17 ก.ย. 2022 เวลา 01:33 • ปรัชญา
คนสมัยก่อนเขาใช้ชีวิตเรียบง่าย สอดคล้องสมดุลกับธรรมชาติ วิถีชีวิตไม่เร่งรีบ จิตใจสงบไม่ฟุ้งซ่าน แทบทุกบ้านจะต้องมีผู้หลักผู้ใหญ่ 1คนชอบเข้าวัดเข้าวา ทําบุญตักบาตร ฝักใฝ่ในธรรมและจะกระเต็งเราไปด้วยทําให้เราซึมซับธรรมะอย่างไม่รู้ตัว คนสมัยก่อนจะไปไหนมาไหนก็ลําบาก ไม่มีgrabให้เรียกโหนรถเมล์ไปทํางาน จะหางานเรียนหนังสือ ติดต่อสื่อสารด้วยความยากลําบาก ข้อมูลข่าวสารก็ฟังจากวิทยุ หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ จะสมัครงานทีต้องหาซื้อหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ The nation หางานในหน้าclassified เขียน resume ส่งไปรษณีย์
ผมนี่โหนรถเมล์เป็นตั้งแต่เด็กแล้ว เข้ามากรุงเทพช่วงแรกๆ ชอบไปซื้อหนังสือแถวสนามหลวง ชอบไปเดินแถวท่าพระจันทร์ ซื้อเทปคาสเซ็ทแถวสยาม เดินเล่นแถวคลองโอ่งอ่าง สะพานเหล็ก ซื้อตลับเกมส์ console เดินแถวๆบ้านหม้อซื้อแอมป์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เดินคลองถม อนุสาวรีย์ชัยคือจุดเริ่มต้นของสายรถเมล์ ตอนนั้นมันเดินทางยากลําบากก็จริง แต่มันก็มีเสน่ห์ มีสีสัน เรียบง่าย ความยากลําบากสร้างความอดทนความแข็งแกร่งให้กับชีวิตขึ้นมาจนเป็นเรื่องเล็กน้อย
วัดวาอาราม ร้านกาแฟ ร้านชําใกล้บ้านเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ของบรรดาลุงๆป้าทั้งหลาย เปรียบเสมือนเป็นสถานจิตบำบัดคลายทุกข์ คนรุ่นก่อนเมื่อสุมหัวรวมกัน ก็จะคุยสัพเพเหระทั่วๆไป ไม่บ้าการเมือง ไม่บ้าอุดมการณ์ หรือมาคุยกันเรื่องเมื่อไรจะรวย? ลงทุนอะไรดี? forex3D ใครจะถูกจับอีก introvert คืออะไรไม่รู้จัก? เมื่อไร blackpink จะออกอัลบั้มใหม่ แต่จะคุยกันกันไปเรื่อย ถามสารทุกข์สุขดิบ จิบกาแฟแบบชิวๆ
1
ความทุกข์ของคนรุ่นเก่าก็มี แต่กระนั้นก็ไม่ได้ทําให้คนรุ่นเก่าเป็นบ้าหรือซึมเศร้าแต่อย่างใด เพราะเข้าใจสภาพว่ามันเป็นเช่นนั้นเอง ทุกคนก็ใช้ชีวิตแบบเดียวกันหมด เป็นธรรมชาติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ความทุกข์ กับความยากลําบากในการดํารงค์ชีวิตจึงกลายเป็นคนละเรื่องเดียวกัน คือคนสมัยก่อน เขาทุกข์ก็ไม่ทุกข์มากเหมือนในปัจจุบัน เมื่อทุกข์ก็ปล่อยวางได้ง่าย สถาบันครอบครัวเข้มแข็ง ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาคอยเป็นที่พึ่ง เป็นที่ปรึกษา มีทุกข์ ไม่สบายใจก็ปรึกษาหารือกัน
เด็กๆก็ไม่ได้บ้าเรียนหนังสือ ผู้ใหญ่ก็ไม่ได้คาดหวังให้ลูกๆเป็นหมอ จับไปเรียนพิเศษอะไรมากมาย หรือจะต้องอยู่ห้อง king ห้องqueen สอบคณิตศาสตร์โอลึปิคได้ ส่วนใหญ่ก็เรียนโรงเรียนวัด สอบ entrance ไม่ได้ก็เรียนรามคำแหง พูดง่ายๆคือเอ็งอยากจะเป็นอะไรก็เป็น เด็กๆโตมาพร้อมครอบครัวที่อบอุ่น มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านแถวๆนั้น เล่นทอยตุ๊กตุ่น ตุ๊กตา โดดยาง ไปตามเรื่อง เดินเล่นเข้าออกบ้านโน้นบ้านนี้ไปเรื่อย เพราะพ่อแม่รู้จักกันหมด รู้ว่าไอ้นั่นไอ้นี่ลูกใคร? เหมือนเจี๊ยบกับน้อยหน่าในหนังเรื่องแฟนฉัน
ผมคิดว่าปัญหามันมาเกิดขึ้นมากในช่วงหลังนี่เอง เนื่องจากวิถีชีวิตเราเปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ จากอดีตสู่ปัจจุบัน ที่เทคโนโลยีมันนําพาผู้คนไปสู่ความเจริญ ความทันสมัย แต่ในอีกมุมหนึ่ง สภาพจิตใจของเราปรับตัวไม่ทัน เราใช้ชีวิตเร่งรีบไปตามกระแส ไปตามอะไรบางอย่างที่มากําหนด เราไม่ได้กําหนดชะตาชีวิตของเราขึ้นมาเอง เราคอยทำตามคนอื่น ทำตามรูปแบบหรือกรอบที่คนอื่นวางไว้ เราไม่ได้ใช้ชีวิตให้มันเรียบง่าย สอดคล้องกับธรรมชาติเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
1
ค่านิยมของความสำเร็จความสุขที่ได้เริ่มสวนทางกันในอดีตที่มันเคยเป็นสิ่งเดียวกัน คําว่า slow life ที่คนรุ่นใหม่โหยหาก็คือรูปแบบชีวิตของคนรุ่นเก่า คําว่าintrovert สําหรับคนรุ่นเก่าหมายถึงชีวิตที่สันโดษกลมกลืนกับธรรมชาติ ไม่ได้แยกตัวออกมาอยู่คนเดียวแต่ประการใด เราเสียสมดุลของความเจริญด้านวัตถุกับจิตใจ ช่องว่างมันห่างออกไปเรื่อยๆ โลกกลายเป็นโลกเสมือนแบบonline ที่ไม่ใช่โลกที่แท้จริงเชื่อมต่อหากันถึงกันหมด ความรู้ ความจริงความไม่จริง ความดีความชั่วผสมปนเป สามารถเข้าถึงได้ในชั่วพริบตาแยกแยะไม่ออกโดยง่าย
โฆษณา