีบริโภค’ (การบริโภคของพระอลัชชี) ซึ่งต้องระมัดระวัง
๑.เรื่องหลักของการทอดกฐินในพระวินัยเป็นเรื่องของผ้า ไม่เกี่ยวกับเงิน ไม่ควรเอาเงินนำหน้า ไม่ควรเอาเงินมาติดโชว์เป็นจุดเด่นของงานเพื่อให้คนเข้าใจผิดว่างานกฐินเป็นงานเรี่ยไรเงินเพื่อสร้างถาวรวัตถุ เพราะจะทำให้เงินดูเป็นเรื่องใหญ่กว่าเรื่องหลักในพระวินัย
2
ประเพณีทอดกฐินเป็นประเพณีที่ต้องการให้คณะสงฆ์ในแต่ละวัดจัดหาผ้ามาเย็บเป็นจีวรใช้เป็นตามกรอบของพระวินัยเพราะวัดแต่ละวัดมีภิกษุสามเณรอยู่มาก หากถึงคราว ผ้าจีวร สังฆาฏิ สบงหรืออังสะขาดแคลนก็สามารถช่วยกันหาผ้ามาเย็บ ย้อมและทำพินทุกัปปะนุ่งห่มตามกรอบพระวินัยได้ เพื่อมิให้ภิกษุในแต่ละวัดลำบากในเรื่องการทำจีวรใช้ จึงเกิดประเพณีทอดกฐินขึ้นมา
กิจกรรมหลักจึงเป็นเรื่องเกี่ยวกับการนำผ้าที่ได้มาในวันทอดกฐินไปซัก กะ ตัด เนา เย็บเป็นโครงสร้างจีวร ย้อมจีวรที่เย็บแล้วและทำพินทุกัปปะผ้าที่ย้อมแล้วให้เตรียมพร้อมนำไปใช้ได้
1
ประเพณีทอดกฐินจึงกำหนดให้พระสงฆ์ในแต่ละวัดช่วยกันทำกิจกรรมเหล่านี้ให้เสร็จภายในวันเดียว ถ้าท่านสามัคคีกันเย็บและย้อมผ้ากฐินให้เสร็จในวันเดียวได้ ก็แปลว่าท่านสามารถเย็บจีวรและย้อมจีวรเป็น เวลามีปัญหาจีวรหรือผ้าครองอื่นๆ ของภิกษุสามเณรขาดแคลนก็ช่วยกันหาและเย็บใช้กันตามกรอบพระวินัยได้คล่อง
เงินที่ทายกทายิกาถวายเพื่อร่วมงานทอดกฐินนั้นเป็นแค่บริวารกฐิน ทายกทายิกาที่เป็นกรรมการจัดงานควรรวบรวมนำไปเข้าบัญชีวัด ในวันทอดกฐินก็ถือเฉพาะใบปวารณาเท่านั้น ไปถวายพระสงฆ์ในฐานะบริวารกฐิน
แต่พระและอุบาสกอุบาสิกาจำนวนมากทุกวันนี้เข้าใจผิดว่าประเพณีทอดกฐินคือโอกาสระดมเงินเข้าวัดให้ได้จำนวนมากๆ ซึ่งไม่ใช่ พร้อมๆ กับพิธีกฐินในสมัยนี้ วัดหลายวัดก็โหมโฆษณาว่าจะทอดเพื่อหาเงินไปสร้างโบสถ์ เจดีย์ ฯลฯ สารพัด
แปลว่าคนเหล่านี้ให้ความสำคัญแก่ *บริวารกฐิน* มากกว่า *ตัวกฐิน* เอง
๒.เจ้าภาพกฐินตามหลักพระวินัยเลือกไม่ได้ครับ ใครปวารณาก่อนก็ต้องให้เป็นก่อน พระจะอ้างว่า
‘โยมยากจน อย่ามาเป็นเจ้าภาพเลย วัดต้องการเจ้าภาพกระเป๋าหนักๆ เพื่อหาเงินให้ได้เยอะๆ’ อย่างนี้ไม่ได้
พระต้องไม่ทำนิมิตหรือพูดเลียบเคียงให้ใครมาเป็นเจ้าภาพ ใครปวารณาขอเป็นเจ้าภาพก่อน ก็ต้องให้เป็นตามหลักพระวินัย
เหล่าทายกทายิกาที่เข้าวัดบ่อยๆ และเป็นงาน จะพากันไปหาเจ้าภาพกฐินที่เหมาะสมมาปวารณาขอเป็นเจ้าภาพเอง โดยพระไม่ต้องทำอะไรเลย
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อรับรู้ว่าวัดต้องการสร้างหอระฆัง ทายกทายิการู้เข้า ก็ไปปรึกษากันนอกวัด เพื่อหาคนที่เหมาะสมไปปวารณาเป็นเจ้าภาพเพื่อนำกฐินไปทอด เป็นต้น อย่างนี้ได้
ตัวพระต้องไม่พูดเลียบเคียงใดๆ เอง ขืนพูดเลียบเคียง เงินและผ้าที่ได้เป็นวัตถุแห่งนิสสัคคีย์ทั้งหมด
พระที่ฉลาดจึงต้องสื่อสารพระวินัยข้อนี้ให้ทายกทายิกาประจำวัดได้เข้าใจ กันถ้วนหน้า ทายกทายิกาจะได้ช่วยบริหารจัดการได้ถูกต้อง
1
๓.บัญชีเงินฝากที่จะบอกบุญหรือเรี่ยไรต้องเป็นบัญชีชื่อวัดโดยมีคณะกรรมการดูแลและทำหน้าที่เบิกจ่ายเท่านั้น จะเอาชื่อพระรูปใดรูปหนึ่งไปเปิดบัญชีแล้วเรี่ยไร หาเงินเข้าโดยไม่มีกรรมการดูแลไม่ได้
ทุกวันนี้ มีพระหลายรูปไปเปิดบัญชีธนาคารในชื่อตัวเอง แล้วมาบอกบุญเพื่อสร้างโบสถ์ สร้างศาลา สร้างกุฏิหรือสร้างโน่นสร้างนี่ในวัดซึ่งไม่ถูกต้อง
2
ถ้ามีการตั้งคณะพระวินัยธรเป็นกรรมการตรวจสอบพบว่าท่านเอาเงินในบัญชีที่ใช้เรี่ยไรจะสร้างโบสถ์ สร้างศาลา ไปใช้ส่วนตัวหรือมอบให้ญาติตนเองใช้เกิน ๕ มาสก (สมัยนี้ น่าจะราวๆ พันหรือพันกว่าบาท บวกลบไม่มาก) สามารถถูกจับสึกได้ทันทีเพราะเข้าข่ายต้องทุติยปาราชิก
3
เงินที่เรี่ยไรว่าจะนำไปสร้างโบสถ์และสร้างศาลา ฯลฯ ทั้งหมด ต้องนำไปทำอย่างที่โฆษณาเท่านั้น ผิดวัตถุประสงค์ไม่ได้
๔. กรรมการที่ดูแลบัญชีควรจะมีทายกทายิกาที่เป็นเจ้าหน้าที่จากอำเภอ ผู้ชำนาญการทำบัญชีและผู้ใหญ่บ้านมาร่วมเป็นกรรมการ หรือทายกทายิกาอื่นๆ ที่มีความรู้ความสามารถเพื่อให้เกิดการโปร่งใสยิ่งขึ้น
ไม่ใช่เอาญาติๆ ตนเองมาเป็นกรรมการเพื่อให้ตนเบิกจ่ายได้คล่อง แล้วมีการยักยอกเงินในบัญชีไปใช้ส่วนตัวหรือให้ครอบครัวตนเองใช้ดังกล่าวข้างต้น
๕.เมื่อเปิดเป็นบัญชีวัดและมีอุบาสกอุบาสิกาหลายคนเป็นกรรมการแล้ว ผู้ที่จะนำบัญชีไปบอกบุญหรือเรี่ยไร เป็นหน้าที่ของคณะอุบาสกอุบาสิกาเท่านั้น พระทำเองไม่ได้
1
ถ้าพระนำบัญชีตนเองหรือบัญชีวัดไปบอกบุญหรือเรี่ยไรเอง จะเข้าข่ายต้อง *อัญญาตกวิญญัตติสิกขาบท* (ขอกับคนไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่ผู้ปวารณาไว้) ต้องอาบัติปาจิตตีย์ เงินที่ได้มาเป็นวัตถุแห่งนิสสัคคีย์ ต้องสละทิ้งเสียแล้วปลงอาบัติ ถึงจะพ้นจากอาบัติได้
1
การใช้เงินเหล่านี้เพื่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ เป็นสิ่งไม่เหมาะสม การเข้าไปใช้สถานที่ซึ่งสร้างด้วยเงินเหล่านี้จัดเป็น *อลัชชีบริโภค*
เพราะพระสงฆ์จะบอกบุญต่อผู้ที่ไม่ใช่ญาติ ผู้ไม่ได้ปวารณาเอาไว้ไม่ได้ พระที่เอาบัญชีวัดหรือบัญชีตนเองมาเรี่ยไรทาง FB จึงต้องอาบัติข้อนี้กันทุกรูป
๖.อาบัติปาจิตตีย์แม้จะเป็นอาบัติเบา แต่ถ้าอยู่ในวัดซึ่งคณะสงฆ์ท่านเคร่งพระวินัยและต้องการรักษาพระวินัย สามารถถูกไล่ออกไปจากวัดได้ถ้าต้องอาบัติข้อนี้บ่อยๆ
ปัญหาใหญ่ตอนนี้คือวัดหลายๆ วัดอยู่กันอย่างย่อหย่อนพระธรรมวินัย พระนึกจะเอาบัญชีวัดหรือบัญชีตนเองไปเรี่ยไรก็เรี่ยไร ไม่ได้สนใจพระวินัยกันเลย
สำนักพุทธฯ ซึ่งถูกสังคมวิจารณ์อย่างหนักในเรื่องดูแลคณะสงฆ์มาตลอดควรกวาดล้างพระที่เรี่ยไรอย่างไม่เหมาะสมเหล่านี้ตาม FB หรือสื่อต่างๆ ได้แล้วครับ
*หมายเหตุ: ใครที่ใช้ชื่อปลอม นามสกุลปลอมและรูปปลอมมาคอมเมนต์ผมจะบล็อคหมดนะครับ พวกที่ปอดแหก เก่งแต่ในรูอย่างนี้ไม่สมควรวิจารณ์ใดๆ แค่อ่านเฉยๆ แล้วไปใช้ชีวิตอย่างปอดแหกต่อไปก็พอครับ
โฆษณา