เราเคยเป็นเนื้องอกในท่อน้ำนม ตอนอายุ45 อาการคือ มีเลือดไหลออกมาทางหัวนม นอนตื่นมา ที่นอนเปื้อนเลือด ยกทรงเปื้อนเลือด ก็เลยไปหาหมอ
ไปตรวจรักษาที่ รพ.จุฬา เพราะเราต้องการใช้สิทธ์กาชาด ค่าตรวจแมมโมแกรม 2,500 ค่าหมอ 50 บาท ต้องจ่ายเอง ค่าผ่าตัด ใช้สิทธ์กาชาดลดหย่อน 50% จ่ายประมาณ 15,000 ผลตรวจเป็นเนื้องอกดี จบการรักษา ไม่มีฉายแสง ไม่มีคีโม
แล้วก็มาเป็นอีกรอบ ตอนอายุ 48 ผ่ารอบสอง ข้ามเดิม ตำแหน่งใหม่ ( รอบแรก2 แผล 2 ตำแหน่ง รอบ2 1 แผล รวมเป็น 3 ตำแหน่งในข้างเดิม จากคัพซี เหลือคัพเอเลย ) ค่าตรวจแมมโมแกรม 2,700 ค่าหมอ100 ค่าตรวจสุขภาพก่อนผ่า 2,700 พวกนี้เราจ่ายเอง ไม่ได้เบิกอะไร ค่าผ่าตัดใช้สิทธิ์กาชาด จ่าย 1,500 เราตกใจมาก ค่าผ่าตัดถูกกว่าค่าตรวจอีก ค่าเอาชิ้นเนื้อไปตรวจยัง 7,000 เจ็บใจ ทำไมหมอมาคิดทีหลัง ไม่ตรวจไปตอนผ่าตัด กลายเป็นค่าผ่าตัดถูกสุด ค่าตรวจชิ้นเนื้อแพงสุด ผลออกมาเนื้อดี ก็จบการรักษา
ตอนแรกหมอนัดตรวจแมมโมแกรม ปีละ 2 ครั้ง เพราะเรามีประวัติผ่า 2 รอบ แต่พอเจอโควิด ปีนี้ทั้งปี หมอเว้นไม่ตรวจ นัดปีหน้าเลย ค่อยมาตรวจ
คุณอย่าพึ่งวิตกจริตนะ เพราะถ้าเป็นแค่เนื้องอก ผ่าตัดก็จบ อาจจะไม่ใช่มะเร็งก็ได้ รักษาโรงพยาบาลรัฐ รวมๆแล้วไม่กี่หมื่น ใช้สิทธิ30 บาท ในการรักษามะเร็งเต้านมได้ ตลอดการรักษารวมๆแล้วอาจจะจ่ายไม่กี่พัน
ที่สำคัญอย่ากลัวหมอ อย่าพึ่งคิดว่าตนเองจะตาย อย่ากลัวค่ารักษา อย่าไปรักษาทางเลือก สมุนไพรอะไรทั้งสิ้น เข้ารพ.เถอะ ถึงคิวจะยาวมาก แต่หมอรักษาหายนะ รู้เร็ว รักษาเร็ว หายก่อนเป็นมะเร็งนะ
ปล. ผ่าตัดรอบแรก กาชาดลดหย่อนให้เรา 50% ตอนนั้นเรายังไม่ได้เหรียญกาชาด บริจาคไป40กว่าครั้ง แต่ผ่ารอบ2 เราได้เหรียญกาชาดแล้ว บริจาคเลือดเกิน 50ครั้ง น่าจะเบิกได้ทั้งหมด ยกเว้นค่าอาหารและบริการอื่นๆ ที่เบิกไม่ได้ ค่าผ่าตัด2ครั้ง ถึงได้ต่างกันมาก
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
