18 ก.ย. 2022 เวลา 19:13 • คริปโทเคอร์เรนซี
“The Merge กับความคาดหวังด้านราคา”
สัมภาษณ์ ดร.บิ๊ก ณปภัช ปิยไชยกุล
วันพุธที่ 14 กันยายน 2565 (ก่อน The Merge 1 วัน)
1.ทำไมต้องมี The Merge? ยุคเริ่มต้น Ethereum พัฒนามาจาก Bitcoin (เรียกว่าการ Fork) ซึ่งเป็นรูปแบบ Proof of Work ทำให้ต่อมาเมื่อมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันกับ Bitcoin ETH จึงมีความคิดที่จะเปลี่ยนไปสู่ Proof of Stake
 
โดย ETH เป็น Smart Contract ให้คนมาพัฒนาแอปผ่านเครือข่าย ทำให้ Proof of Work เริ่มไม่เหมาะ
2.แผนก็คือจะทำระบบคู่ขนานกันไป โดยมี Proof of Stake ที่เรียกว่า Beacon Chain ควบคู่ไปกับ Chain เดิมที่เป็น Proof of Work (รูปประกอบ 1)
โดยมี Proof of Stake ที่เรียกว่า Beacon Chain ควบคู่ไปกับ Chain เดิมที่เป็น Proof of Work (รูปประกอบ 1)
3.หลังจากวันที่ 15 ก.ย. 2565 Ethereum ที่เป็นระบบ PoW จะไม่มีแล้ว เป็น PoS อย่างเดียว
4.แล้วส่งผลดีอย่างไร? ในระยะสั้น ไม่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรนัก เพราะเป็นแค่ช่วงเริ่มต้น โดย ดร.บิ๊ก ยกตัวอย่างสามสิ่งที่ Ethereum ต้องการสร้างความสมดุลให้เกิดขึ้น (ภาพประกอบ 2) คือ Scalability /Security/Decentralization ซึงโดยปกติจะทำได้ดีอย่างมากก็แค่ 2 ฝั่งคือ Decentralization และSecurity แต่ Scalability ยังเป็นปัญหาของ Ethereum (ค่าแก๊สแพงและธุรกรรมช้า)
ต้องการสร้างความสมดุลให้เกิดขึ้น คือ Scalability /Security/Decentralization
5.ความเข้าใจผิดคือ คนเข้าใจว่า เมื่อ The Merge แล้วจะแก้ปัญหาตรงนี้ทันที แต่…ความจริงคือ The Merge เป็นแค่ประตูแรกของ ETH 2.0 เท่านั้น ยังมี เฟสอื่นๆที่ต้องทำอีก
6.อีกนานแค่ไหนถึงจะแก้ปัญหา Scalability นี้ได้? หาคำตอบได้ยาก เพราะ ETH ค่อนข้างมีปัญหาในการอัพเกรดได้ล่าช้า และติดโรค เลื่อนมาตลอดอยู่แล้ว
7.ความเข้าใจผิดอีกอย่างหนึ่งคือ บางคนเข้าใจว่า หลังวันที 15 ก.ย. นี้ เราจะสามารถ unstake เหรียญ ETH ที่ Lock ไว้ได้ แต่ข้อเท็จจริงอาจเป็น 6-12 เดือนข้างหน้า หลัง Shanghai Upgrade
8.The Merge จะนำไปสู่การ Sharding (ภาพประกอบที่ 3) คือการนำ Blockchain มาซอยย่อยเป็น Shard โดย ดร.บิ๊ก ให้ข้อมูลว่า Ethereum Chain จะถูกแบ่งเป็น 1,024 Shard และแต่ละ Shard มี 128 nodes จะทำให้ ETH เร็วขึ้น แต่..ก็จะมีความท้าทายต่อฝั่ง Security ที่จะลดลง
The Merge จะนำไปสู่การ Sharding (ภาพประกอบที่ 3) คือการนำ Blockchain มาซอยย่อยเป็น Shard
9.ความเสี่ยงของ ETH หลัง The Merge? อาจเกิดความผิดพลาดได้ โดย ดร.บิ๊กตั้งข้อสังเกตุว่า มีนักลงทุน เข้าถือ เหรียญ L1 chain อื่นๆ เพื่อป้องกันความเสี่ยงนี้ไว้
10.หลังจาก ETH ขุดไม่ได้ Supply จะลด? ราคาจะขึ้นหรือไม่ ดร.บิ๊กยกตัวอย่างว่า ไม่น่าจะง่ายขนาดนั้น โดยเทียบกับ BTC ที่มีซื้อขายไม่เยอะเมื่อเทียบกับ Supply ทั้งหมด แต่ก็ไม่สามารถผลักดันราคาได้ เพราะตลาดคริปโตก็ถูกครอบงำโดยเศรษฐกิจโลก
11.หลัง The Merge ไม่กี่วัน จะมีประกาศตัวเลขดอกเบี้ยจาก FED ซึ่ง ดร.บิ๊ก มองว่ามีความสำคัญต่อตลาดมากกว่า
12.เป็นโอกาสเข้าซื้อหรือไม่? ดร.บิ๊กไม่เห็นข้อได้เปรียบที่จะเข้าไปซื้อตอนนี้ ถ้า…ต้องการกำไรในระยะสั้น แต่ก็มองว่าในระยะยาวเหรียญ ETH ก็ยังได้เปรียบเหรียญอื่นๆ เพราะมี Network Effect เมื่อเทียบกับ L1 เหรียญอื่นๆ และ Ethereum เป็นกระดูกสันหลังของเทคโนโลยี WEB3
13.Layer2 จะเป็นตัวกำหนดอนาคต ของ Ethereum 2.0 ถ้าสามารถดึงคนเข้ามาใน chain ได้ แต่ก็ไม่ง่ายถ้าค่าแก๊สยังแพงอยู่
14.ETH มีคู่แข่งที่น่ากลัวในช่วงที่กำลังตั้งไข่กับการเป็น PoS นี้ เช่น BSC DOT AVAX NEAR ซึ่งก็พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ แต่อาจจะตาม ETH ด้านผู้ใช้งานอยู่
15.เหตุผลที่จะทำให้ ETH to The MOON คือ ลดพลังงานได้ 90% / SUPPLY เหรียญลดลงอีก 90% / ดึงคนมาใช้งานใน chain จากกลุ่ม L2 ทั้งหลาย (ตัวกำหนดอนาคตของ ETH)
16. Roadmap ของ The Merge ยังมี The Surge The Verge The Purge และสุดท้ายที่ The Splurge
แฟนๆ Ethereum คงต้องติดตามกันต่อไปทีละก้าวว่าหลังจากนี้ Ethereum จะไปได้ไกลแค่ไหน และเศรษฐกิจโลกจะกลับมาเข้าที่เมื่อไหร่?
ขอบคุณดร.บิ๊ก ณปภัช ปิยไชยกุล สัมภาษณ์กับรายการ Trader KP Talk ประจำวันที่ 14 ก.ย. 2565
โฆษณา