เหตุการณ์ใหญ่สุดๆ ของวงการหมากรุกโลก เกิดขึ้นเมื่อแม็กนุส คาร์ลเซ่น ผู้เล่นที่เก่งกาจที่สุดในยุคปัจจุบัน ตัดสินใจยอมแพ้คู่แข่งหลังจากเดินหมากไปได้แค่ 1 ตาเท่านั้น มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมกลายเป็นดราม่าขนาดนี้ วิเคราะห์บอลจริงจังจะเล่าให้ฟังตั้งแต่จุดเริ่มต้น
คนที่เล่นหมากรุกสากล ไม่มีใครไม่รู้จัก แม็กนุส คาร์ลเซ่น เขาคือสุดยอดฝีมือแห่งยุค เก่งกาจตั้งแต่เด็กและยืนระยะมาได้เรื่อยๆ ปัจจุบันเขาอายุ 31 ปี ก็ยังเป็นมือหนึ่งของโลกอย่างแข็งแกร่ง ล่าสุดไร้พ่าย 53 กระดานติดต่อกัน มีคะแนนสะสมโลกทิ้งห่างคนอื่นๆ แบบไกลลิบ
คาร์ลเซ่นเป็นอัจฉริยะที่สุดเท่าที่คุณจะนึกออก เขาสามารถขึ้นหมากได้หลายรูปแบบ ต่อให้คู่แข่งทำการบ้านมาขนาดไหน ก็โดนพลิกแพลงเล่นงานกลับไปได้เสมอ
สำหรับหมากรุกสากลนั้น จะมีการแข่งสองแบบ แบบแรกคือ Online Chess แข่งขันออนไลน์ ส่วนอีกแบบคือ Over-the-Board Chess แข่งแบบเผชิญหน้ากัน ซึ่งผู้คนมักจะให้เครดิตในการแข่งแบบเผชิญหน้ากันมากกว่า เพราะมันไม่มีช่องให้โกงได้
แล้วการเล่นออนไลน์โกงได้ยังไง? มันก็มีหลายวิธี ใครจะไปรู้ว่า อาจมีคนแอบๆ ช่วยอยู่ใกล้ๆ ก็ได้ หรือไม่ก็ใช้ AI อัจฉริยะช่วยเดินหมาก หา Best Move ในแต่ละเพลย์
ต้นเดือนกันยายน 2022 มีการแข่งขันหมากรุกแบบ Over-the Board Chess ชื่อรายการซิงเกฟิลด์คัพ ที่รัฐมิสซูรี่ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเป็นรายการที่จะเชิญนักหมากรุกระดับโลก 10 คน มาแข่งแบบพบกันหมด ใครชนะได้เงิน 5 แสนดอลลาร์
คาร์ลเซ่นลงแข่งในฐานะเต็งหนึ่ง เริ่มมา 2 กระดานแรก คาร์ลเซ่นชนะ 1 เสมอ 1 ยังรักษาสถิติไร้พ่ายต่อไป จนมาถึงกระดานที่ 3 เขาต้องเจอกับดาวรุ่งชาวสหรัฐฯ วัย 19 ปี ชื่อฮันส์ นีแมนน์
ฮันส์ นีแมนน์ เป็นนักหมากรุกอันดับ 47 ของโลก เขาถูกเชิญกะทันหัน เพราะนักกีฬาชื่อริชาร์ด แรพพอร์ต ติดโควิด นีแมนน์จึงเป็นผู้เล่นที่มีอันดับโลกต่ำสุดในบรรดา 10 คน ที่ได้แข่งขันรายการนี้
ตามจริงเมื่อเดือนสิงหาคม 2022 คาร์ลเซ่นแพ้ใน Online Chess ให้นีแมนน์ไปแล้วหนึ่งรอบ แต่ผู้คนก็ไม่ได้อะไรมาก เพราะมันเป็นการแข่งออนไลน์ อีกฝ่ายอาจจะแอบตุกติกก็ได้ พอมาคราวนี้เป็นการแข่งแบบเผชิญหน้า คงจะวัดฝีมือที่แท้จริงกันได้ตรงนี้
การแข่งขันเริ่มขึ้น คาร์ลเซ่นได้เริ่มก่อนด้วยหมากขาว ซึ่งปกติถ้าเขาถือหมากขาวในมือก็ยากมากๆ ที่จะแพ้ ก่อนเกมมีการคำนวณ ค่า Probability (โอกาสที่แต่ละฝ่ายจะชนะ) ปรากฎว่าระบบคำนวณให้นีแมนน์มีโอกาสชนะน้อยกว่า 5% เสียอีก
แต่ผลลัพธ์นั้น กลับเป็นนีแมนน์ที่ระเบิดผลงานยอดเยี่ยมที่สุด เดินได้ถูกต้อง แทบไม่พลาดเลย แถมยังเดาทางหมากของคาร์ลเซ่นได้อย่างสมบูรณ์แบบจนไม่น่าเชื่อ สุดท้ายพลิกชนะคาร์ลเซ่น หยุดสถิติไร้พ่าย 53 กระดานได้ชนิดช็อกโลก
คนในโลกออนไลน์ที่ได้ดู แบ่งความเห็นเป็นสองฝ่าย ฝ่ายแรกบอกว่า ทุกกีฬามันพลิกล็อกกันได้อยู่แล้ว ในเทนนิสต่อให้เป็นมือไร้อันดับ ก็ยังอาจจะพลิกชนะโนวัค ยอโควิชได้ แล้วจะแปลกอะไร ถ้าคาร์ลเซ่นจะแพ้นีแมนน์ในวันนี้
ยาค็อบ แอการ์ด แกรนด์มาสเตอร์ชาวเดนมาร์กกล่าวว่า "หากใครคิดว่าเรื่องนี้มีดราม่าล่ะก็ ผมว่าคงเป็นการล่าแม่มดแล้วล่ะ"
มีคนที่เชื่อ แต่ก็มีคนไม่เชื่อ เพราะมันเหลือเชื่อเกินไป จังหวะการเดินของนีแมนน์มันแม่นยำเหมือนใช้ปัญญาประดิษฐ์ช่วยเล่นมากกว่า
แล้วคาร์ลเซ่นคืออัจฉริยะแห่งยุค นี่ไม่ใช่คนที่มือวางอันดับ 47 จะชนะได้ง่ายขนาดนั้น ดึงเสมอยังยาก แต่อันนี้เดาทางได้แม่นเป๊ะทุกอย่างเลย
สื่อต่างประเทศวิจารณ์ว่า It’s not impossible, but it’s certainly an improbability แปลว่า "มันไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ แต่มันแทบไม่มีโอกาสเกิดขึ้นเลย"
อีกเรื่องที่ทำให้ชัยชนะครั้งนี้มันแปลก เพราะในกระดานนี้ คาร์ลเซ่นเลือกการขึ้นเกมที่ไม่ค่อยใช้ (Rare Line) แต่นีแมนน์รู้ทันหมดเลย นีแมนน์อ้างหลังจบเกมว่า เขาเคยเห็นคาร์ลเซ่นเล่นหมากแบบนี้มาก่อนที่ลอนดอนเมื่อ 2-3 ปีก่อน แต่พอมีคนไปย้อนดูแล้ว คาร์ลเซ่นเคยเล่นหมากแบบนี้จริง แต่ไม่ใช่ที่ลอนดอนอย่างที่กล่าวอ้าง แบบนี้นีแมนน์แค่จำผิดเฉยๆ หรือมีอะไรเป็นปริศนา ก็คาดเดาไม่ได้
หลังจากพ่ายแพ้จนเสียสถิติไร้พ่าย 53 กระดานติดต่อกัน คาร์ลเซ่น สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการถอนตัวจากการแข่งขันที่เหลือทั้งทัวร์นาเมนต์ทันที และเป็นครั้งแรกในชีวิต ที่เขาถอนตัวกลางคันระหว่างแข่งขันอีกด้วย
หลังถอนตัว คาร์ลเซ่นได้ทวีตคลิป เป็น Quote ของโชเซ่ มูรินโญ่ ที่พูดว่า "ผมขอเลือกไม่พูดดีกว่า เพราะถ้าผมพูด ผมคงจะเจอปัญหาใหญ่แน่"
ตอนนั้นที่มูรินโญ่พูด เป็นเหตุการณ์ในปี 2014 สโมสรเชลซีของเขา แพ้แอสตัน วิลล่า 1-0 โดยสองผู้เล่นเชลซี วิลเลียนกับรามิเรส ถูกใบแดงทั้งคู่ นักข่าวก็เลยไปถามหลังเกมว่า คิดยังไงกับการตัดสินของกรรมการ มูรินโญ่ก็เลยพูดประโยคนั้นออกมา คือจะสื่อทางอ้อมว่ากรรมการจงใจเอาเปรียบเชลซีหรือไม่ก็เจตนาโกง
สิ่งที่คาร์ลเซ่นทวีตในวันนั้น แม้ไม่ได้พูดตรงๆ แต่ก็พยายามจะบอกให้สังคมโลกได้รู้ว่า นีแมนน์เล่นไม่ซื่่อ แอบหาช่องโกงทางใดทางหนี่งแน่ๆ
คาร์ลเซ่นไม่มีหลักฐานอะไรเลยที่จะไปกล่าวหานีแมนน์ จนฟังดูเหมือนเขาแพ้เด็กแล้วพาล แต่ประเด็นคือคนในวงการก็ดูจะคล้อยตามไปกับคาร์ลเซ่น
ฮิคารุ นากามูระ นักหมากรุกระดับแกรนด์มาสเตอร์ ชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่น ที่มีคนติดตามในแชนแนลยูทูบมากกว่า 1 ล้านคน พูดกลางสตรีมสดว่า "บางที นี่อาจเป็นสิ่งที่ผมไม่ควรพูด แต่ผมก็จะพูด"
"ฮันส์ไม่ได้ลงเล่นในทัวร์นาเมนต์ชิงรางวัลมา 6 เดือน และผมคิดว่า แม็กนุส เชื่อว่าฮันส์คงจะโกงเขา การถอนตัวจากรายการ เป็นการแสดงจุดยืนของแม็กนุสแม้จะไม่ได้พูดโดยตรงก็ตาม"
การที่คนในสังคมหมากรุกเชื่อว่านีแมนน์โกง ไม่ได้คิดเองแบบเลื่อนลอย เพราะประวัติมันมีอยู่ ย้อนกลับไปในสมัยยังเป็นเด็ก นีแมนน์โดนจับได้ว่าโกงหมากรุกแบบออนไลน์มาแล้ว โดยใช้โปรแกรม AI ช่วย
นีแมนน์ใช้ AI ในการคิดคำนวณ Best Move หรือทางเลือกที่ดีที่สุด ซึ่งคอมพิวเตอร์ก็มีความสามารถในการคิดคำนวณที่สูงมากกว่ามนุษย์ทั่วไป แต่สุดท้ายนีแมนน์ก็โดนจับได้ว่าโกงถึง 2 ครั้ง ตอนอายุ 12 ปีและ 16 ปี อันนั้นแค่ที่จับได้ แต่เชื่อว่าเขาทำมาบ่อยกว่านั้นอีก
โดยนีแมนน์ให้สัมภาษณ์ในภายหลังว่า "ผมเรียนรู้จากความผิดพลาด ผมยอมรับความจริงและสารภาพตามตรง นั่นคือความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต และผมรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก"
นีแมนน์บอกว่าเขาโกงเฉพาะ Online Chess ไม่เคยโกงแบบ Over-the-Board Chess แล้วก็หยุดโกงมาหลายปีแล้วด้วย แต่ปัญหาคือ คนที่เคยโกงมาก่อน ก็ถูกเชื่อตลอดว่าคงจะโกงต่อไปถ้ามีโอกาส เพราะนิสัยคนเราไม่ได้เปลี่ยนแปลงง่ายๆ ขนาดนั้น
ช่วง 2 ปีหลังสุด นีแมนน์เล่นหมากรุกออนไลน์น้อยลง และโฟกัสที่ Over-the-Board Chess มากขึ้น และสร้างปรากฏการณ์เซอร์ไพรส์ขึ้นมา นั่นคือเอาชนะรัวๆ จนทำคะแนนสะสมโลก หรือ FIDE rating เพิ่มขึ้นมากกว่า 200 แต้ม ซึ่งในคนอายุไม่ถึง 20 ปีอย่างเขา ไม่เคยมีมาก่อน ที่จะชนะคู่แข่งได้ถล่มทลายจนโกยแต้มแรงกิ้งค์ได้เยอะขนาดนั้น
คือคนมันมีประวัติมาก่อน ทำอะไรก็โดนจับจ้องไปหมด ว่าซื่อสัตย์ หรือแอบเล่นแง่ เล่นตุกติก
หลังเกมชนะคาร์ลเซ่น ปรากฏว่าอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีผู้โด่งดัง ทวีตข้อความแซวนีแมนน์ว่า "คนมีพรสวรรค์ไปถึงเป้าหมายที่คนอื่นไม่เคยไปถึง คนฉลาดไปถึงเป้าหมายที่ไม่มีใครเคยเห็น (เพราะความฉลาดซ่อนอยู่ในตูดของแกไง)"
มัสก์แซวว่า นีแมนน์แอบซ่อนเครื่องส่งสัญญาณบางอย่างฝังไว้ในก้น เพื่อไม่ให้ทีมงานที่ตรวจรางกายแบบผิวเผินเจออุปกรณ์ได้
จากนั้นอาจให้ทีมงานที่ใช้ AI อยู่ด้านนอกสนามดูการแข่งแบบสดๆ อยู่ พอเห็นคาร์ลเซ่นเดินหมากตัวไหน ก็ส่งสัญญาณแบบไวเบรเตอร์ทางก้น ให้นีแมนน์เดินตามที่ AI แนะนำ
คนก็วิเคราะห์กันว่า เฮ้ย มันแค่มุกตลกเฉยๆ ล่ะมั้ง เพราะถ้านีแมนน์ทำจริงๆ เขาต้องจำสัญญาณเป็นโค้ดเลยหรอ ว่าสั้นยาว ยาวสั้น ถ้าเดินควีนต้องเป็นรหัสไหน เดินคิงเป็นรหัสไหน เป็นรหัสมอร์สเลยหรือไง
นี่เป็นเรื่องที่ผู้คนคุยกันมาหลายวัน ต่างคนก็ช่วยคิดว่านีแมนน์จะซ่อนเครื่องส่งสัญญาณตรงไหนของร่างกายได้บ้าง พอโดนแขวะเยอะๆ นีแมนน์ถึงกับประกาศว่า "ถ้าคนที่กล่าวหาว่าผมโกงอยากให้ผมแก้ผ้าทั้งตัวแล้วลงแข่ง ผมก็จะทำ"
นอกจากทฤษฎีเอาเครื่องส่งสัญญาณยัดก้นแล้ว มีคนนำเสนอไอเดียว่าอาจเป็นการโกงอีกรูปแบบหนึ่ง ที่เกี่ยวข้องกับความผิดพลาดของฝั่งคาร์ลเซ่นเอง
มีรายงานว่า ก่อนแมตช์ที่จะเจอกับนีแมนน์ คาร์ลเซ่นและทีมงานได้ประชุมร่วมกัน ว่าจะเดินหมากในลักษณะไหน
คาร์ลเซ่นและทีมงาน คุยกันว่าจะเริ่มหมากที่ 1 เดินไปในจุด d4 Nf6 หมากที่ 2 เดินไปที่ c4 e6 หมายที่ 3 เดินไปที่จุด Nc3 Bb4 เมื่อวางแผนเสร็จก็บันทึกการประชุมที่คุยกันไว้ในคอมพิวเตอร์
พอลงเล่นจริง นีแมนน์เดินหมากเหมือนรู้ว่า คาร์ลเซ่นจะเดินตรงนั้นเป๊ะเลย ดังนั้นก็เลยมีการวิเคราะห์ว่า นีแมนน์อาจจะแอบแฮ็กข้อมูลเข้ามา หรือไม่ก็อาจมีหนอนบ่อนไส้อยู่กับทีมของคาร์ลเซ่นก็ได้
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลไหนก็แล้วแต่ คาร์ลเซ่นเชื่อว่า นีแมนน์เล่นไม่ซื่อ และไม่ได้สู้กันอย่างตรงไปตรงมาแน่ๆ
คาร์ลเซ่น นักหมากรุกอันดับหนึ่งของโลกไม่พอใจ เช่นเดียวกับฮิคารุ นากามูระ นักหมากรุกที่มีคนติดตามมากกว่า 1 ล้านในยูทูบ ก็ไม่พอใจ จากนั้นในเวลาต่อมา เว็บไซต์ Chess.com ก็ไม่พอใจและสั่งแบนนีแมนน์ จากการเล่นหมากรุกในเว็บไซต์ของตัวเองอีก
ในมุมของนีแมนน์เขาเหมือนโดนทุกคนรุม เจ้าตัวบอกว่า เขาเอาชนะคาร์ลเซ่นด้วยความสามารถของตัวเองล้วนๆ อีกฝ่ายเป็นแชมป์โลกแล้วจะแพ้ไม่เป็นหรือยังไง
นีแมนน์กล่าวว่า "ผมจะไม่ปล่อยให้ chess.com, แมกนุส คาร์ลเซ่น และ ฮิคารุ นากามูระ คอยบั่นทอนทำลายชื่อเสียงของผมอย่างนี้"
ดราม่าว่าโกง-ไม่โกง ก็โต้เถียงกันมาเรื่อยๆ จนมาถึงวันที่ 19 กันยายน 2022 มีการแข่งรายการ จูเลียส แบร์ เจเนเรชั่นคัพ โดยเป็นการแข่ง Online Chess ผ่านทางเว็บ Chess24 โดยมีเงื่อนไขคือนักกีฬาทั้งสองคน ต้องเปิดกล้องผ่าน Microsoft Teams ไปด้วย เพื่อทำการไลฟ์ระหว่างแข่ง จะได้ไม่มีข้อครหา
คาร์ลเซ่นโคจรมาเจอกับฮันส์ นีแมนน์อีกครั้ง ท่ามกลางการจับตามองของแฟนหมากรุก ว่านีแมนน์เป็นของจริงหรือของปลอม ถ้าเป็นของจริงเขาต้องไล่บี้คาร์ลเซ่นได้อีกครั้งสิ
การแข่งเริ่มต้นขึ้น นีแมนน์เดินก่อนตาแรก จากนั้นคาร์ลเซ่นก็เดินตาของตัวเอง และนีแมนน์ก็เดินตาที่ 2
มีการขยับหมากของแต่ละฝ่ายรวมกันแค่ 3 ครั้งเท่านั้น จู่ๆ เรื่องที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น เมื่อคาร์ลเซ่นปิดกล้องแล้วขอยอมแพ้ไปเลย ท่ามกลางความงุนงงของคนพากย์และคนดูทั้งโลก
ปีเตอร์ เลโก้ แกรนด์มาสเตอร์ ที่รับหน้าที่บรรยายเกม อุทานขึ้นมาว่า "มันเกิดอะไรขึ้น นี่คือจบแล้วเหรอ?"
ทาเนีย ซัคเดฟ นักวิเคราะห์อีกคนที่อยู่ด้วยกันกล่าวว่า "แม็กนุส คาร์ลเซ่นเพิ่งขอยอมแพ้ เขาออกจากห้องไลฟ์ไปแล้ว และปิดกล้องด้วย นี่คือสิ่งที่เรารู้ตอนนี้"
การทำแบบนี้ของคาร์ลเซ่นเป็นการตอกย้ำว่า เขาไม่อยากข้องเกี่ยวกับคนโกงอย่างนีแมนน์ และสู้ยอมแพ้ไปเลยยังจะดีกว่าลดตัวมาลงแข่งด้วย
คือดูแล้ว เหมือนคาร์ลเซ่นจะไล่บี้ฝั่งนีแมนน์ให้ตายให้ได้ โกรธแค้นแบบไม่เผาผีกันเลยทีเดียว
สำหรับสถานการณ์ของเรื่องนี้ หยุดอยู่ตรงนี้ และมีปริศนามากมายเต็มไปหมด ที่เราหาคำตอบไม่ได้
- นีแมนน์เก่งขึ้นขนาดนั้นได้ยังไง การทำแต้มอันดับโลกพุ่งพรวดมากกว่า 200 คะแนนในช่วง 2 ปี มันแทบเป็นไปไม่ได้เลย หรือว่าเขาจะเป็นอัจฉริยะคนใหม่จริงๆ
- ทำไมนีแมนน์ถึงรู้ทางคาร์ลเซ่นแบบเป๊ะๆ แก้เกมอย่างถูกทุกอย่าง มันจะบังเอิญขนาดนั้นเลยหรือ
- คาร์ลเซ่น ไม่แพ้ใครถ้าถือหมากขาวมา 2 ปีเต็ม แต่ก็มาแพ้นีแมนน์ ที่เรียนหมากรุกด้วยตัวเอง ไม่มีโค้ชด้วยซ้ำ มันเป็นไปได้หรือ?
- เกมกับคาร์ลเซ่นที่ปะทะกันแล้วชนะ นีแมนน์โกงจริงหรือ ถ้าโกงทำยังไง เพราะเจ้าหน้าที่สนามตรวจจับไม่เจอเครื่องอีเล็กทรอนิกส์ หรือเขาจะเอายัดไปในก้นจริง แบบที่อีลอน มัสก์แซว
- คนที่เคยโกงมาบ่อยๆ จะกลับใจได้จริงหรือ หรือจะหาช่องทางการโกงที่แยบยลขึ้นเรื่อยๆ ให้คนอื่นจับไม่ได้
- หรือทั้งหมดทั้งสิ้น คาร์ลเซ่นแค่แพ้นีแมนน์เฉยๆ โดยไม่มีการโกง?
ความเห็นในออนไลน์ตอนแรกเทไปทางฝั่งคาร์ลเซ่น 90% - 10% แต่ภายหลังเมื่อหาหลักฐานไม่ได้ว่าการโกงเกิดขึ้น จึงค่อยๆ ลด เหลือ 60%-40% ฝั่งที่เชื่อคาร์ลเซ่นยังมีมากกว่า แต่ก็ค่อยๆ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
แต่ละฝ่ายก็มีเหตุผลมาหักล้างกันอย่างแข็งแรง ฝั่งที่เชียร์นีแมนน์บอกว่า "กฎของลิตเติ้ลวู้ดบอกไว้ว่า ในเหตุการณ์ 1 ล้านอย่างในโลก จะมี 1 ครั้งที่เป็นปาฏิหาริย์ มันคืออัตราส่วน 1 ต่อล้าน ดังนั้นการที่คุณเป็นปาฏิหาริย์เกิดขึ้นในโลกทุกวัน เพราะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นเป็นล้านอย่างในแต่ละวัน สำหรับหมากรุกก็เช่นกัน การแข่งขันมีขึ้นวันละ 1 ล้านกระดาน ถ้าหากปาฏิหาริย์จะมาเกิดในเกมที่นีแมนน์ชนะคาร์ลเซ่น มันก็เป็นไปได้ไม่ใช่หรือ?"
แต่ฝ่ายที่เชียร์คาร์ลเซ่นก็บอกว่า ถ้าคุณเคยเล่นหมากรุก คุณจะรู้ดี ว่าถ้าระดับมันห่างกันมากๆ มันไม่มีทางพลิกชนะได้ แล้วคนอย่างคาร์ลเซ่น ก็ไม่ใช่ว่าชนะ 100% เขาก็แพ้เป็น แต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีพฤติกรรมขี้แพ้ชวนตี แต่ในคราวนี้เขามี Reaction ที่ซีเรียสขนาดนี้ มันคงต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่ๆ
บทสรุปของเรื่องนี้ เราก็ไม่สามารถรู้ได้ ว่าการโกงเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ก็คงต้องดราม่ากันต่อไปอีกพักใหญ่เลยทีเดียว
อีกเรื่องที่เราได้เรียนรู้จากเหตุการณ์นี้ก็คือ ถ้านีแมนน์มีประวัติใสสะอาดมาตลอดล่ะก็ วันที่ชนะคาร์ลเซ่นได้ คงไม่มีใครคิดจะดิสเครดิตความสำเร็จของเขา ตรงข้าม คงมีแต่คนสดุดีเต็มไปหมด
ไม่ว่าจะวงการอะไรก็ตาม การโกง การทุจริต เมื่อทำไปแล้วหนึ่งครั้ง มันจะเป็นชนักติดหลังคนทำตลอดไป ต่อให้บอกว่ากลับตัวกลับใจแล้ว มันก็ยากที่คนส่วนใหญ่จะเชื่อ
คุณต้องใช้เวลามากมายหลายสิบปี กว่าจะกู้ชื่อเสียง กู้ศรัทธาขึ้นมาใหม่ ซึ่งบางทีอาจจะกอบกู้ไม่ได้เลยตลอดชีวิตก็เป็นได้
#CHEATINGSCANDAL
- 35
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
