#อันตรายจากควันธูป
🟢 จากข้อมูลบนเฟซบุ๊กส่วนตัวของ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์ด้านโรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพที่น่าสนใจของคนไข้หญิงไทยวัย 65 ปี ที่ตรวจร่างกายประจำปี และเอ็กซเรย์พบมะเร็งปอดข้างซ้ายด้านบน โดยที่ไม่มีอาการใดๆ ไม่ไอ ไม่มีไข้ ไม่เหนื่อย ไม่เจ็บหน้าอก น้ำหนักไม่ลด มีเพียงแค่โรคความดันโลหิตสูงเท่านั้น
🟢 นอกจากนี้ยังไม่สูบบุหรี่ และไม่มีประวัติการสัมผัสใกล้ชิดกับคนสูบบุหรี่ แต่มีพฤติกรรมที่จุดธูปสัปดาห์ละครั้งๆ ละ 20 ดอก ในที่ทำงาน ติดต่อกันเป็นเวลา 6 ปี สรุปคือสาเหตุมะเร็งปอดมาจากการหายใจเอาควันธูปเข้าไปติดต่อกันเป็นเวลานาน แต่ก็ยังโชคดีที่ไม่ได้ลุกลามมากนัก และเมื่อรับการรักษาด้วยการผ่าตัด และเลิกจุดธูปหลังจากผ่าตัดเด็ดขาดก็ทำให้มะเร็งปอดหายสนิท
🟢 จากผลการวิจัยของโรงพยาบาลวิชัยยุทธที่ทำร่วมกับสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์พบว่า ควันธูปเป็นอันตราย และส่งผลทำให้เกิดโรคมะเร็งปอดได้เช่นเดียวกับควันบุหรี่ โดยการจุดธูปเพียง 1 ดอก และสูดควันเข้าไปเท่ากับการสูบบุหรี่ 1มวน และยังสถิติที่น่าสนใจที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างควันธูปกับสาเหตุการเป็นมะเร็งก็คือ “ผู้หญิงที่เป็นมะเร็งปอดมากกว่า 50% ไม่สูบบุหรี่
และคนในครอบครัวก็ไม่มีใครสูบบุหรี่ แต่ที่เป็นมะเร็งปอดก็เพราะได้รับสารก่อมะเร็งจากควันธูป” นอกจากนี้ยังมีการเปรียบเทียบเอาไว้อีกว่า "การจุดธูปในบ้านเพียง 3 ดอก ในสถานที่ปิด ซึ่งการระบายอากาศไม่ดี เทียบเท่ามลพิษที่มาจากการจราจรตามสี่แยกเลยทีเดียว
#สารพิษในควันธูป
🟢 ในควันธูปมีสารพิษ และโลหะหนัก เช่น เบนซีน บิวทาไดอีน เบนโซเอไพรีน โครมเมียม นิกเกิล และสารตะกั่วซึ่งสารพิษเหล่านี้มาจากส่วนประกอบที่ใช้ผลิตธูป เช่น ขี้เลื่อย กาวกั๊วก่า (กาวชนิดหนึ่งที่เพิ่มความเหนียวให้กับผงธูป)น้ำหอมที่สกัดมาจากพืช หรือสารเคมีที่ใช้ผสมเพื่อทำให้เกิดกลิ่นหอม และถูกเผาไหม้กลายเป็นควันออกมา
ดังนั้นการหลีกเลี่ยงสูดดมควันธูปก็คือ ควรจุดธูปในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และควรสวมหน้ากากอนามัย หรือใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ปิดปากปิดจมูก และหากเป็นไปได้ให้เลือกใช้ธูปขนาดสั้น เพื่อลดระยะเวลาของการเกิดควัน หรือใช้ธูปไฟฟ้าแทน
ขอบคุณข้อมูลจาก :
1.นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์ด้านโรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ
3.โรงพยาบาลพญาไท
4.วารสารสาธารณสุข
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
