17 ก.ย. 2022 เวลา 09:56 • บันเทิง
เปิดประวัติ“โอ-วรุฒ วรธรรม” อดีตพระเอก ฉายา“เจ้าชายสายเสมอ”
วรุฒ วรธรรม หรือ โอ เกิดเมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2512 เป็นบุตรชายของแรม วรธรรม นักแสดงอาวุโส กับอรพิน กุญชร ณ อยุธยา และเป็นหลานตาของ ร้อยโท หม่อมหลวงพร้อม กุญชร(พี่ชายพลโท หม่อมหลวงขาบ กุญชร) เป็นหลานปู่ของสุทิน วรธรรม และเป็นหลานย่าของดอกเอื้อง(ดิบบ์) วรธรรม ผู้ซึ่งเป็นบุตรของ William Reginald Dibb นายห้างป่าไม้ชาวอังกฤษ
โอสำเร็จการศึกษาที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน แล้วเข้ารับการศึกษาต่อด้านการบินที่ประเทศอังกฤษ ต่อมาตัดสินใจยุติการเรียนเพื่อเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการชักชวนของมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ น้าชาย งานแรกคือถ่ายแบบให้แก่นิตยสารแพรว ต่อมา รุจน์ รณภพ ชักชวนให้เล่นภาพยนตร์
เรื่องที่ทำให้มีชื่อเสียงขึ้นมาคือ คู่กรรม(แสดงคู่กับจินตหรา สุขพัฒน์) ตามด้วย เขาชื่อกานต์(แสดงคู่กับจินตหรา สุขพัฒน์ เช่นกัน) และ โก๊ะจ๋าป่านะโก๊ะ ก่อนจะไปแสดงละครโทรทัศน์ เช่น ละอองดาว,พี่เลี้ยง,ในฝัน,หน้าหากดอกซ่อนกลิ่น(ละครเรื่องแรกและเรื่องเดียว ของ กิ๊ก-สุวัจนี ไชยมุกสิก ที่แสดงเป็นนางเอก)
โอยังมีผลงานพิธีกรหลายรายการ เช่น กรุสมบัติ,ไซเบอร์เกม,กินกับเกม,สะบัดช่อ แต่ที่โดดเด่นเห็นจะเป็น โอโน่โชว์ ซึ่งเป็นพิธีกรคู่กับเมทนี บุรณศิริ ซึ่งวันที่ 27 และ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2546 เขาได้จัดคอนเสิร์ต โอโน่โชว์ Uncensored ที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
เคยสมรสโดยไม่จัดงานกับเจษฏาวัลย์ จันทร์แตง หรือเก๋ พนักงานประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาลเวชธานี ซึ่งพบรักกันเมื่อครั้งไปเยี่ยมไข้เพื่อน ซึ่งมีอายุห่างกัน 17 ปี เขาระบุว่า สารภาพรักเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2550 จากนั้นจึงสมรสโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน และมีบุตรชายคืออาณาจักร วรธรรม หรือแอร์บัส คลอดเมื่อปี พ.ศ. 2552 บิดามารดาของวรุฒต้องการให้ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจากไม่เชื่อว่าเป็นลูกของวรุฒ ส่วนเจษฎาวัลย์และครอบครัวไม่ยินยอมให้ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจากกลัวว่า จะแย่งลูกจากตนไป
และคิดว่าโอไม่มีความสามารถที่ดีในการเลี้ยงลูก ทั้งระบุว่า ไม่ต้องการค่าเลี้ยงดู โดยโอยอมรับว่า ไม่ได้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดูแลบุตร ในปีเดียวกัน เขากล่าวขณะออกรายการ คลับ ฟรายเดย์ โชว์ Based On Celeb Story ว่า ครั้งหนึ่งในวันคล้ายวันเกิดของเขา เขาพาหญิงสาว 16 คนมาที่ตนคบอยู่มาพบหน้ากัน โดยคิดว่า อย่างไรเสีย ผู้หญิงก็คงยอมคุยกันโดยดี
ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2553 โอและเจษฎาวัลย์แยกทางกัน และในวันที่ 7 ธันวาคม ปีเดียวกัน เจ้าตัวปฏิเสธเรื่องการมีชู้ แต่ยอมรับว่า ยังติดเที่ยวโคโยตีอยู่
วันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2553 เขาเปิดเผยว่า ตนเองมีบุตรชายคนโตที่เกิดจากภรรยาคนแรกอีกหนึ่งคนอยู่ที่ประเทศนิวซีแลนด์ ชื่อ "เอ้ก" และกล่าวด้วยว่า "คนที่ผมเคยทำท้องมีเยอะแยะ" ทั้งยอมรับว่า เป็นบิดาของอาณาจักร วรธรรม และไม่ปฏิเสธว่า เคยพาผู้หญิงมาที่บ้านและปฏิบัติเชิงชู้สาว เขากล่าวด้วยว่า"มีคนพยายามขุดคุ้ยอดีตอันไม่น่าจดจำของภรรยา เขาไม่สนใจ"
ใน พ.ศ. 2556 ประธานกรรมการบริษัท ทีวี ธันเดอร์ สั่งให้เข้าพ้นสภาพการเป็นพิธีกร เนื่องจากมีพฤติกรรมเมาเหล้าระหว่างทำงาน จากนั้นใน พ.ศ. 2557 เขาตัดสินใจทำธุรกิจ แต่เปิดเผยว่า ถูกโกงเงินไปหลายล้านบาท เขาจึงขายบ้าน เรือยอชต์ และทองคำ ก่อนย้ายไปอยู่บ้านที่จังหวัดเชียงใหม่
หลังงานแสดงน้อยลง เพราะเขาติดสุราและบุหรี่เรื้อรัง จนต้องบำบัดรักษาต่อเนื่อง เขาต้องออกจากวงการบันเทิงตั้งแต่วันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 ไปทำธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ชื่อ"บ้านวรุฒ" โดยบริการลูกค้าด้วยตนเอง ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นแฟนคลับ คนสนิท และเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียง ที่แวะเวียนมาให้กำลังใจการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ร้านดังกล่าวอยู่บ้านพักของเขาที่อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ผลประกอบการนั้นขาดทุน
โอเสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2561 ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ เนื่องจากมีอาการวูบหมดสติ สิริอายุได้ 49 ปี โดยผลงานชิ้นสุดท้าย คือ แสดงรับเชิญ ซีรี่ย์ สัมผัสพิศวง ตอน พระเอกที่หายไป ซึ่งงานฌาปนกิจศพในวันที่ 23 ธันวาคม ปีเดียวกัน ที่วัดลัฎฐิวัน(พระนอนขอนตาลศักดิ์สิทธิ์) อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ในการนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถโปรดให้หม่อมเจ้าฑิฆัมพร ยุคล เสด็จแทนพระองค์เป็นประธานของงาน
โฆษณา