21 ก.ย. 2022 เวลา 03:26 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ส่องอนาคต JMART-JMT-SINGER กับโอกาสทางธุรกิจที่เติบโตแบบต่อเนื่อง
อนาคตการเติบโตของกลุ่มเจมาร์ทยังเติบโตแบบต่อเนื่องหลายมิติไม่ว่าจะเป็นธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริม รวมถึงธุรกิจบริหารสินทรัพย์ และธุรกิจพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อ ซึ่งทำให้หุ้นในกลุ่มนี้ยังคงติดอยู่ในจอเรดาร์ของเหล่านักลงทุนอยู่เสมอ ทั้งนี้แนวโน้มการเติบโตจะเป็นอย่างไร Wealthy Thai จะพาไปหาคำตอบ
หากจะมองหากลุ่มหุ้นที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในแต่ละปีส่วนหนึ่งก็คงจะหนีไม่พ้นหุ้นกลุ่มเจมาร์ท ที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มสินค้าไอที ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ หรือกลุ่มธุรกิจบริหารหนี้ และธุรกิจสินเชื่อ อย่าง JMART,JMT และ SINGER
โดยแต่ละบริษัทมีประเด็นบวกเฉพาะตัวอย่างเห็นได้ชัดเจนในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ และช่วงที่เหลือของปี อย่าง JMART กับการรุกเข้าไปจับมือกับพันธมิตรในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมกับกลุ่ม BTS และการเข้าไปลงทุนถือหุ้นบริษัทในตลาดหุ้นอย่าง BRR อีกทั้งการเปิดแบรนด์ร้าน JIT ขยายกลุ่มสินค้าไอที เกมมิ่ง และ สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น สมาร์ททีวี
ส่วน JMT ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง และการเข้าไปจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับธนาคารยักษ์ใหญ่ของไทยอย่าง KBANK ภายใต้ชื่อ บริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด (JK AMC) ซึ่งมีแผนโอนขายหนี้ NPL ให้แก่ JK AMC ล็อตแรกจำนวน 50,000 ล้านบาท ทางฝั่งผู้บริหาร JMT ระบุว่า มีส่วนช่วยหนุนให้กำไรของบริษัทในปีนี้โตได้กว่า 45%
ขณะที่ SINGER มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องของธุรกิจ โดยทาง SINGER มองว่าพอร์ตสินเชื่อปี 65 จะเกินเป้าหมายที่วางไว้ที่ 15,500 ล้านบาท มาจากการเติบโตสินเชื่อเช่าซื้อกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และ สินค้าเชิงพาณิชย์ อีกทั้งธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกันเติบโตจนมีแผนเตรียมที่จะนำบริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC เข้าตลาดหุ้น
สำหรับในมุมมองของนักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เชื่อว่ากำไรปกติของ JMART ในช่วงครึ่งหลังของปี 65 จะโตได้ดีกว่าทั้งงวดครึ่งปีแรก และช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเติบโตขึ้นของทั้งธุรกิจหลักคือ การจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ (Jaymart Mobile) และธุรกิจรอง คือ การบริหารหนี้(JMT)
โดยคาด Jaymart Mobile น่าจะมีรายได้เร่งตัวขึ้นในไตรมาส 3/65 เป็นต้นไป จากการเปิดเมืองเต็มรูปแบบตั้งแต่ต้น ก.ค. 65 และกำลังซื้อที่เริ่มดูดีขึ้น รวมทั้งการที่ห้างฯ ร้านค้าต่างๆ ร้านจำหน่ายมือถือกลับมาเปิดได้ตามปกติ นอกจากนี้คาดในงวดไตรมาส 4/65 จะได้รับผลบวกจากการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือที่มักจะมียอดขายสูงสุดในช่วงปลายปี และการจำหน่าย iPhone รุ่นใหม่ที่มีมาร์จิ้นสูงกว่ามือถือแบรนด์อื่นๆจะช่วยผลักดันอัตรามาร์จิ้นโดยรวมให้สูงขึ้นได้
ส่วน JMT คงประมาณการ คาดกำไรสุทธิปี 2565 จะเพิ่มขึ้นถึง 45.7% จากปี 64 ซึ่งทำ New high ต่อเนื่องจากรายได้ธุรกิจบริหารหนี้เติบโต สอดคล้องกับพอร์ตลูกหนี้ และการตัดมูลค่าเงินลงทุนใน ลูกหนี้ด้อยคุณภาพที่หมดลงต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังได้ผลบวกจากค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลง จากการนำเงินเพิ่มทุนไปชำระหนี้ตั้งแต่ปลาย ธ.ค. 64
ขณะเดียวกันคาดกำไรสุทธิงวดไตรมาส 3/65 จะเติบโตทั้งจากไตรมาส 2/65 และช่วงเดียวกันของปีก่อน จากแนวโน้มการจัดเก็บเงินสด(Cash collection) เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล และแนวโน้มธุรกิจประกันภัยฟื้นตัวชัดเจนเนื่องจากคาดว่าจะไม่มีการบันทึกค่าใช้จ่ายเคลมเกี่ยวกับโควิดแล้ว เพราะสัญญาประกันภัยโควิดส่วนใหญ่ครบกำหนดสัญญาในเม.ย. 65 แล้ว
ฟากของ SINGER นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) คงมุมมองบวกต่อเนื่องในครึ่งหลัง คาดพอร์ตสินเชื่อยังเติบโตได้ตามเป้าหมาย โต 46% จากปีก่อน แตะที่ระดับ 1.6 หมื่นล้านบาทสิ้นปี ใกล้เคียงเป้าของบริษัทที่ไม่ต่ำกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท
อีกทั้งคาดรายได้จากการขายสินค้าเติบโต เพิ่มขึ้น 42% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขยาย Partner อย่างต่อเนื่อง และจะเริ่มรับรู้รายได้จาก JGS (JV GUNKUL
นอกเหนือจากนี้ยังมีปัจจัยหนุนจาก ประกอบกับการ Spin-off บริษัทลูก SG Capital เข้าตลาดซึ่งคาดจะแล้วเสร็จในปี 65 นี้ ปลดล็อกมูลค่าและหนุนฐานทุนสำหรับเติบโตในปี 65-66 ในระยะสั้นไตรมาส 3/65 มีลุ้น New High อีกครั้งบนฐานรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องและค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง
โฆษณา