19 ก.ย. 2022 เวลา 01:32 • ความคิดเห็น
หากเราเกิดความหงุดหงิดโมโหบ่อยๆ จนอารมณ์ ..ที่เค้าเรียกว่าอารมณ์นั้นเป็นตัวกรรม เราใช้ไปด้วยคำพูด หรือ ว่ากิริยาที่ไม่ดี อีกทั้ง..อารมณ์นึกคิดก็มึนๆ งง หน้ามืดตาลาย อารมณ์เหล่า มันเป็นสีดำ . ทั้งนั้น เราใช้อารมณ์โกรธ..หน้าตาเป็นยักษ์เป็นมาร ..อารมณ์มันเหมือนลุกขึ้นมา แสดงท่าทางออกมา ..แล้วสงบ ..นอนเนื่องอยู่ในกาย ..เป็นของหนัก …ทับจิตให้อ่อนเปลี้ย เพลียแรง ….
การที่เราจะช่วยจิตของเรา ..เรื่องการทำบุญใส่บาตร นั่น ก็มีความหมาย เหมือนจิตเรามันยึดกรรรมอยู่ เราก็ผ่อนคาย..สละปัจจัยที่เรามี ที่เรายึด เหมือนเรายึดโลภโกรธหลงอยู่ แบ่งปันปัจจัยนั่น มาแปรสภาพให้เกิดเป็นบุญ ก็จะช่วยเหลือจิตเราให้ผ่อนคลาย ความเหน็ดเหนื่อย ที่เราเผลอสติใช้อารมณ์ไป
เรื่องความอ่อนเพลียไม่มีเหตุผล ต้องสำรวจตรวจสอบ การใช้อารมณ์ การใช้กิริยากายวาจาใจของเรา อารมณ์ที่เราเหวี่ยงออกมา นั่นแหละ แสดงว่า จิตของเรา..มันสะสม..สะสมอารมณ์มามาก มันถึงเหวี่ยงออกมา บางครั้งมันก็หนัก ..หนักอกหนักใจ ไม่อยากพูดจา มึนงง..
..เวลาจะสำรวจตัวเราเอง ก็หยุดพักกาย อยู่นิ่งๆ ทำจิตเฉย.เสียก่อน เพื่อทบทวนการใช้อารมณ์ของเราในแต่ละวัน ว่าทำอะไรมา ..หากให้ดี ก็ระลึกเรื่องจิตอยู่ในเรือนกายบิดามารดา นำกายนี้มากราบพระ (ให้พระท่านช่วย พระรัตนะไตร พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อัครสาวก ระลึกถึงพระแล้วค่อยกราบ) สร้างบุญกุศล..แล้วก็ทบทวนการใช้อารมณ์ของตัวเอง เพื่อผ่อนคลายพิษของอารมณ์ที่ต้างคากายค้างคาใจออกไป อารมณ์นั้นเมื่อเราใช้ ..มันก็มีพิษของอารมณ์เกิดขึ้น..ทั้งที่กายและใจ
โฆษณา