19 ก.ย. 2022 เวลา 15:35 • ธุรกิจ
1) โดยส่วนตัว ผมเองที่ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์แต่อย่างใด
ผมขอมองจากสายตาคนนอกวงการนักลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ในเชิงเปรียบเทียบว่า
-การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์เปรียบได้กับ “เครื่องยนตร์ดีเซล” ซึ่ง “รอบของเครื่องยนต์” จะ “ช้ากว่า” ภาคตลาดหลักทรัพย์ ที่รอบของเครื่องยนต์จะ “หมุนเร็วกว่า” เปรียบเทียบได้กับ “เครื่องยนตร์เบนซิน”
เพราะ “เม็ดเงิน” ที่ใช้ลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นเม็ดเงินจำนวนมหาศาลไม่ว่าจะมองจากฝั่งผู้ซื้อหรือผู้ขายก็ตาม ไม่ว่าจะซื้อด้วยเงินสดหรือทำการกู้เงินเพื่อซื้อโดยผ่านสถาบันการเงินที่มี “อัตราดอกเบี้ย” เป็นปัจจัยสำคัญในการลงทุนก็ตาม
ผมจึงมองว่า นักลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์นอกจากต้อง “ใจเย็น” แล้ว เงินที่พวกเขาและเธอใช้ในการลงทุนก็ต้องเป็น “เงินเย็น” เช่นกัน และนี่คือสาเหตุที่ผมเปรียบเทียบการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ว่าเป็น “เครื่องยนตร์ดีเซล” เพราะถึงรอบของมันจะยาวนาน แต่ “พลัง” ของมันก็มหาศาลเพียงพอที่จะเป็น “หัวรถจักร” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของทั้งประเทศได้!
ในขณะที่ “การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์” นักลงทุนสามารถใช้เงินก้อนที่เล็กกว่า เพื่อทำการซื้อขายทำกำไรได้อย่างรวดเร็วเปรียบได้กับ “เครื่องยนตร์เบนซิน” ที่รอบจัดกว่า แต่ มีแรงขับเคลื่อนน้อยกว่านั่นเอง!
2) ผมเคยศึกษาประวัติของคุณ Robert Kiyosaki ซึ่งท่านได้เป็นตำนานแห่ง Rich Dad Poor Dad มาจนถึงทุกวันนี้
1
ท่านเองเคยเป็นทหารในยุคสงครามเวียดนาม โดยท่านเป็นนักบิน helicopter ในยุคนั้น
หลังสิ้นสุดสงคราม ท่านสนใจการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ และได้ทำการสมัครเรียนหลักสูตรการลงทุนในภาคธุรกิจนี้ จนท่านเองกลายเป็นหนึ่งในนักลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์ในที่สุด
“The Real Book of Real Estate: Real Experts. Real Stories. Real Life”
เป็นหนังสือที่ท่านแต่งขึ้น ซึ่งผมเองก็ยังไม่เคยได้อ่าน แต่ก็เป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับแฟนๆของท่าน!
นอกจากนี้ท่านก็มีช่อง Youtube ของท่าน ที่ผมอยากจะแนะนำคลิปที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่อาจเป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับผู้ที่สนใจดังนี้ครับ
3) เนื่องจากผมเองในเวลาอยู่บน Youtube เป็นส่วนใหญ่ ผมจึงขอแนะนำคลิปจาก “channels” ที่ผมเคยผ่านตาและอาจเป็นประโยชน์ต่อคุณดังนี้ครับ
3.1) TNN Businesses Watch และ
TNN Wealth Guide
3.2) DD Property
3.3) Chula Radio Plus
3.4) Wealth Me Up
4) วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ (subprime crisis) ในช่วงปี 2008 เป็นกรณีศึกษาของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่น่าสนใจครับ ผมเองทำการค้นคว้าและหาข้อมูลเพื่ออธิบายตัวเอง และได้เขียนรายละเอียดบางส่วนไว้ใน post นี้ของผมครับ
5) โดยสรุปคือ ถ้าเราสามารถมองหาช่องทางในการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ได้ โดยใช้ “เงินลงทุน” และ “ความเสี่ยง” ในระดับตำ่ โดยที่เรายังสามารถคง “อัตราผลตอบแทน” ในระดับ 7-10% ต่อปีได้
ผมเชื่อว่านี่คือ “การลงทุน” ที่น่าสนใจในภาคธุรกิจนี้ครับ!
โฆษณา